บทสัมภาษณ์แรมโบ้ 4

บทสัมภาษณ์แรมโบ้ 4

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
John Rambo (Rambo IV) Interview สัมภาษณ์พิเศษ คำต่อคำของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน 1. ช่วยเล่าบทโดยคราวๆให้ฟังหน่อย ตอบ : เรื่องย่อ แรมโบ้ภาคนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของแรมโบ้ หลังจากที่เมื่อ 18 ปีก่อน แรมโบ้ภาค 3 ได้เดินหายไปในป่าแห่งหนึ่งในประเทศไทย และมีคนพบว่าแรมโบ้ใช้ชีวิตอย่างสมถะเรียบง่าย เป็นคนจับงูหาเลี้ยงชีพอยู่ที่ภาคเหนือของประเทศไทยเรื่องราวการผจญภัยและต่อสู่ของแรมโบ้จะเกิดขึ้นจากตรงนี้ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ได้กล่าวว่า เมื่อประมาณ 1 ปี ครึ่งที่ผ่านมาซึ่งผมกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่อง Rocky BaBou ผมมีความรู้สึกอยากที่จะทำหนัง Action ดี ๆ ที่มาจากปัญหาจริง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาของประเทศพม่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจ 2. ทำไม่ถึงเลือกเมืองไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ ตอบ : จริง ๆ แล้วผมมีความตั้งใจที่อยากจะเข้ามาถ่ายทำแรมโบ้ 2 ในเมืองไทยอยู่แล้ว แต่ในที่สุดแรมโบ้ 2 ก็ได้ไปถ่ายทำในประเทศ Mexico เพราะด้วยเหตุผลบางประการ มาครั้งนี้ John Rambo เนื้อเรื่องมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศพม่าและบทก็มีความเกี่ยวข้องกับเมืองไทยอยู่บ้าง ประกอบกับสถานที่ประเทศไทยมีความหลากหลายทั้งในเรื่องเชิงวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงบุคคลากร ผู้เชี่ยวชาญที่มีอยู่มาก ประเทศไทยจึงเป็นสถานที่ที่ Perfect มากในการเข้ามาครั้งนี้ 3. ได้ทำ Research เกี่ยวกับพม่าเยอะไหม ตอบ : ผมทำ Research มาเยอะมากทั้งพูดคุยกับนักการเมืองที่อเมริกา องการสหประชาชาติ และคนพม่าอพยบ ยิ่งสืบค้นไปมาก เรื่องราวของพม่าก็เหมือนหนังประเภทสยองขวัญ (Horror) มันเป็นเรื่องราวที่โหดร้ายมาก แต่คนทั่วโลกรู้จักแต่ปัญหาของอิรัก ซัดดัม, โซมาเรีย ผู้คนไม่รู้เลยว่าในพม่าถือว่าเป็นสงครามกลางเมืองที่ยาวนานที่สุดในโลก 4. และ เป็นสิ่งที่คุณสนใจเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า ตอบ : มันเป็นสิ่งที่ผมสนใจเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว พม่าเป็นประเทศที่แปลกประหลาดและ ไม่ธรรมดามาก เค้าไม่สนใจอะไรเลย พม่าเป็นประเทศมีประเทศที่ร่ำรวยหนุนหลังอยู่ ผมต้องการตีแผ่เรื่องราวเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ชมพร้อมไปกับให้ความสนุกสนานกับฉาก Action มัน ๆ 5. ทำไมระยะห่างระหว่าง Rambo 3 ถึงภาคล่าสุดถึงได้ห่างกันนานมาก ตอบ : ผมรู้ว่ามันนานมาก หลังจากจบ Rambo 3 ซึ่งเป็นการทำงานที่ยากมากแล้วผมมี ปัญหาทางด้านการเมืองนอกจากนั้นเค้ายังกล่าวหาว่าผมใช้ยาเสพติด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผมรู้สึกท้อแท้และผิดหวังเช่นเดียวกับ Rocky 5 ซึ่งผมไม่ได้คิดว่าจะได้ทำมันในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้โลกเปลี่ยนไปมากมาย ผม Surprise มากที่คนอยากที่จะนำ Character นี้ กับมาทำใหม่และเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับ Rocky ในช่วงหลัง ๆ ส่วนมากคนหันไปนิยมแฟนตาซี อย่าง Spiderman, Fantastic 4, The Hulk แต่อย่างไรก็ตามหนังอย่าง Rambo ก็มี Character ที่โดดเด่นเฉพาะและน่าจดจำได้อย่างยาวนาน เพียงแต่ภาคนี้ผมได้ใส่เนื้อหาของความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในโลกนี้ลงไป 6. หลังจากภาคนี้แล้วจะยังมี Rambo 5 อีกหรือไม่ ตอบ : ไม่มีแล้วครับ ผมมองโลกในอนาคตจะไม่มีสงครามทุกคนต้องการความสงบสุข 7. จากภาคที่แล้วถึงภาคนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ตอบ : แน่นอนครับ ตัว Rambo ในภาคนี้เริ่มไม่ค่อยมีความเชื่อถือในคนอื่นมีความแข็งแกร่ง และเข็มแข็ง บ้าปิ่น และมีความโกรธแค้นมากแตกต่างจาก Rambo ภาคอื่น ๆ ที่เค้ามีความสุขุม, เงียบขรึม, ไม่ค่อยพูด ดังนั้น John Rambo ในภาคนี้ จึงเป็นภาคที่มันส์ และดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา 8. ภาคนี้มีความยากกว่าภาคที่แล้วอย่างไร ตอบ : มันเป็นหนังที่ยากที่สุดในชีวิตผม ผู้ชมในยุคนี้ก็แตกต่างจาก 20 ปีที่แล้ว มีความ ซับซ้อนในความต้องการรับชม ผู้ชมต้องการความสมจริงมากขึ้น มีความลุ่มลึกในเนื้อหา ดังนั้นหนังเรื่องนี้มีความสมจริงสมจังและยิ่งใหญ่อลังการมาก ในหนังเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของการ Action ผจญภัย ของ Rambo 9. คาดการณ์ว่าภาคนี้กลุ่มเป้าหมายจะมีการเปลี่ยนไปหรือไม่ ตอบ : แน่นอนกลุ่มเป้าหมายเลี่ยนไป ก่อนที่ผมจะสร้างหนังเรื่องนี้ผมมองว่า ตอนนี้เป็น ตลาดของวัยรุ่นที่จะไปดูหนังในโรงภาพยนตร์คนกลุ่มนี้อาจจะเคยดู Rambo ในรูปแบบ VCD และ DVD แต่สำหรับ John Rambo กลุ่มเป้าหมายจะกว้างมากไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยรุ่น ผู้ใหญ่หรือคนที่ไม่เคยดู Rambo มาก่อนรวมไปถึงแฟน ๆ Rambo ก็จะกลับมาดูอีกแน่นอน 10. คุณคาดหวังกับผลของภาคนี้อย่างไร ตอบ : คิดว่าหนังเรื่องนี้คงจะได้รับการตอบรับจากคนไทยอย่างดีมาก เพราะว่าไม่ว่าจะ สถานที่ถ่ายทำที่ใช้ในประเทศไทย ทีมงานคนไทย และดาราคนไทยหลาย ๆ คนก็มาแสดงในเรื่องนี้ นอกจากนั้นยังใช้คนพม่าจริง ๆ มาเล่นในบทที่มีความสำคัญซึ่งยากมากที่จะมีโอกาสได้ร่วมงานแบบนี้ 11. คุณคิดอย่างไรกับประเทศไทย ตอบ : ผมรักเมืองไทย และความเป็นคนไทย นอกจากนี้ทีมงานที่ทำงานร่วมกับผมยัง เป็นบุคลากรที่มีความสามารถมากผมคิดว่าวงการภาพยนตร์ในประเทศไทยมีความแข็งแกร่งไม่แพ้ Hong Kong เลยทีเดียว 12. ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้งบประมาณในการถ่ายทำเท่าไหร่ ตอบ : ในการถ่ายทำใช้งบประมาณ 50 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2000 ล้านบาท แต่หาก รวมกับงบประมาณในการทำ Post Production และการตลาดแล้วคาดว่าจะใช้ถึง 100 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4000 ล้านบาท 13. ในเรื่องนี้คุณทั้งเล่นและกำกับเองไม่ทราบว่าในการกำกับครั้งแรกของคุณครั้งนี้มีความยากหรือไม่ อย่างไร ตอบ : ตอนแรกที่รับปากว่าจะกำกับ ผมไม่คิดว่ามันจะยากมากนัก แต่เมื่อมากำกับแล้วผม คิดว่ามันเป็นอะไรที่ยากที่สุดในชีวิตผมเลยทีเดียวมันเป็นงานที่เหนื่อยที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา แต่มันคุ้มค่ามากที่ได้มาทำ แต่การที่ผมได้มากำกับเองมันทำให้ผมได้บอกเรื่องราวในมุมมองของผมและผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี และไม่คิดว่าคนอื่นจะทำได้ในรูปแบบอย่างที่ผมทำ มันเป็นงานที่หินมาก และสามารถทำให้มุมกล้องถ่ายทอดออกไปเป็นมุมมองของ Rambo อย่างแท้จริง 14. อยากทราบถึงความรู้สึกของคุณต่อการแสดงของนักแสดงไทยอย่าง ต็อก ศุภกร ในเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร ตอบ : เค้าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมมาก เค้าเล่นได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ เค้าหล่อดูดีและมีบุคลิกที่ดี มาก ในตอนแรกผมไม่ได้คาดหวังไว้อย่างนี้เลย เค้าไวมาก ยิ่งในฉากแอ็คชั่นเหมือนแมวเลยที่เดียว ผมเลยเพิ่มเติมบท Action ให้กับเค้า เค้าเปรียบเสมือน Rambo ภาคภาษาไทยคนหนึ่ง และผมคิดว่าเค้าจะมีอนาคตที่ไกล 15. หลังจากเรื่องนี้แล้วคุณมีแผนงานอะไรบ้างอย่างไร ตอบ : ผมมีแพลนที่จะทำหนัง มันเป็นหนังที่เกี่ยวกับอดีตนักแข่งรถมอเตอร์ไซย์ ที่มี น้องชายที่รำรวยมากและมาวันหนึ่งได้เจอกกับปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดจึงได้กับมาหาอดีตนักแข่งรถคนหนึ่ง ณ เวลานั้นเค้าไม่ได้แข่งรถมานานกว่า 20 ปี เป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ซึ่งยากมากในการที่จะกลับมาคุยกันได้เหมือนเดิม มันเป็น Project ที่น้าสนใจ Project หนึ่ง ซึ่งผมตะต้องเล่นและกำกับเองด้วย จริง ๆ แล้ว Studio ที่ Hollywood อยากจะให้ผมได้สร้างหนังอีกสัก 2-3 เรื่อง ซึ่งผมก็เห็นดีด้วยและหลังจากนั้นผมคงเกษียณแล้ว

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ บทสัมภาษณ์แรมโบ้ 4

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook