วิจารณ์หนัง โลงต่อตาย

วิจารณ์หนัง โลงต่อตาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปชมภาพยนตร์เรื่อง โลงต่อตาย (THE COFFIN) ขากลับบ้านผมได้นั่งรถมากับผู้บริหารในการถ่ายภาพท่านหนึ่ง ที่ได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยกันมา ในการสนทนามีอยู่ช่วงหนึ่งท่านบอกกับผมว่า หนังเรื่องไหน ถ้าไม่มีบทวิจารณ์ หรือไม่มีคนกล่าวถึงหนังเรื่องนั้นเป็นหนังไม่ดัง สำหรับเรื่อง โลงต่อตาย นี้เป็นหนังในกระแสที่อยู่นอกระบบ เป็นการร่วมลงทุนของคนทำหนัง 3 ประเทศด้วยกัน คือ ไทย-ฮ่องกง-สิงคโปร์ และบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับรางวัล บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (BEST PROJECT) หรือ โครงสร้างที่ดีที่สุด จากงาน HAF ( HONGKONG FILM FINANCIAL FORUM ) ที่ประเทศฮ่องกง ตั้งแต่ภาพยนตร์ยังไม่ถูกสร้าง เป็นการส่งเฉพาะบทภาพยนตร์เข้าประกวดจากผู้ทำหนังทั่วเอเชีย มีบทส่งเข้าประกวดมากกว่า 200 เรื่อง แล้วเรื่อง โลงต่อตาย นี้ไปได้รับรางวัลมา และนี่ก็คือแรงจูงใจที่ทำให้ผมอยากดูหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ หลังจากที่ผมดูจบแล้ว ก็บอกได้คำเดียวว่า บทเรื่องนี้เยี่ยมจริงๆ สมแล้วกับที่ได้รับรางวัลมา กับคำว่า โลงต่อตาย ตอนแรกผมคิดไปว่า น่าจะหมายถึงการทำพิธีที่ต้องเข้าไปนอนในโลงศพเพื่อการสะเดาะเคราะห์ไม่ให้เรามีอันเป็นไป แต่ผมทายถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะว่าคำว่า โลงต่อตาย ในที่นี้น่าจะหมายถึง การส่งความตายของเราต่อไปให้ผู้อื่น และผู้อื่นที่ว่านี้ดันไปเป็นผู้ที่เรารักมากที่สุดอีกด้วย เหมือนเป็นการโกงความตายอีกรูปแบบหนึ่ง หนังเคลียร์ในทุกปมที่ผูกไว้เป็นอย่างดี ตอนแรกผมนึกว่า ตัวแสดงที่ชื่อ เมย์ เป็นใคร ( แสดงโดยคุณ นภคปภา นาคประสิทธิ์ ) ที่ตามหลอกหลอนพระเอกตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ ทำไมไม่เฉลยสักที ทั้งๆที่ปมอื่นๆ เฉลยหมดแล้ว แต่ก็ได้คำเฉลยมาในช่วงท้ายสุดของเรื่อง ถือว่าเคลียร์หมดทุกปม ยอมรับว่าคนเขียนบทเก่งมากๆ ในเรื่องการตัดต่อภาพ ถ้าคนที่ไม่ใช่นักดูหนังอาจจะงงสักหน่อย แต่ถ้าดูจนจบเรื่องแล้วจะไม่งง หนังตัดไปตัดมา เพราะมีเหตุการณ์ที่ต้องถ่ายทอดอยู่สองเหตุการณ์หลักๆด้วยกัน คือเหตุการณ์ของ คริส ( อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ) และเหตุการณ์ของซู ( คาเรน ม็อค) ในสองเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดห่างกันถึง 5 ปี แต่หนังก็ตัดต่อมาเสมือนเป็นช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งก็มาเฉลยในตอนหลังว่าอยู่กันคนละปี การถ่ายภาพหลายฉากเลยทีเดียว บอกตามตรงว่าถ่ายได้มุมที่สวยมากครับ ในส่วนของนักแสดง คุณอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม นั้นไม่ต้องพูดถึง ผมว่าพระเอกคนนี้ ความสามารถของเขาสูงพอตัวอยู่ ดูจากหนังหลายๆเรื่องที่เขาแสดงมา ไม่ว่าจะด้านท่าทาง แววตา หรือการสื่ออารมณ์ คุณ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ทำได้ดีมาก แล้วถ้าเรื่องนี้ได้ 100 ล้านอีกเรื่อง ผมคงต้องยกคุณ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เป็นเจ้าพ่อหนังผี ไปเลย ว่าแต่ว่าผมยังไม่เคยเห็นคุณ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เล่นบทบู๊ล้างผลาญเลยนะครับ ถ้ามีคนจ้างให้เล่นก็ไม่รู้ว่าจะออกมาหน้าตาอย่างไงนะครับ น่าสนใจดี ในเรื่องของการแสดงของคุณ คาเรน ม็อค ซุปเปอร์สตาร์ชาวฮ่องกง ผมว่าเธอสุดยอดจริงๆ กับบทที่เธอเล่น เธอเล่นบทกลัวที่แสดงสีหน้าถึงความกลัวจริงๆ ไม่ได้ดูเหมือนเสแสร้ง นี่ผมดูไปดูมา ผมชักหลงใหลเธอเข้าไปอีกคนแล้วล่ะ แต่น่าเสียดายในส่วนของคุณ อะกิ ชิบูย่า นักแสดงสาวจากญี่ปุ่น ที่ในหนังบอกว่าเธอเป็นตัวเด่นอีกคน แต่กลับมีฉากที่เธอแสดงอยู่ 4-5 ฉากเท่านั้น ผมว่าน้อยมาก ผมก็เลยยังไม่เห็นว่าเธอได้แสดง เต็มที่แล้วสักเท่าไหร่ แต่ 4-5 ฉากที่เธอออกมาเธอก็ตั้งใจเล่นได้ดีนะครับ โดยเฉพาะฉากลับเฉพาะของคนหนุ่มสาวสองคน ( ไม่รู้ว่าใช้ตัวแสดงแทนหรือเปล่า ) สำหรับหนังผีในดวงใจผมก็มีหลายเรื่อง และเรื่องล่าสุดก็คงเป็นเรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ถ้าให้เปรียบเทียบหนังเรื่อง โลงต่อตาย กับเรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ หนังทั้งสองเรื่องมีฉากที่ทำให้เราตกใจและหลอนอยู่หลายฉากพอๆกัน หนังโลงต่อตาย จะเป็นหนังที่หนักไปทางหนังผีฮ่องกงมากกว่า และที่สำคัญหนังเน้นดราม่าสักครึ่งเรื่องเห็นจะได้ แต่เรื่องความน่ากลัวแล้ว ผมยังให้ชัตเตอร์น่ากลัวกว่าอยู่ดีครับ ส่วนฉากที่ทำให้ผมช็อกสุดๆ ก็คงเป็นฉากที่รถของคุณ คาเรน ม็อค โดนสิบล้อชนนั้นแหละ ทำเอฟเฟ็คท์ได้เนียนมาก สุดยอดเลย ดีใจกับหนังไทยที่สามารถทำได้ถึงระดับนี้แล้ว สำหรับฉากที่มีผีโผล่หรือฉากที่ต้องทำให้ตกใจ ก็ไม่ค่อยทำให้ผมตกใจสักเท่าไหร่ แต่อย่าเอาความรู้สึกของผมมาเป็นตัววัดนะครับ อาจเป็นเพราะว่าผมชอบดูหนังผีจนความรู้สึกตรงนี้ตายด้านไปแล้ว ก็ฉากที่ทำให้ตกใจหลายๆฉาก ผมนั่งเฉยไม่เห็นจะตกใจเลย แต่คนในโรงกรี๊ดแทบสลบก็หลายฉากเลยทีเดียว สำหรับเรื่องที่กวนใจที่สุด ก็คงเป็นเสียงพากย์ เพื่อนสาว ของคุณ คาเรน ม็อค ( ที่อยู่กับคุณคาเรนตลอด รู้สึกจะชื่อ แนน ) และ เพื่อนชาย ของคุณ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ( คนที่ไปเยี่ยมอนันดาที่โรงพยาบาล) ขอบอกว่า เสียงพากย์ไร้อารมณ์มาก พากย์ไร้อารมณ์สิ้นดี เหมือนท่องจำอะไรสักอย่างทำให้หนังดูแย่ลงไปในช่วงนี้ อีกเรื่องหนึ่งที่หนังผีส่วนมากจะมีคือฉากที่อยู่ในป่าในตอนกลางคืน ทำไมต้องมีสปอตไลท์ส่องอยู่ด้านหลัง แล้วก็มีควันลอยมาด้วยใครเป็นคนไปเปิดสปอตไลท์ตรงนั้น ในป่านะเปิดทำไม แล้วควันมาจากไหน ใครเผาอะไรอยู่ ไม่ใช่หมายถึงหนังผีเรื่องนี้ แต่ผมหมายถึงหนังผีทุกเรื่อง หาคำตอบไม่ได้สักที แม้แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังมี ใครรู้ช่วยบอกหน่อย มีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากรู้ คือถ้าคนที่ชอบไปทำพิธีอย่างนี้ (นอนในโลงศพเพื่อสะเดาะเคราะห์) ถ้ามาดูหนังเรื่องนี้แล้ว เขาจะกล้าไปทำพิธีอย่างนี้อีกไหม แล้วหนังเรื่องนี้จะมีอิทธิพลกับคนเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน? แต่ผมว่าหนังเรื่องนี้แฝงคติข้อคิดแบบธรรมะไว้เยอะทีเดียวเลยนะครับ สำหรับผม ถ้าผมให้ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ผมให้เต็ม 10 คะแนน เรื่อง โลงต่อตาย นี้ผมขอให้แค่ 8 คะแนน ก็พอแล้ว แล้วพวกคุณล่ะไปพิสูจน์กันมาหรือยัง ให้กี่คะแนนดี

วิจารณ์หนัง โดย TCK

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง โลงต่อตาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook