นิโคลาส เคจ เปิดใจ หนัง เวิร์ลด์เทรด 'เยียวยา'บาดแผลมากกว่า'ซ้ำเติม'

นิโคลาส เคจ เปิดใจ หนัง เวิร์ลด์เทรด 'เยียวยา'บาดแผลมากกว่า'ซ้ำเติม'

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เหตุการณ์โศกนาฎกกรรมช็อกโลก 911 ทีเพิ่งจะครบรอบ 5 ปีผ่านไปแล้ว แต่ภาพเหตุการณ์และความรู้สึกยังคงตอกหนักฝังแน่นในความทรงจำของมนุษยชาติยากที่จะลบเลือน และล่าสุดถูกถ่ายทอดลงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สร้างจากเรื่องจริง World Trade Center ผ่านตัวละครเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ผู้รอดชีวิตจากการติดอยู่ใต้ซากตึกแฝดเวิร์ลด์เทรดเซ็นเตอร์ โดยฝีมือของผู้กำกับมือฉมัง โอลิเวอร์ สโตน ที่เคยฝากผลงานมาแล้วหลายเรื่อง โดยได้พระเอกมือระดับพระกาฬอย่าง นิโคลัส เคจ มารับบทเป็น นายตำรวจยศจ่านาม จอห์น แมคลัฟลิน แห่ง สถานีตำรวจพอร์ตออธอริตี้ หรือ PAPD ที่เป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มแรกที่ไปถึงอาคารเวิร์ลด์เทรด ภายหลังเครื่องบินชนตึก ก่อนที่จะถล่มลงมา จ่าจอห์นและลูกน้องอีกคนคือ วิลล์ จิมีโน่ คือสองนายตำรวจที่รอดชีวิตออกมาได้ราวปาฏิหาริย์ ซึ่งตอนนี้นอกจากผลงานเรื่อง World Trade Center ที่กำลังจะเข้าฉายบ้านเรา 21 ก.ย. นี้แล้ว นิโคลัส กำลังถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดรีเมค เรื่อง Big Hit in Bangkok ในเมืองไทยอยู่นานร่วม 2 เดือนอีกด้วย นิโคลัส เคจ ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงการรับบทเป็นจ่าจอห์นในภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมไปถึงความรู้สึกในฐานะคนอเมริกันที่มีส่วนร่วมต่อเหตุการณ์สะเทือนขวัญมนุษยชาติในครั้งนั้นด้วย มาถึงเมืองไทยทั้งทีนิโคลาสโปรยยาหอมคนไทยไว้เพียบเลยทีเดียว ทันทีที่ลงจากเครื่องบิน ก็รู้สึกว่าคนไทยทุกคนใจดี รู้สึกได้ถึงพลังของคนไทย และผมก็ชอบวิถีของคนไทยครับ รู้สึกคนไทยใจดี ผมชื่นชมคนไทย และดีใจที่ได้มาทำงานที่เมืองไทยครับ มีกลุ่มแฟน ๆ คนไทยที่ติดตามผลงานของเขาอยู่ ก่อนอื่นฝากถึงแฟนคนไทยไว้ด้วยว่า ผมอยากจะบอกว่ามาประเทศไทย ผมก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากคนไทยไปมากเลยครับ อย่างหนึ่งเลยคือชอบการให้ความเคารพซึ่งกันและกันของไทย ซึ่งผมจะนำกลับไปใช้ที่อเมริกาด้วย มาที่เรื่องราวใน เวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ที่นิโคลัสรับบทเป็นจ่าตำรวจ จอห์น แมคลัฟลิน ซึ่งเมื่อตอนที่เขาได้รับการติดต่อให้แสดงในภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ของโลกเรื่องนี้ เขารู้สึก ทำงานการแสดงมาก็ค่อนข้างเยอะนะครับ หลักหนึ่งในการเลือกแสดงความสามารถทางการแสดงของผมคือ จะใช้ความสามารถในการช่วยเหลือเยียวยาให้กับคนดู อย่างบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง Leaving LasVegas ที่ผมได้รางวัลออสการ์ เป็นบทบาทชีวิต ผมรับบทเป็นชายติดเหล้า ที่แสดงถึงความกล้า ความสู้ ให้คนได้ต่อสู้กับชีวิตต่อไป ผมพยายามที่จะรับบทที่จะได้เยียวยาคน ก็เป็นการช่วยเหลือคนอย่างหนึ่ง และเมื่อได้รับการเสนอบทจ่าจอห์น ก็ยินดีเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นโอกาสที่กระตุ้นให้คนที่ได้ดูต่อสู้กับชีวิตต่อไปครับ 11 กันยายน 2001 วันที่ไม่เพียงประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาจะต้องถูกเปลี่ยนโฉมหน้า แต่หมายถึงโลกก็ได้ถูกเปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย ในวันนั้น นิโคลัส เคจ เล่าแอลเอครับ แล้วก็ได้โทรศัพท์จากเพื่อน บอกให้เปิดโทรทัศน์ดูข่าว พอเห็นภาพนั้นก็อึ้งและตกใจมาก รู้สีกสะเทือนใจที่มีเหตุการณ์นี้ขึ้น ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นได้ และมันไม่เพียงเปลี่ยนประเทศอเมริกาแต่ยังเปลี่ยนโลกไปเลยครับ ถือได้ว่าเป็นแฟนตัวยงของโอลิเวอร์ สโตนมาก่อน อยากรู้ว่านี่เป็นเหตุผลหนึ่งหรือเปล่าที่ตัดสินใจรับเล่น เพราะอยากร่วมงานกับผู้กำกับมือฉมังผู้นี้ ผมเป็นแฟนตัวจริงของโอลิเวอร์ สโตนเลยครับ แล้วก็เชื่อมั่นในฝีมือของโอลิเวอร์ สโตน เขาสามารถสร้างหนังที่เป็นจริงได้ แล้วเขาก็เป็นคนที่มีความพยายาม ผมชื่นชมคนที่ชอบเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลาและชอบที่จะคว้าโอกาส เพื่อที่จะออกนอกกรอบ แต่ผมไม่ชอบคนที่ชอบทำอะไรซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกันทุกวัน เพราะเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงที่กระทบใจคน บทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้มีความแตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ อย่างไรบ้าง คนที่ผมเล่นคือ จ่าจอห์น ซึ่งยังมีชีวิตอยู่และมีตัวตนอยู่จริง ยังได้พบปะพูดคุยกัน ความกดดันสำคัญคือต้องแสดงออก เป็นตัวจริงของจอห์นให้ดูไม่เคอะเขินหรืออาย ต้องแสดงให้เขาเห็นตัวตนของเขาจริง ๆ เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริง และสำหรับการเตรียมตัวเล่นเรื่องนี้ นิโคลัสใช้วิธี การสัมภาษณ์จ่าจอห์นตัวจริงช่วยได้มากทีเดียวครับ เมื่อผมเจอจอห์น ผมมีคำถามเป็นพัน ๆ คำถามพรั่งพรูจะถามเขา ถามคำถามส่วนตัว ซึ่งบางคำถามก็ทำให้เขาอึดอัด แต่ก็จำเป็นต้องถาม อย่างเช่นเขาอยู่ใต้ซากตึกอย่างไร อยากให้ทุกคนลองนึกดูว่า เหตุการณ์ตรงนั้นเป็นอะไรที่ยากลำบากและทุกข์ทรมาน เขารอดชีวิตมาได้อย่างไร และตัวผมเองก็ไม่เคยเห็นใครที่จะสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ตรงนั้นมาได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องใช้จินตนาการของผมมาช่วยด้วย พร้อมกับดูพฤติกรรมและวิธีการที่เขาพูดคุยด้วยครับ ใช้สถานที่จริงเกือบทั้งหมดในการถ่ายทำด้วย ความที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในนิวยอร์ก มีหลายฉากที่ถ่ายทำในที่เกิดเหตุอย่างในสถานีตำรวจPAPD ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุจริง ก็ช่วยได้อย่างมาก เมื่อเราได้พูดคุยกับคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เราได้เห็นการทำงานของเขาจริง ๆ มีส่วนช่วยมาก ๆ ที่ทำให้การแสดงสมบทบาท การแสดงส่วนมากของนิโคลัสในเรื่อง ส่วนมากจะออกมาทางสายตาและน้ำเสียง อุปสรรคจึงมีไม่ใช่น้อย อุปสรรคคือการแสดงทางสายตา ผมจะต้องบังคับตัวเองให้แสดงเป็นผู้นำอย่างไร แต่ผมเชื่อว่าการที่มีภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้น ก็เพื่อที่จะช่วยเหลือผู้คนที่ยังทนทุกข์ทรมานและยังอยู่ในความเศร้า เพราะฉะนั้นความศรัทธาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะแสดงออกมาและพูดให้เป็นไปตามความรู้สึกและธรรมชาติตรงนั้น แถมเขายังต้องไปฝึกอยู่ในแทงค์น้ำด้วย สำหรับการเตรียมตัวและจำลองเหตุการณ์จริง เป็นเรื่องจริงครับ จริง ๆ ผมะสูตรนี้ เป็นการจำลองเหตุการณ์เหมือนจริง แล้วก็เป็นไอเดียของโอลิเวอร์ด้วย คือบทบาทของจอห์นจะต้องเจ็บปวดทรมานอยู่ใต้ตึก ซึ่งน่ากลัวมาก มันอยู่ในความมืด ผู้กำกับเลยแนะนำให้ไปฝึกในแท้งค์น้ำแห่งหนึ่ง ให้ลอยอยู่นิ่ง ๆ ในนั้น มืดมากและไม่ได้ยินอะไรเลย ซึ่งจะให้ความรู้สึกที่น่ากลัวและเครียดมาก แล้วก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายขึ้น เป็นประสบการณ์ที่ดีมากครับ พูดถึงนักแสดงหญิง มาเรีย เบลโล ที่รับบทเป็น ดอนน่า แมคลัฟลิน ภรรยาของจ่าจอห์น เธอเยี่ยมมากครับ เป็นนักแสดงหญิงที่สง่า โชคดีที่ได้ร่วมงานกับเธอครับ วกถามเรื่องการเมืองบ้านเขาบ้าง นิโคลัสกลับไม่ขออกความเห็นใด ๆ ปล่อยให้เป็นเรื่องของการเมืองไป แต่เขาก็ยังยืนยันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการซ้ำเติม หรือว่าเร็วเกินไปที่จะทำออกมา ผมเชื่อว่าการเปิดบาดแผลสิยิ่งดี มันคือวิธีหนึ่งในการรักษาและเยียวยาให้ยิ่งหายนะครับ เป็นนักแสดงชายที่มีผลงานต่อเนื่องและบทบาทการแสดงก็เข้มข้นขึ้นตามอายุงาน เขามีวิธีการคัดเลือกบทบาทและรักษาระดับตัวเองโดย การแสดงเป็นเรื่องท้าทายมากครับสำหรับผม ต่อไปนี้ผมจะเล่นหนังให้เหมือนกับเป็นเรื่องสุดท้ายในชีวิตผมจะได้ทุ่มเทกับมันให้มากที่สุด และสิ่งหนึ่งที่ในชีวิตของผมจะไม่ทำอย่างเด็ดขาดคือ การทำให้ผู้ชมเบื่อการแสดงของผมครับ ต่อมุมมองของเขาในการร่วมงานกับคนเอเชียในภาพยนตร์เรื่อง Big hit in Bangkok ที่ฮอลลีวู้ดนำไปรีเมค นิโคลัสก็ยินดีที่จะพูดถึงเช่นกัน จริง ๆ ผมเคยร่วมงานกับคนเอเชียมาแล้วครับ กับ จอห์น วู ใน (Face Off) แล้วก็รู้สึกชื่นชมนะครับ จะว่าไป ในฮอลลีวู้ด ผู้กำกับเอเชียก็เป็นที่ต้องการเยอะนะครับ คือลูกผมก็เอเชียครับ ถือซะว่าตัวผมก็เป็นคนเอเชียด้วยครับ แล้วถ้าดารานำในภาพยนตร์เวิร์ลด์เทรดเซ็นเตอร์จะต้องเผชิญหน้ากับก่อการร้ายที่พกอาวุธตัวจริงบ้าง เขาจะรับมืออย่างไร คงไม่ต้องเป็นถึงกับก่อการร้ายหรอกครับ แค่ใครที่มีอาวุธอยู่ ผมก็คงต้องบอกให้เขาปลดอาวุธซะก่อนล่ะ และเรื่องสงครามเป็นเรื่องสุดท้ายที่ผมคิดจะทำครับ นิโคลาสกล่าวทิ้งท้ายพร้อมยกมือไหว้อำลาอย่างสวยงาม. ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ นิโคลาส เคจ เปิดใจ หนัง เวิร์ลด์เทรด 'เยียวยา'บาดแผลมากกว่า'ซ้ำเติม'

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook