สัมภาษณ์พิเศษ " ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน "

สัมภาษณ์พิเศษ " ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน "

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด หรือ โรส วิดีโอ ผู้นำเข้าภาพยนตร์ จากต่างประเทศพร้อมรุกตลาดภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เตรียมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ที่พร้อมเข้าฉายปลายปี ด้วยหนังแอ๊กชั่นตามแบบฉบับของพระเอกกล้ามโต "ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน" ที่ครั้งนี้เหมาทั้งเล่นและกำกับฯ เองในชื่อตอน "จอห์น แรมโบ้" หรือ RAMBO 4 ทั้งนี้คุณอรพรรณ มนต์พิชิต รองประธานกรรมการสายงานภาพยนตร์ ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ ภาพยนตร์เรื่องดัง "จอห์น แรมโบ้" หรือ RAMBO 4 ได้มีโอกาสพาคณะผู้สื่อข่าวไปเยี่ยมกองถ่าย"จอห์น แรมโบ้" หรือ RAMBO 4 ที่กำลังถ่ายทำในประเทศไทย ณ จ.เชียงใหม่ แถมยังได้สัมภาษณ์พิเศษ "ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน"แบบคำต่อคำมาฝากแฟนๆ "แรมโบ้" ในเมืองไทยด้วย โดยเนื้อเรื่องของ "จอห์น แรมโบ้" หรือ RAMBO 4 ภาคนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของแรมโบ้ หลังจากที่เมื่อ 18 ปีก่อน แรมโบ้ภาค 3 ได้เดินหายไปในป่าแห่งหนึ่งในประเทศไทย และมีคนพบว่าแรมโบ้ใช้ชีวิตอย่างสมถะเรียบง่าย เป็นคนจับงูหาเลี้ยงชีพอยู่ที่ภาคเหนือของประเทศไทยเรื่องราวการผจญภัยและต่อสู่ของแรมโบ้จะเกิดขึ้นจากตรงนี้ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กล่าวว่า เมื่อประมาณ 1 ปี ครึ่งที่ผ่านมาซึ่งผมกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่อง Rocky BaBou ผมมีความรู้สึกอยากที่จะทำหนัง แอ๊กชั่น ดี ๆ ที่มาจากปัญหาจริง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาของประเทศพม่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เมื่อถามถึงว่าทำไม่ถึงเลือกเมืองไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กล่าวว่า จริงๆ แล้วผมตั้งใจอยากเข้ามาถ่ายทำแรมโบ้ 2 ในเมืองไทยอยู่แล้ว แต่ในที่สุดแรมโบ้ 2 ก็ไปถ่ายทำในประเทศเม็กซิโกเพราะเหตุผลบางประการ มาครั้งนี้ จอห์น แรมโบ้ เนื้อเรื่องมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศพม่าและบทเกี่ยวข้องกับเมืองไทยอยู่บ้าง ประกอบกับสถานที่ประเทศไทย มีความหลากหลายทั้งเรื่องเชิงวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยจึงเป็นสถานที่น่าประทับใจมากในการเข้ามาครั้งนี้ ผมทำวิจัยมาเยอะมาก ทั้งพูดคุยกับนักการเมืองที่อเมริกา องการสหประชาชาติ และคนพม่าอพยพ ยิ่งสืบค้นไปมากเรื่องราวของพม่าก็เหมือนหนังประเภทสยองขวัญ เป็นเรื่องราวที่โหดร้ายมาก แต่คนทั่วโลกรู้จักแต่ปัญหาของอิรัก ซัดดัม, โซมาเลีย ผู้คนไม่รู้เลยว่าในพม่าถือว่าเป็นสงครามกลางเมืองที่ยาวนานที่สุดในโลก มันเป็นสิ่งที่คุณสนใจเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กล่าวว่า มันเป็นสิ่งที่ผมสนใจเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว พม่าเป็นประเทศที่แปลกประหลาดและไม่ธรรมดามาก เค้าไม่สนใจอะไรเลย พม่าเป็นประเทศมีประเทศที่ร่ำรวยหนุนหลังอยู่ ผมต้องการตีแผ่เรื่องราวเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ชมพร้อมไปกับให้ความสนุกสนานกับฉาก แอ๊กชั่นมันส์ๆ ระยะห่างระหว่าง Rambo 3 ถึงภาคล่าสุดถึงได้ห่างกันนานมาก ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กล่าวว่า ได้รับการบอกกล่าวอีกว่า "ผมรู้ว่ามันนานมาก หลังจบภาค 3 ซึ่งเป็นการทำงานที่ยากแล้วผมมีปัญหาด้านการเมืองนอกจากนั้น เค้ายังกล่าวหาว่าผมใช้ยาเสพติด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผมท้อแท้และผิดหวังเช่นเดียวกับ "ร็อกกี้ 5" ซึ่งผมไม่คิดว่าจะได้ทำ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้โลกเปลี่ยนไปมาก ผมประหลาดใจมากที่คนอยากนำคาแร็กเตอร์นี้กลับมาทำใหม่และเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับร็อกกี้ในช่วงหลังๆ ส่วนมากคนหันไปนิยมหนังอย่าง Spiderman, Fantastic 4 แต่อย่างไรก็ตาม หนังอย่างแรมโบ้ก็มีคาแร็กเตอร์โดดเด่นและน่าจดจำ เพียงแต่ภาคนี้ผมใส่เนื้อหาความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในโลกนี้ลงไป" จากภาคที่แล้วถึงภาคนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กล่าวว่า แน่นอนค ตัว แรมโบ้ ในภาคนี้เริ่มไม่ค่อยมีความเชื่อถือในคนอื่นมีความแข็งแกร่ง และเข็มแข็ง บ้าปิ่น และมีความโกรธแค้นมากแตกต่างจาก Rambo ภาคอื่น ๆ ที่เค้ามีความสุขุม, เงียบขรึม, ไม่ค่อยพูด ดังนั้น "จอห์น แรมโบ้" ในภาคนี้ จึงเป็นภาคที่มันส์ และดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แรมโบ้ภาคนี้มีความยากกว่าภาคที่แล้วอย่างไร ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ได้กล่าวว่า มันเป็นหนังที่ยากที่สุดในชีวิตผม ผู้ชมในยุคนี้ก็แตกต่างจาก 20 ปีที่แล้ว มีความซับซ้อนในความต้องการรับชม ผู้ชมต้องการความสมจริงมากขึ้น มีความลุ่มลึกในเนื้อหา ดังนั้นหนังเรื่องนี้มีความสมจริงสมจังและยิ่งใหญ่อลังการมาก ในหนังเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของการ แอ๊กชั่นผจญภัย ของ แรมโบ้ถามถึงความคาดหวังต่อภาคนี้ เขาตอบอย่างหนักแน่น ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กล่าวว่า "ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้คงได้รับการตอบรับจากคนไทยอย่างดีมาก เพราะไม่ว่าจะสถานที่ถ่ายทำที่ใช้ประเทศไทย ทีมงานคนไทย และดาราคนไทยหลายๆ คนก็มาแสดงเรื่องนี้ นอกจากนั้น ยังใช้คนพม่าจริงๆ มาเล่นในบทที่มีความสำคัญ ซึ่งยากมากที่จะมีโอกาสได้ร่วมงานแบบนี้" หากถามถึงความรู้สึกต่อเมืองไทย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กล่าวว่า ผมรักเมืองไทย และความเป็นคนไทย นอกจากนี้ ทีมงานที่ทำงานร่วมกับผมยังเป็นบุคลากรที่มีความสามารถมาก ผมคิดว่าวงการภาพยนตร์ไทยแข็งแกร่งไม่แพ้ฮ่องกงเลยทีเดียวในส่วนงบประมาณได้รับการแจกแจงว่าใช้งบประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่หากรวมค่าทำโปรดักชั่นและการตลาดน่าจะถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท ภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งเล่นและกำกับเองและเป็นการกำกับครั้งแรกของคุณมีความยากง่าย อย่างไร ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กล่าวว่า ตอนแรกที่รับปากว่าจะกำกับ ผมไม่คิดว่ามันจะยากมากนัก แต่เมื่อมากำกับแล้วผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ยากที่สุดในชีวิตผมเลยทีเดียวมันเป็นงานที่เหนื่อยที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา แต่มันคุ้มค่ามากที่ได้มาทำ แต่การที่ผมได้มากำกับเองมันทำให้ผมได้บอกเรื่องราวในมุมมองของผมและผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี และไม่คิดว่าคนอื่นจะทำได้ในรูปแบบอย่างที่ผมทำ มันเป็นงานที่หินมาก และสามารถทำให้มุมกล้องถ่ายทอดออกไปเป็นมุมมองของ แรมโบ้อย่างแท้จริง หากถามถึงความรู้สึกของคุณต่อการแสดงของนักแสดงไทยอย่าง "ต๊อก"ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กล่าว เขาเป็นคนยอดเยี่ยม เขาดูหล่อ และมีบุคลิกดีมาก ตอนแรกผมไม่ได้คาดหวังไว้อย่างนี้เลย เขาว่องไวมาก ยิ่งในฉากแอ๊กชั่นเหมือนแมวเลยทีเดียว ผมเลยเพิ่มเติมบทแอ๊กชั่นให้เขา เปรียบเสมือนแรมโบ้ภาคภาษาไทยคนหนึ่ง ผมคิดว่าเขาจะมีอนาคตไกลทีเดียว ท้ายสุด ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ได้โปรเจ็กต์หนังในลำดับต่อไปว่า จะทำหนังเกี่ยวกับอดีตนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ที่มีน้องชายรํ่ารวยมาก มาวันหนึ่งได้เจอปัญหากับยาเสพติดจึงกลับมาหาอดีตนักแข่งรถคนหนึ่ง ณ เวลานั้นเขาไม่ได้แข่งรถมานานกว่า 20 ปี เป็นคนใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ซึ่งยากมากในการจะกลับมาคุยกันได้เหมือนเดิม "มันเป็นโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจ ซึ่งผมต้องเล่นและกำกับฯเองด้วย จริงๆ แล้วสตูดิโอที่ฮอลลีวู้ดอยากให้ผมได้สร้างหนังอีกสัก 2-3 เรื่อง ซึ่งผมก็เห็นดีด้วยและหลังจากนั้นผมคงเกษียณแล้ว" ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กล่าวทิ้งท้าย

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ สัมภาษณ์พิเศษ " ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน "

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook