สัมภาษณ์ ตุ้ย เกียรติกมล หนัง กอด

สัมภาษณ์ ตุ้ย เกียรติกมล หนัง กอด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บทบาทที่ได้รับในเรื่องกอดเป็นอย่างไร ในเรื่องนี้รับบทเป็น ขวาน คาแร็คเตอร์เป็นคนที่ไม่พอใจในตัวเอง เป็นคนที่ขัดแย้งและมีความคิดซับซ้อนในตัวเองตลอดเวลา อาจเป็นเพราะรู้สึกว่ามีส่วนเกินอะไรบางอย่าง แล้วคนรอบข้างก็เหมือนจะคอยตอกย้ำตลอดว่าเราเป็นตัวประหลาด

บท ขวาน แตกต่างจากตัวจริงของเรามากน้อยแค่ไหน สำหรับนิสัยและความคิดก็มีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกับผม ตอนแรกก่อนที่จะเปิดกล้อง ก็ถามพี่คงเดชไปว่าทำไมถึงเลือกผม เค้าก็บอกว่าได้ดูผมตอนอยู่ในบ้าน AF ตลอดเวลา และเห็นความไม่พอใจในตัวเองของผมบางอย่างที่ค่อนข้างชัดเจน เช่นเวลาผมซ้อมร้องเพลง ก็มักไม่ค่อยพอใจในตัวเองอยู่บ่อยๆ ซึ่งมันก็ตรงกับตัวขวานมาก และบวกกับนิสัยอย่างอื่นหลายๆ อย่างเช่นรักแม่ เป็นห่วงแม่ตลอดเวลา อารมณ์ร้อน อารมณ์เสียในบางเวลา ซึ่งมีอะไรที่รู้สึกว่ามันคล้ายกับตัวละครตัวนี้มากเหมือนกัน เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรก พอได้มาเล่นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ใหม่ๆ ก็เกร็งพอสมควร เพราะเราไม่มีความรู้เลยว่าหนังถ่ายทำกันยังไง ก็ถามจากคนที่มีประสบการณ์มาก่อนอย่างบอยที่เคยเล่นหนังเรื่องตั๊ดสู้ฟุดมาแล้ว หรือถามนางเอกของเราเองคือกระแต ซึ่งทั้งสองคนก็ได้ให้คำปรึกษาอย่างดีมาก ทำให้เราลดความประหม่าลง พอเปิดกล้องเลยทำให้ยิ่งลดความเกร็งลงไปเลย เพราะทีมงานน่ารักมาก ตากล้อง ช่างไฟ ผู้กำกับ หรือแม้กระทั่งคนหาน้ำให้กิน มันเหมือนครอบครัวไปแล้ว รู้สึกว่ามันยากกว่าละครที่เคยเล่นมาหรือไม่ อย่างไร ยากครับ ยากตรงถ้าพูดถึงในแง่ของการถ่ายทำ ซึ่งตรงนี้มันยากกว่าอยู่แล้ว เพราะถ่ายหนังจะมีแค่กล้องเดียว ก็ต้องคอยเปลี่ยนถ่ายมุมนั้น มุมนี้กว่าจะได้ฉากนึง ถ้าในแง่ของบทบาทก็ยากพอสมควรกว่าจะปรับได้ว่าขวานต้องเป็นยังไงในรูปแบบของเรา ซึ่งในเมื่อผู้ใหญ่วางใจมอบหมายให้เราแล้วเราก็ต้องเต็มที่ คือก่อนเล่นก็ต้องทำความคุ้นเคยกับบท ต้องนั่งนึกภาพออกมาว่าขวานควรจะเป็นยังไง ต้องพยายามเข้าใจคือเหมือนเราแทบจะกลืนกินกับเนื้อเรื่องและบทไปก่อนที่จะถ่ายทำซะอีก ซึ่งจะทำให้ช่วยได้มากเมื่อถึงเวลาถ่ายทำจริงๆ ถ้ามีโอกาสได้เล่นหนังอีก ติดใจการเล่นหนังแล้วหรือยัง ตอนนี้ก็รู้สึกชอบนะ อย่างที่เคยลั่นไว้ตอนออกจากบ้าน AFแล้วว่าอยากจะลองทุกๆ งาน สำหรับภาพยนตร์ก็ถือว่าสนุกและได้ความรู้มากเลยตลอดระยะเวลาที่ถ่าย 2 -3เดือน ก็ได้ความรู้จากพี่ๆตากล้องและผู้กำกับซึ่งเค้าจะสอนและแนะนำเราตลอดเวลา ทำให้เรามีพื้นฐานในการแสดงเพิ่มมากขึ้นจากเดิมมาก มีการเตรียมตัวอย่างไรที่จะมาเล่นเรื่องนี้ ก็จะมีเวิร์คช็อบกันก่อน คือมีการทำความคุ้นเคยกับบทโดยมีครูแอ๋วมาสอนก่อน มีการต่อบทกัน ต้องอ่านบททั้งเรื่องและทำความเข้าใจกับบทพร้อมกับผู้กำกับ ซึ่งทำให้เราเข้าใจในเนื้อเรื่องมากขึ้น แต่ต้องไม่มีการคิดไว้ก่อนว่าจะเล่นยังไง เพราะผู้กำกับต้องการความสด มันจะได้เป็นอะไรที่ใหม่ เพราะมันจะได้ออกมาจากขวานในรูปแบบของเราจริงๆ ได้ร่วมงานกับกระแตเป็นอย่างไรบ้าง กระแตเป็นคนน่ารัก เข้ากันง่าย สนิทกันเร็ว เวลามีใครถามผมว่าผมเล่นกับใคร พอบอกไปว่าเล่นกับกระแต ทุกคนก็โอ้โหกันหมด แต่พอผมได้รู้จักได้สนิทใกล้ชิดกันจริง ๆ เค้าไม่ได้เป็นคนที่เซ็กซี่เลย เค้ายังดูใส ๆ น่ารัก ๆ แบ๊ว ๆ ด้วยซ้ำ ติงต๊องไปวัน ๆ และด้วยความสนิทที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วก็ทำให้การทำงานง่ายขึ้นมากด้วย รู้สึกอย่างไร เขินบ้างหรือไม่ที่ต้องเล่นคู่กับกระแต มีหลายฉากพอสมควรนะที่เขิน โดยเฉพาะฉากที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกัน มันเป็นธรรมดาของผมอยู่แล้ว เห็นผม ฮาๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่มีน้ำยา ก็จะเขินๆกันไปหลายๆตอนที่ทำให้เราต้องได้ใกล้ชิดกัน แม้กระทั่งจนแสดงจบแล้วนึกว่าจะไม่ต้องมีแล้ว พอมาถ่ายโปสเตอร์ก็ต้องมาใกล้กันอีก ซึ่งกว่าจะชินก็ต้องเกร็งและสั่นอยู่นาน คนรอบข้างก็จะรู้ว่าเราเกร็งมาก แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีครับ หลังจากถ่ายทำกันมาทั้งหมดแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง ชอบเลย เพราะพี่คงเดชมีการกำกับที่เข้าใจได้ง่าย และไม่มีอะไรซับซ้อน เค้ามีการกำกับที่ง่ายทำให้เราไม่เกร็ง ซึ่งบางทีเราไปเล่นโดนใจเค้าเองเพราะมันเป็นตัวเราอยู่แล้ว เราพยายามนำเสนอและพรีเซนต์ออกมาว่าขวานในรูปแบบของเราเป็นอย่างนี้ ซึ่งเค้าก็จะบอกว่าจริงๆ พี่ไม่ได้เป็นคนกำกับตุ้ยหรอก ตุ้ยแหละเป็นคนกำกับตุ้ยเองว่าขวานเป็นยังไง เพราะมันคือตัวเราจริงๆ แล้วเค้าแค่เขียนไว้เป็นตัวหนังสือเยอะแยะมากมาย แต่มันเป็นแค่นามธรรมเท่านั้นเอง ถ่ายทำมาทั้งหมดฉากไหนยากสุด จริงๆแล้วมันยากทุกฉากเลย ทั้งฉากที่ต้องใช้แฮนด์ทาเลนท์ หรือฉากซีนอารมณ์เศร้า พอมานั่งนึกย้อนกลับไป ถ้าให้กลับไปถ่ายอีกก็ไม่ไหวนะแต่ไม่รู้ตอนนั้นมันผ่านไปได้ยังไง ซึ่งทำให้เราฮึกเหิมในการทำงานต่อไปในอนาคต ได้มาร่วมงานกับพี่คงเดชแล้วเป็นยังไงบ้าง โดยส่วนตัวถือว่าได้ซึมซับความคิดความอ่านของผู้กำกับคนนี้ได้อย่างมาก ทำให้ผมค่อย ๆ เรียนรู้ว่าโลกของภาพยนตร์ในมุมมองของเค้ามันเป็นยังไง ซึ่งแรกๆอะไรๆมันก็แปลก ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ซึ่งในความขัดแย้งต่างๆในหัวผมมันก็กลับเริ่มคล้อยตามละ เค้ามีวิธีการถ่ายทำและการทำงานที่เจ๋ง ใครไม่ได้สัมผัสจะไม่รู้ และผมโชคดีอย่างนึงที่ผมเข้ากับคนอื่นได้ง่าย แล้วเจอแต่ทีมงานที่น่ารักๆ ทุกคนเป็นทีมเวิร์คจริงๆ คาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้ ผมแค่คิดว่าจะได้ไปนั่งดูหนังของตัวเองในโรงหนัง ไม่ได้คิดถึงผลตอบรับอะไรมากมาย เพราะในส่วนตัวผม ครั้งหนึ่งในชีวิตเคยเข้าไปอยู่ในโรงหนังที่มีพระเอกคนหนึ่งเข้าไปนั่งดูอยู่ด้วย ซึ่งเป็นวันรอบสื่อมวลชน ตอนนั้นเรายังเป็นเด็กในโรงหนังอยู่เลย ซึ่งพอหนังจบเรื่องพระเอกคนนั้นก็ลุกขึ้นมา แล้วยกมือไหว้คนในโรงหนัง คนก็ปรบมือให้ เป็นความรู้สึกที่ดีมาก มันทำให้เราจดจำภาพตรงนั้น แต่มาวันนี้เราได้มาเล่นหนังของตัวเอง แค่คิดก็ขนลุกแล้ว และเรื่องนี้ผมคิดว่าผมทำดีที่สุดแล้ว ทำดีกับมันที่สุดแล้วจริงๆ ซึ่งเราก็เต็มที่กับมันอยู่แล้ว เราก็มั่นใจว่ามันต้องออกมาดีและส่วนที่เหลือก็คงต้องให้ทุกคนตัดสินแล้วครับ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ สัมภาษณ์ ตุ้ย เกียรติกมล หนัง กอด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook