จ๊ะจ๋า ทึ่งไอเดีย องค์บาก3 ชุบชีวิต จา เปยน ท่ารำ เป็น แอ็คชั่นการต่อสู้

เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นศิลปะการต่อสู้ฟอร์มยักษ์ที่สร้างความชื่นชอบ และเป็นที่ยอมรับทั้งในเมืองไทยและทั่วโลกสำหรับภาพยนตร์ องค์บาก โดยเฉพาะทุกฉากการต่อสู้ และคิวบู๊แอ็คชั่นที่คิดค้นออกแบบโดยตัวโทนี่ จาพนม และปรมาจารย์คิวบู๊พันนา ฤทธิไกร มาจนถึง องค์บาก3 บทสรุปของไตรภาคและการปิดตำนาน องค์พระหน้าบาก ที่ทุกคนรอคอย จา-พันนา ศิษย์อาจารย์ได้กลับมาสร้างความมหัศจรรย์ของศิลปะการต่อสู้ให้ปรากฎขึ้นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้ง นอกเหนือจากการนำเอาศิลปะอันทรงคุณค่าแห่งการร่ายรำอย่างโขนมาผนึกกำลังหลอมรวมเข้ากับศิลปะการต่อสู้ เกิดเป็น นาฏยุทธ์ สิ่งที่ทำให้นางเอกสาวหน้าหวาน จ๊ะจ๋าพริมรตา เดชอุดม ถึงกับทึ่งและชื่นชมในไอเดียของพระเอกผู้กำกับอย่างถึงขีดสุดนั่นคือการนำคุณประโยชน์ของท่วงท่าในการร่ายรำแบบต่างๆ ในทางนาฏศิลป์มาเป็นส่วนสำคัญในการเล่าเรื่อง ดำเนินื่องในองค์บากภาค3นี้ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตัวละครเทียน ที่รับบทโดย จาพนมให้กลับฟื้นมีชีวิตอีกครั้ง ในองค์บาก3พี่จาได้นำเอาการรำ เอานาฏศิลป์ ไม่ว่าจะเป็นของโขน ของขอม ของเขมร ของอัปสรา ของหลายๆ อย่างมาประยุกต์ได้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นการรำดัดตัว ซึ่งตรงนี้เป็นการใช้ท่ารำล้วนๆ เลยค่ะ เรียกว่า ดัดตัวทำให้เกิดการสมานกันของกล้ามเนื้อ การสมานกันของจิตใจของร่างกายให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พอเห็นท่าที่เขาดีไซน์ขึ้นมานี่ โอ้โห..ทึ่งเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ท่าดัดหลัง ท่าที่ดัดทั้งชีพจร ดัดทั้งอวัยวะภายใน รวมถึงขา เกลียวของกล้ามเนื้อที่มันจะถูกยืดเข้ายืดออกตรงนี้มันเกิดมาจากนาฏศิลป์ แปลกมาก และก็ไม่ใช่แค่การดัดตัวนะคะ พี่จายังนำเอานาฏศิลป์มาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้ ซึ่งเป็นการผนึกกำลัง การเปลี่ยนคู่ต่อสู้ให้เป็นคู่รำ ซึ่งตรงนี้พี่จาก็ดีไซน์ออกมาได้สุดยอดเหมืนกันนะคะ ส่วนการดีไซน์ท่ารำของตัวจ๊ะจ๋าเองก็จะมีในเรื่องของการรำขอพร เป็นการรำขอพรทวยเทพ เพื่อเป็นการรวบรวมศรัทธาของคนในหมู่บ้านเองให้กับเทียนซึ่งนอนไม่ได้สติไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้ทั้งจิตใจตัวเอง และก็ร่างกาย โดยใช้ท่ารำที่มีผลต่อเทพยดาฟ้าดินเพื่อมาเยียวยารักษาควบคู่ไปกับการใช้ยา คิดได้ไงที่นำเอาความงดงามของนาฏศิลป์มาสื่อความหมาย เล่าเรื่องออกมาเป็นภาษาภาพยนตร์ เตรียมพบกับ องค์บาก3 ที่สุดแห่งภาพยนตร์แอ็คชั่นระดับโลก กับการปิดตำนานที่คนทั้งโลกรอคอย 5 พ.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์