คุยกับ น้องเปา ผู้ถ่ายทอดภาพชีวิตราชินีลูกทุ่ง

คุยกับ น้องเปา ผู้ถ่ายทอดภาพชีวิตราชินีลูกทุ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บทสัมภาษณ์ "เปาวลี พรพิมล" ผู้ถ่ายทอดภาพชีวิตของราชินีลูกทุ่ง โดยรับบทเป็น "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ในภาพยนตร์เรื่อง "พุ่มพวง" ผลงานการแสดงครั้งแรกในชีวิต

แนะนำตัว สวัสดีค่ะ เปา - เปาวลี พรพิมล รับบทเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ในเรื่อง พุ่มพวง ค่ะ เล่าประวัติของเปาคร่าวๆ สักหน่อย เปาก็เริ่มร้องเพลงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เพลงที่ได้ยินตั้งแต่เด็กก็จะเป็นเพลงของแม่ผึ้ง (พุ่มพวง ดวงจันทร์)ทั้งนั้น เพราะที่บ้านชอบเพลงลูกทุ่ง และเป็นแฟนเพลงของแม่ผึ้งด้วย พ่อกับแม่เริ่มส่งเปาเข้าประกวด ตอนอายุประมาณ 9 ขวบ ไม่ว่าจะเป็นงานวัด งานอำเภอ งานประจำปี งานแต่ล่ะจังหวัดก็ไปมาหมดเลยค่ะ และเวทีใหญ่ๆ ที่เข้ามาประกวดในกรุงเทพจะเป็นชิงถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เป็นเวทีแรกเลยก็ได้ชนะเลิศรอบสัปดาห์ค่ะ แล้วก็เริ่มประกวดร้องเพลงตามรายการทีวีบ้าง อย่างรายการชิงช้าสวรรค์ แล้วก็รายการชุมทางเสียงทอง ล่าสุดก็ประกวดของรายการคว้าไมค์คว้าแชมป์ ช่องแฟนทีวี ได้แชมป์ออฟเดอะเยียร์ แล้วตอนนี้เปาก็กำลังเตรียมตัวทำเพลงเป็นนักร้องของค่ายแกรมมี่โกลด์อยู่ด้วยค่ะ ต้องผ่านการคัดเลือกจากหลายร้อยคนทั้งแคสติ้งและร้องเพลง ตอนที่ไปแคสติ้งครั้งแรกเปาเพิ่งเซ็นสัญญากับค่ายแกรมมี่โกลด์ไปไม่กี่อาทิตย์เองค่ะ ทางค่ายก็บอกให้เปาไปลองแคสติ้งภาพยนตร์เรื่องพุ่มพวง ได้ไม่ได้ไม่เป็นไรแต่อยากให้ไปลองดูก่อน ตอนไปแคสติ้งครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะว่ายังไม่รู้จักใครเลย และก็ไม่มีพื้นฐานทางด้านการแสดงด้วย แล้วทางทีมงานก็ขอให้ร้องเพลง 4 เพลง และก็ลองให้แสดงบทที่ทีมงานให้มาประมาณ 3 หน้า ยากมากเพราะต้องจำบทได้ทีเดียว 3 หน้า แต่เปาก็ทำเต็มที่ค่ะ แล้วน้องเปาโชว์เพลงอะไรไปบ้าง ก็มีเพลงนักร้องบ้านนอก เพลงกระแซะ เพลงตั๊กแตนผูกโบว์ และก็เพลงโลกของผึ้งค่ะ

ความรู้สึกเมื่อรู้ว่าเป็นสาวน้อยผู้โชคดีถูกเลือกให้มารับบทเป็น "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ตอนที่รู้ข่าวว่าได้แสดงเรื่องนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างมากที่ได้รับบทเป็น แม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เพราะว่าแม่ผึ้งถือว่าเป็นราชินีลูกทุ่งที่ใครๆ ก็รู้จัก เป็นต้นฉบับและต้นแบบของนักร้องลูกทุ่งในรุ่นต่อๆ มาอีกด้วย ตั้งแต่เล็กจนโตเปาก็คุ้นเคยกับเสียงเพลงของแม่ผึ้งมาโดยตลอด รวมถึงชีวิตของแม่ผึ้งกว่าจะก้าวมาเป็นราชินีลูกทุ่งได้นั้นต้องฝ่าฟันอุปสรรคอะไรมามากมาย กว่าจะโด่งดังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้กจักจนถึงทุกวันนี้ค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้แสดงภาพยนตร์ เป็นครั้งแรกและเป็นเรื่องแรกในชีวิตเลยค่ะ มีการเตรียมตัว และเตรียมความพร้อมก่อนถ่ายทำภาพยนตร์อย่างไรบ้าง มีการเตรียมตัวอย่างหนักพอสมควร เพราะว่าไม่เคยผ่านการแสดงที่ไหนมาก่อนเลย เปาจึงต้องไปเรียนแอคติ้ง เรียนร้องเพลง และก็เรียนเต้น จะเรียน 3 อย่างในวันเดียวกัน โดยจะเรียนร้องก่อน 1 ชั่วโมง แล้วก็เรียนเต้น 2 ชั่วโมง ต่อด้วยเรียนแอคติ้งการแสดง 3 ชั่วโมง ค่ะ เล่าถึงคาแร็คเตอร์ของ พุ่มพวง เป็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่มีความมุ่งมั่นทำตามฝันอยากเป็นนักร้องมาก ด้วยฐานะทางบ้านยากจนเธอจึงไม่ได้เรียนหนังสือ ก็จะอ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่มีความมานะอดทน เป็นคนมุ่งมั่นจริงจัง ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไม่เคยย่อท้อ จนในที่สุดก็ได้กลายเป็นนักร้องราชินีลูกทุ่งที่โด่งดัง ขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศ

เล่าเรื่องย่อ พุ่มพวง เรื่องราวของเด็กหญิงน้ำผึ้ง ที่ฝันว่าจะต้องเป็นนักร้องให้ได้ เรียนจบเพียงชั้นป.2 เพราะฐานะทางบ้านยากจนไม่มีเงินส่งเรียน อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่เธอมุ่งมั่นทำตามความฝันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอเองก็ตาม ก่อนตัดสินใจเข้ามาเผชิญโชคชะตากรรมในกรุงเทพ เริ่มเป็นหางเครื่องในวงของไวพจน์ เพชรสุพรรณ และทำให้ได้พบรักกับ ธีระพล นักดนตรีหนุ่ม ทำให้ชีวิตเกิดการพลิกผันจนได้พบกับครูมนต์ เมืองเหนือ ทำให้ความฝันเป็นจริงคือได้เป็นนักร้อง ซึ่งชีวิตก็ไม่ได้มีความสุขอย่างที่หวังไว้ ยังต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มากมาย ต้องเสียน้ำตา ต้องเสียคนรัก แถมยังป่วยเป็นโรคร้ายอีก แต่ด้วยความที่เป็นคนสู้ชีวิต ไม่เคยย่อท้อ ในที่สุดก็ได้เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง นอกจากจะได้ชมฝีมือการแสดงของน้องเปาแล้ว ยังได้ฟังน้ำเสียงร้องเพลงประกอบในภาพยนตร์อีกด้วย นอกจากจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องราวชีวิตของแม่ผึ้งตั้งแต่เด็กจนโตแล้ว ก็ยังเต็มอิ่มกับบทเพลงของแม่ผึ้ง เป็นบทเพลงที่ทุกคนต้องรู้จักและเคยฟังกันมาแล้วทั่วประเทศ ซึ่งเปาเองก็ขอเป็นตัวแทนในการถ่ายทอดน้ำเสียงในครั้งนี้ค่ะ มีหลายบทเพลงประมาณ 20 กว่าเพลงได้ เช่นเพลง กระแซะ นักร้องบ้านนอก โลกของผึ้ง ตั๊กแตนผูกโบว์ ผู้ชายในฝัน และอีกหลายๆ เพลงมากมาย

ความอลังการเรื่องชุดเสื้อผ้ารวมถึงหน้าผมในแต่ละฉากคอนเสิร์ต ก่อนอื่นต้องบอกว่าขอยกให้แม่ผึ้งเป็นผู้นำแฟชั่นเลยค่ะ ชุดสมัยนั้นมีทั้งเลกกิ้ง มีทั้งที่คาดผมเป็นโบว์ใหญ่ๆ ปัจจุบันนี้ก็ยังฮิตกันอยู่นะคะ แล้วยิ่งชุดขึ้นคอนเสิร์ตในแต่ละครั้งแต่ละฉากอลังการ และสวยงามมาก ก็ต้องขอบคุณพี่ป็อป สไตลิสต์ ที่ทำชุดในเรื่องพุ่มพวงออกมาได้ไม่ซ้ำกันเลยค่ะ ทำออกมาแล้วเหมือนมากๆ ในเรื่องนี้เปาได้ใส่ชุดไม่ต่ำกว่า 20 ชุดเลยนะคะ นี่ยังไม่รวมชุดหางเครื่องหรือชุดของนักแสดงคนอื่นๆ ส่วนเรื่องหน้าผมเปาก็ชอบมากค่ะ ในแต่ละชุดการแต่งหน้าทำผมก็จะเป็นอีกแบบ วันไหนที่มีฉากคอนเสิร์ตหลายคอนเสิร์ต เปาก็ต้องเปลี่ยนชุดเปลี่ยนหน้าผมทั้งวันเลยค่ะ มีวันหนึ่งเปาเปลี่ยนไปประมาณ 10 ครั้งได้ ส่วนตัวแล้วเปาชอบผมสั้นคิดว่าสักวันเปาจะตัดทรงนี้ให้ได้(ยิ้ม) มีชุดไหนที่ชอบและถูกใจน้องเปามากที่สุด ชุดที่ชอบมากที่สุดจะเป็นชุดลายเสือค่ะ ส่วนตัวเปาชอบสีเหลืองก็เลยถูกใจชุดนี้ ฉากประทับใจในเรื่อง พุ่มพวง เป็นการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรก แล้วยังได้รับบทเป็น พุ่มพวง ก็ชอบทุกๆ ฉากและอยากจะจดจำทุกฉากไปตลอดชีวิตเลยค่ะ โดยเฉพาะฉากขึ้นคอนเสิร์ตในแต่ละครั้ง แล้วในเรื่องจะมีช่วงที่แม่ผึ้งเริ่มป่วยไม่สบาย แต่ด้วยความที่รักการร้องเพลงก็ยังที่จะพยามขึ้นคอนเสิร์ตเพื่อแฟนเพลงของแม่ผึ้ง ยกตัวอย่าง ฉากโลกดนตรี ฉากนี้พุ่มพวงทำงานหนักมากก่อนขึ้นคอนเสิร์ตก็ต้องถ่ายหนังข้างเวที แล้วค่อยขึ้นไปร้องเพลง ทั้งที่ตัวเองก็ไม่สบายแต่ก็ยังสู้จนสุดท้ายตัวเองก็เป็นลม ล้มกลางเวที สำหรับเปาแล้วฉากนี้ค่อนข้างยากเปาจะต้องร้องเพลงไปด้วย ร้องไห้ไปด้วย และต้องเป็นลม หลายเทคอยู่เหมือนกันค่ะ หมดน้ำตาไปหลายรอบมาก แล้วก็ล้มเป็นลมหลายรอบเช่นกันค่ะ

ร่วมงานกับพระเอกหล่อมาดเข้ม ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ เป็นอย่างไรบ้าง ตอนแรกยังไม่รู้ว่าใครเป็นพระเอก แล้วพี่ทีมงานมาบอกว่าพระเอกคือ พี่ป๋อ - ณัฐวุฒิ สกิดใจ ตอนนั้นเปาเองก็ยังอยู่ที่สุพรรณบุรี ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ดีใจมาก ยังคิดว่าจริงหรอเป็นพี่ป๋อจริงๆ หรอ เปาจะได้เจอพี่ป๋อตัวจริงแล้ว (หัวเราะ) และความรู้สึกต่อมาก็คือ เปาเป็นหน้าใหม่ไม่เคยแสดงอะไรมาก่อนเลย แล้วถ้าเราเล่นไม่ดีเนี่ยพี่เขาจะว่าไหม ก็เริ่มรู้สึกกดดันตัวเองล่ะ แต่พอได้มาร่วมงานกันพี่ป๋อเป็นคนกันเองมาก คิวแรกเจอกันพี่ป๋อก็เข้ามาแกล้งแล้ว และเวลาอยู่ในกองก็ชอบขอให้เปาร้องเพลงให้ฟัง แล้วพี่ๆ ในกองก็จะขำกัน ส่วนเรื่องการแสดงก็ต้องขอขอบคุณพี่ป๋อนะคะที่ช่วยแนะนำเทคนิคการแสดงให้กับเปา นับว่าเป็นครูด้านการแสดงคนหนึ่งเลยค่ะ การร่วมงานกับผู้กำกับ บัณฑิต ทองดี เป็นอย่างไรบ้าง ตอนที่เปาไปแคสติ้งครั้งแรกดูไม่รู้เลยว่าพี่เขาเป็นผู้กำกับ เพราะพี่อ็อดเขาจะนิ่งมาก แต่พอวันเข้าฉากวันแรกพี่อ็อดเข้ามาคุยด้วย พี่อ็อดใจดีมากเลยค่ะ บางฉากเปาแสดงไม่ได้ พี่อ็อดก็จะแนะนำว่าเปาลองทำแบบนี้ดู หรือลองทำแบบนั้นสิ อยู่ในกองพี่อ็อดเป็นคนขี้เล่น สนุกสนาน ทำให้ทีมงานในกองถ่ายยิ้มและหัวเราะตลอดค่ะ

ความประทับใจที่มีต่อ แม่ผึ้ง หรือพุ่มพวง ดวงจันทร์ แม่ผึ้งนับว่าเป็นราชินีลูกทุ่งที่เปาศรัทธามาตลอด ฟังเพลงของแม่ผึ้งแล้วก็ซึบซับมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะกี่บทเพลงก็ตาม เวลาที่เปานำเพลงของแม่ผึ้งไปร้องก่อนที่จะร้อง เปาจะยกมือไหว้แม่ผึ้งก่อนทุกครั้ง เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจ เพราะแม่ผึ้งเป็นสุดยอดของราชินีลูกทุ่ง และยังเป็นแรงบันดาลใจต้นๆ เลยที่ทำให้เปาได้ประกวดร้องเพลงค่ะ บทเพลงที่ชื่นชอบที่สุดของพุ่มพวง ดวงจันทร์ นักร้องบ้านนอก จะเป็นเพลงที่ชอบมากที่สุดค่ะ คิดว่าเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ คือความอัจฉริยะของแม่ผึ้ง ที่เรียนจบมาแค่ ป.2 สามารถร้องเพลงและจดจำบทเพลงได้กว่า 500 เพลง และเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น เข้มแข็งอดทนอย่างมาก ยอมฝ่าฟันอุปสรรคเรื่องราวต่างๆ เพื่อความฝันของตัวเอง จนกลายเป็นราชินีลูกทุ่งของคนไทยทั้งประเทศ สิ่งที่คนดูจะได้จากการชมภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง เปาเชื่อและมั่นใจว่าถ้าได้ชมภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง แล้ว จะเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับหลายๆ คนที่มีความฝันของตัวเอง หรือใครที่กำลังมีปัญหา ท้อแท้ในชีวิต ก็จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้ก้าวต่อไปได้ค่ะ

ฝากผลงาน ขอฝากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ด้วยนะคะ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเปาเลย เปาเองก็ตั้งใจและเต็มที่อย่างมาก และอยากจะเชิญชวนแฟนเพลงของแม่ผึ้ง คนที่รักเพลงลูกทุ่ง รวมถึงทุกๆ คนที่มีความฝัน มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้กัน รับรองว่านำไปเป็นแรงบันดาลใจได้อย่างแน่นอน 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์นะคะ

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ ของ คุยกับ น้องเปา ผู้ถ่ายทอดภาพชีวิตราชินีลูกทุ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook