เกมชีวิต...ลิขิตหัวใจ ( The Hospital )

เกมชีวิต...ลิขิตหัวใจ ( The Hospital )

เกมชีวิต...ลิขิตหัวใจ ( The Hospital )
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แนวละคร ดราม่า ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เวลา 22.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เรื่องย่อ ภายใต้ชุดขาวอันแสนสะอาดสะอ้านได้ห่อหุ้มจิตใจที่แตกต่างกันของแพทย์เอาไว้ ดูเหมือนว่าอาคารใหญ่สีขาวที่สะอาดและสงบเงียบนั้น แต่ภายในกลับมีการแก่งแย่งชิงดีกันอย่างเงียบๆ แพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรมและศัลยกรรมต่างพากันช่วงชิงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาครอบครอง โดยแบ่งกันออกเป็นสองฝักสองฝ่าย เหตุการณ์ต่างๆ ได้เริ่มต้นขึ้นภายในโรงพยาบาลแห่งนี้ รุ่งเช้าที่หน้าประตูใหญ่ของโรงพยาบาล คนไข้ ญาติคนไข้ แพทย์และพยาบาลต่างพากันเดินขวักไขว่อยู่ที่ห้องโถงใหญ่ของโรงพยาบาล ทำให้บรรยากาศภายในโรงพยาบาลซึ่งเงียบสงบกลับดูคึกคักขึ้นมา ทันใดนั้นเองก็มีรถหรูสีดำหลายคันซึ่งนำขบวนด้วยรถตำรวจมาจอดที่หน้าประตู คนจำนวนหนึ่งในชุดสากลสีดำก็เดินเรียงรายเข้ามายังห้องโถงของโรงพยาบาล แต่ละคนล้วนแล้วแต่กำยำล่ำสัน ดูเหมือนว่าผู้ที่มายังโรงพยาบาลแห่งนี้จะต้องเป็นคนใหญ่คนโตอย่างแน่นอน ผู้คนต่างพากันซุบซิบกัน ที่แท้ หลิวซินผิง ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประธานาธิบดีซึ่งป่วยเป็นโรครูคีเมียนั้นได้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้นสิบห้าของโรงพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง ซูอี้หัว ศัลยแพทย์หนุ่มหน้าตาคมคายซึ่งรักษาคนไข้ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ในแต่ละปีจะมีงานวิจัยทางการแพทย์ซึ่งเป็นที่ยอมรับและจับตามองของวงการแพทย์ทั่วโลก หน้าตาคมคายและจิตใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตาทำให้เขาเป็นที่รักใคร่ของทุกคน วันหนึ่ง ซูอี้หัว ได้รับคำเชิญจาก สีต้าหมิง หัวหน้าแพทย์ศัลยกรรมให้ร่วมวินิจฉัยอาการป่วยของคนไข้รายหนึ่ง คนไข้ที่ว่านี้ไม่ใช่ใครเธอคือ หลิวซินหัว ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประธานธิบดีนั่นเอง ที่แท้ หลิวซินผิง ต้องเข้ารับการผ่าตัดฝังเครื่องฟอกเลือด ซึ่งเป็นวิทยาการใหม่ล่าสุดของวงการแพทย์ เพื่อจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายเลือดอีกต่อไป ซูอี้หัว เป็นศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญทางด้านนี้ ดังนั้นจึงได้รับมอบหมายจาก สีต้าหมิง ให้ผ่าตัดฝังเครื่องฟอกเลือดให้ หลิวซินผิง นึกไม่ถึงว่าภารกิจครั้งนี้ได้สร้างความอิจฉาให้ ถังกั๋วไท่ แพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรมเป็นอันมาก ทำให้การผ่าตัดในครั้งนี้กลายเป็นการแก่งแย่งชิงดีกัน ราวกับว่า ซูอี้หัว และ หลิวซินผิง ต่างมีวาสนาต่อกัน ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของ หลิวซินผิง ทำให้ ซูอี้หัว เกิดความประทับใจในตัวเธอขึ้นมา แต่เมื่อเห็น หลิวซินผิง ถูกโรคร้ายรุมเร้าทำให้ ซูอี้หัว เกิดความสงสารและเห็นอกเห็นใจเธอ ซูอี้หัว ปฏิญาณว่าจะทุ่มเทความสามารถกับการผ่าตัดครั้งนี้ จะไม่ทำให้แผลจากการผ่าตัดเป็นอุปสรรคต่อการใส่ชุดราตรีเป็นอันขาด คำพูดที่ ซูอี้หัว พูดกับ หลิวซินผิง ถือเป็นคำมั่นสัญญาอันยิ่งใหญ่ที่ให้ไว้กับเธอ ขณะที่เตรียมการผ่าตัดอยู่นั่นเองด้วยความกังวลที่ สีต้าหมิง จะได้หน้า ถังกั๋วไท่ ซึ่งไม่ยอมแพ้ให้ สีต้าหมิง นั้นได้ใช้อำนาจหน้าที่ที่มีเปลี่ยนตัวคณะแพทย์ที่เข้าร่วมการผ่าตัดในครั้งนี้ โดยให้ ชิวชิ่งเฉิง ซึ่งเป็นแพทย์รองหัวหน้าแผนกอายุรกรรมรับผิดชอบการผ่าตัดแทน ซูอี้หัว ขณะที่ ซูอี้หัว กำลังตรวจสอบรายชื่อคณะแพทย์ที่เข้าร่วมการผ่าตัดนั่นเอง พบว่าไม่มีรายชื่อของเขาในการผ่าตัดครั้งนี้อาจเป็นเพราะ สีต้าหมิง เห็นแก่ความปลอดภัย ดังนั้นจึงจงใจเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก็เป็นได้ นี่เป็นเหตุผลเดียวที่ ซูอี้หัว คิดได้เวลานี้ ซูอี้หัว ตรวจสอบรายชื่อคณะแพทย์ต่อไปและพบว่าวิสัญญีแพทย์ที่เข้าร่วมการผ่าตัดในครั้งนี้คือ กวานซิน นั่นเอง กวานซิน เป็นเพื่อนที่ ซูอี้หัว รู้จักเมื่อครั้งที่เรียนหนังสือด้วยกัน กวานซิน เป็นผู้หญิงที่ภายนอกดูเป็นคนอ่อนหวาน แต่ภายในเธอกลับเป็นคนเด็ดเดี่ยว มีอุดมการณ์ ไม่ยอมก้มหัวต่ออิทธิพลใดๆ จนทำให้เธอกลายเป็นที่จับจ้องของแพทย์สองกลุ่มที่กำลังช่วงชิงอำนาจกัน ด้วยความพิเศษของ กวานซิน นี้เองได้ดึงดูดความสนใจของ ซูอี้หัว แต่ความเป็นตัวของตัวเองของ กวานซิน ทำให้ ซูอี้หัว ไม่สามารถเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอได้ กวานซิน เคยบอก ซูอี้หัว ว่าถ้าหาก ซูอี้หัว ชอบทะเลก็ไม่ควรเข้าใกล้เธอ คำพูดประโยคนี้ช่างบาดลึกทำลายจิตใจ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง ซูอี้หัว และ กวานซิน จึงเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น ในที่สุดก็ถึงวันผ่าตัดของ หลิวซินผิง ในเวลานี้เอง ซูอี้หัว ถึงรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลง ศัลยแพทย์ที่รับผิดชอบการผ่าตัดคือ ชิวชิ่งเฉิง ส่วนตัวเขาเองนั้นแม้แต่จะเข้าไปในห้องของ หลิวซินผิง ก็เข้าไปไม่ได้ เพื่อรับรองความสามารถของลูกน้อง รวมทั้งตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่หมายปอง ก่อนที่ หลิวซินผิง จะเข้ารับการผ่าตัดนั่นเอง สีต้าหมิง และ ถังกั๋วไท่ ได้ทะเลาะมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกันทีเดียว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ถูกผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์เก็บภาพเอาไว้ ในเวลาเดียวกัน หวงไข่หยวน ผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์ซึ่งได้รับการไหว้วานจากเพื่อนสนิทให้ผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูก ซึ่งเป็นอุปสรรค ต่อการตั้งครรภ์ของ จูฮุ่ยอิง วิสัญญีแพทย์ที่ทำหน้าที่ให้ยาสลบคือ กวานซิน เดิมทีการผ่าตัดมดลูกไม่ใช่เรื่องที่ยากนัก นึกไม่ถึงว่าขั้นตอนสุดท้ายกลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมา จูฮุ่ยอิง ช็อคหมดสติไป แม้ว่าปั๊มหัวใจก็ไม่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมา ยากระตุ้นหัวใจก็ไม่เกิดผล แพทย์พยายามช่วยชีวิต จูฮุ่ยอิง จนสุดความสามารถแล้วแต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้ เติ้งเนี่ยนเหว่ย ซึ่งคอยอยู่หน้าห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ จูฮุ่ยอิง เป็นหญิงสาวที่เขารู้จักกันที่บาร์ แม้ว่า เติ้งเนี่ยนเหว่ย ไม่ใช่นักธุรกิจระดับแนวหน้า แต่เขาก็เป็นคนที่ จูฮุ่ยอิง จะฝากชีวิตไว้ชั่วชีวิต การผ่าตัดครั้งนี้ เติ้งเนี่ยนเหว่ย มีความหวังที่จะมีลูกสองคนกับ จูฮุ่ยอิง เติ้งเนี่ยนเหว่ย พูดกับ จูฮุ่ยอิง ว่าหลังจากผ่าตัดเสร็จ คอยให้สุขภาพของ จูฮุ่ยอิง แข็งแรงแล้วพวกเราจะไปจดทะเบียนสมรสกัน คำพูดเหล่านี้วนเวียนอยู่ที่หู เติ้งเนี่ยนเหว่ย อยู่ตลอดเวลา แต่แล้วก็กลายเป็นคำมั่นสัญญาที่ไม่สามารถกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ จูฮุ่ยอิง เสียชีวิตเสียแล้ว ระเบียงทางเดินที่หนาวเหน็บรถเข็นและเตียงคนไข้ถูกเข็นไปคันแล้วคันเล่า เสียงคนที่พูดคุยกันทำให้จิตใจหดหู่ อีกฝั่งหนึ่งของระเบียงทางเดิน แม่ซึ่งสูงวัยและ จูลี่ เพื่อนสนิทของ จูฮุ่ยอิง ต่างรีบรุดมาที่โรงพยาบาลเพื่อเห็นหน้า จูฮุ่ยอิง เป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีใครคิดว่าวันนี้จะเป็นวันจากกันชั่วนิจนิรันดร์ แม่ร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจมองเตียงที่ จูฮุ่ยอิง นอนอยู่เข็นเข้าไปในห้องดับจิต คนกลุ่มหนึ่งพากันเดินผ่าน เติ้งเนี่ยนเหว่ย และพวกไป ประธานาธิบดีและคนติดตามต่างพากันดีใจที่การผ่าตัดของ หลิวซินผิง ลุล่วงไปได้ด้วยดี ไม่น่าเชื่อว่าเส้นแบ่งความเป็นความตายได้ตัดสินชี้ชะตาชีวิตคนเสียแล้ว หลังจากที่การผ่าตัดผ่านพ้นไปแล้ว สีต้าหมิง แพทย์หัวหน้าแผนกศัลยกรรมและ ถังกั๋วไท่ แพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรมต่างพากันช่วงชิงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลรุนแรงขึ้น ถังกั๋วไท่ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาครอบครอง โดยติดต่อผู้ที่เห็นว่าจะผลักดันให้ตนเป็นใหญ่ ในเวลาเดียวกันเนื่องจากการผ่าตัดให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของท่านประธานาธิบดี ทำให้ ซูอี้หัว กลายเป็นเสี้ยนหนามของ ถังกั๋วไท่ โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากความกดดันของ ถังกั๋วไท่ ทำให้แพทย์แบ่งออกเป็นฝักเป็นฝ่ายเพื่อเอาตัวรอดกัน ไม่มีแพทย์คนใดกล้าแสดงจุดยืนที่ชัดเจนออกมา ซูอี้หัว ตระหนักดีว่าการที่ทุกคนทำเช่นนี้นั้นก็เพื่อปากท้องทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ซูอี้หัว ได้แต่ยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ เหวินลี่ ซึ่งเป็นพยาบาลแผนกอายุรกรรม รวมทั้ง เหวยหลิง ผู้ช่วยของ ซูอี้หัว นั้นกลับไม่หวาดกลัวอิทธิพลใดๆ นอกจากนี้ยังมี ฮ่าวเสี้ยวกัง แพทย์หัวหน้าตึกซึ่งคอยให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน ซูอี้หัว มาตลอดรวมอยู่ด้วย ทำให้ ซูอี้หัว รู้สึกตื้นตันใจเป็นอันมาก แม้ว่า ซูอี้หัว จะทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานสักเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ หลิวซินผิง ซึ่งเขาไม่ได้ลงมือผ่าตัดด้วยตัวเขาเอง ทำให้ ซูอี้หัว ละอายใจต่อ หลิวซินผิง ยิ่งนัก แต่แสดงความเป็นห่วงมากเกินไปก็ใช่ที่ อย่างไรก็ตาม หลิวซินผิง ก็ไม่ใช่คนไข้ของเขา ถ้าหากแสดงออกมากเกินไปยิ่งส่งผลร้ายกับเขา หวงไข่หยวน ต้องรับผิดชอบชีวิตคน กวานซิน เลือดต้องชำระด้วยเลือด คำพูดเหล่านี้ถูกเขียนด้วยหมึกสีแดงบนผ้าขาว การตายของ จูฮุ่ยอิง เป็นที่วิพากวิจารณ์ถึงความผิดพลาดของแพทย์ แม่ของ จูฮุ่ยอิง และ เนี่ยนเหว่ย ไม่พอใจการทำงานของโรงพยาบาล ดังนั้นจึงต้องการให้โรงพยาบาลออกมาชี้แจงถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือหลังจากที่ตรวจสอบการผ่าตัดอย่างละเอียดแล้วกลับไม่มีความผิดพลาดใดๆ เลย หวงไข่หยวน ต้องการทำความเข้าใจกับญาติคนไข้ แต่ก่อนอื่น หวงไข่หยวน ได้แสดงน้ำใจมอบเงินจำนวนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญ การทำเช่นนี้เป็นการดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย กวานซิน ต้องการให้ญาติคนไข้อนุญาตให้ทำการชันสูตรศพเพื่อค้นหาความจริงถึงสาเหตุการตายของ จูฮุ่ยอิง คำยืนกรานของ กวานซิน สร้างความหวาดหวั่นให้ หวงไข่หยวน ยิ่งนัก ถังกั๋วไท่ ซึ่งเจ้าเล่ห์เพทุบายไม่มีทางทิ้งโอกาสงามไปอย่างแน่นอน เขาคิดว่าในเวลานี้ถ้าหากให้ความช่วยเหลือ หวงไข่หยวน ซึ่งกำลังเดือดร้อน เชื่อว่าจะต้องส่งผลดีในการช่วงชิงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลอย่างแน่นอน หวงไข่หยวน ก็เช่นเดียวกันมีความหวังที่จะให้อิทธิพลของ ถังกั๋วไท่ ยุติปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามถือว่าได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่คิดไม่ถึงว่าการตายของ จูฮุ่ยอิง นั้นไม่ได้จบลงง่ายๆ ครอบครัวของ จูฮุ่ยอิง ไม่ยอมลามือ โดยเขียนป้ายประจานการทำงานที่บกพร่องของแพทย์ กวานซิน ต้องฝ่าฝูงชนที่มาเรียกร้องความเป็นธรรมที่โรงพยาบาลอย่างทุลักทุเล ซูอี้หัว ปลอบใจ กวานซิน หลายปีมานี้ ซูอี้หัว ไม่เข้าใจว่าเหตุใด กวานซิน จึงพยายามหลบหน้าเขา ที่สำคัญเขาไม่ได้เป็นผู้ชายที่เป็นเสือผู้หญิง เมื่อเห็น กวานซิน ตกที่นั่งลำบากเขาจะดูดายไม่ให้ความช่วยเหลือได้อย่างนั้นหรือ จากการดึงดันของ ซูอี้หัว ทำให้ ซูอี้หัว ได้ไปส่ง กวานซิน กลับบ้าน สิ่งที่ทำให้ ซูอี้หัว และ กวานซิน ต้องตะลึงก็คือบ้านของ กวานซิน ถูกทำลาย ข้างกำแพงมีตัวหนังสือคำว่าฆาตกรติดอยู่ กวานซิน ได้รับความสะเทือนใจเป็นอันมาก ถึงแม้ว่าเธอจะเข้มแข็งทำใจยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตาม แต่แล้วความอัดอั้นตันใจของ กวานซิน ก็เหมือนกับเขื่อนที่แตก กวานซิน โผเข้าสู่อ้อมอก ซูอี้หัว ซูอี้หัวปลอบใจ กวานซิน ให้คลายความเศร้า เนื่องจากการผ่าตัดของ หลิวซินผิง ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประธานาธิบดี ทำให้ ถังกั๋วไท่ พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย ชิวชิ่งเฉิง แพทย์ซึ่งรับผิดชอบการผ่าตัดยิ่งได้หน้า ชิวชิ่งเฉิง ก็เหมือนกับบุคคลทั่วไปที่ประสบความสำเร็จ มีครอบครัวที่เปี่ยมด้วยความสุข เหม่ยเชี่ยน ภรรยาซึ่งเป็นกุลสตรี เสียวหมิ่น ลูกสาวที่น่ารัก แต่ ชิวชิ่งเฉิง ก็เหมือนผู้ชายทั่วไปที่ไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่สักเท่าใดนัก เขามักจะตำหนิภรรยาที่ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร ไม่เข้าใจถึงความปรารถนาและความใฝ่ฝันของเขา การแต่งงานเป็นเพียงความถูกต้องทางสังคมเท่านั้น สำหรับ ชิวชิ่งเฉิง แล้ว เหม่ยเชี่ยน ภรรยาของเขาซึ่งเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนั้นกลับเทียบ หม่าอี้เฟิน นักข่าวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกว่า หม่าอี้เฟิน เข้าใจโลก ข่าวที่ หม่าอี้เฟิน เขียนถึง ชิวชิ่งเฉิง นั้นส่งผลต่อหน้าที่การงานของ ชิวชิ่งเฉิง ราวกับเสือติดปีกเลยก็ว่าได้ หม่าอี้เฟิน หญิงสาวที่หน้าตางดงามและยังเข้าใจโลก เธอกลับไม่คำนึงว่า ชิวชิ่งเฉิง มีครอบครัวแล้วเธอยินดีที่จะคบหากับ ชิวชิ่งเฉิง หลังจากที่ หลิวซินผิง เข้ารับการผ่าตัดแล้ว ดูเหมือนว่าสภาพร่างกายของเธอไม่ดีอย่างที่คาดคิดเอาไว้ การผ่าตัดของ ชิวชิ่งเฉิง ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมา สภาพร่างกายของ หลิวซินผิง ย่ำแย่ลงทุกที เธอไม่มีทางเลือกจึงขอความช่วยเหลือจาก ซูอี้หัว ซูอี้หัว เห็นว่าถ้าไม่ผ่าตัดนำเครื่องฟอกเลือดออกจะทำให้ หลิวซินผิง จะมีอันตรายถึงแก่ชีวิต ซูอี้หัว ซักถาม ชิวชิ่งเฉิง ถึงขั้นตอนการผ่าตัด ถ้าหากว่าจะต้องผ่าตัดนำเครื่องฟอกเลือดออกมา นั่นก็เท่ากับยอมรับว่าการผ่าตัดล้มเหลว ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไร ถังกั๋วไท่ ไม่มีทางยอมให้ผ่าตัดใหม่อย่างแน่นอน ซูอี้หัว ตัดสินใจนำปัญหาที่เกิดขึ้นไปปรึกษา สีต้าหมิง โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจาก สีต้าหมิง นึกไม่ถึงว่า สีต้าหมิง กลับไม่อยากหาเหาใส่หัว โดยบอกให้ ซูอี้หัว ดูสถานการณ์ไปก่อน หม่าอี้เฟิน เป็นผู้หญิงที่เหยียบเรือสองแคม นอกจาก ชิวชิ่งเฉิง แล้วเธอยังมีความสัมพันธ์ลับๆ กับ ฉางอี้หยู ผู้จัดการฝ่ายข่าวของสถานีโทรทัศน์อีกด้วย สีต้าหมิง ซึ่งสนิทสนมกับ ฉางอี้หยู นั้นได้ใช้ความสัมพันธ์นี้ควบคุมสถานการณ์ไว้ สีต้าหมิง เห็นโอกาสงามที่จะเอาผิด ถังกั๋วไท่ ถังกั๋วไท่ คิดใคร่ครวญอย่างละเอียดว่าถ้าหากท่านประธานาธิบดีรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว จะต้องกระทบกระเทือนต่อตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เขาใฝ่ฝันอย่างแน่นอน ไม่นานนักก็มีประกาศแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่ สีต้าหมิงได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล ถังกั๋วไท่ ไม่คิดเลยว่าตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เขาหมายปองได้หลุดลอยไปเสียแล้ว ถังกั๋วไท่ ขึ้นไปตากลมบนดาดฟ้าของโรงพยาบาล และแล้วก็ต้องจบชีวิตลงด้วยความช้ำใจ ตลอดชีวิตการเป็นแพทย์ของ ถังกั๋วไท่ นั้นถือว่ามีผลงานไม่น้อย เพื่อให้ลูกเมียมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ถังกั๋วไท่ ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อให้เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ความจริงแล้ว ถังกั๋วไท่ ก็เหมือนกับบุคคลทั่วไปที่ประสบความสำเร็จด้วยอำนาจและเงินทอง ทำให้คนเห็นแก่ได้ตกเป็นทาสของสังคม แต่เมื่อวันหนึ่งชีวิตได้ดิ่งลงมาต่ำสุดแล้วก็จะพบว่าทุกอย่างเป็นเพียงเมฆหมอกที่สูญสลายไป ไม่มีสิ่งใดสำคัญยิ่งกว่าชีวิต หลังจากที่ สีต้าหมิง ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการแล้ว การช่วงชิงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม่ได้จบลง การช่วงชิงยังคงมีอยู่ต่อไป สีชุ่ยฟ่ง ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของ สีต้าหมิง นั้น สีต้าหมิง ชื่นชมความสามารถของ ซูอี้หัว เขามีความหวังจะได้ลูกเขยเช่น ซูอี้หัว แพทย์หนุ่มซึ่งมีอนาคต ในงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล สีต้าหมิง ต้องการให้ครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากัน โดยมี ซูอี้หัว เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วย ในเวลานี้ สีต้าหมิง มีอำนาจล้นฟ้า ถ้าหากจะเห็นแก่ตัวให้การสนับสนุน ซูอี้หัว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก สีต้าหมิง มอบหมายให้ ชิวชิ่งเฉิง รับผิดชอบการผ่าตัดนำเครื่องฟอกเลือดออกมา สีต้าหมิง รู้ดีว่าการผ่าตัดในครั้งนี้มีปัญหามากมาย ดังนั้นจึงไม่ได้มอบหมายให้ ซูอี้หัว รับผิดชอบ สีต้าหมิง เตือนสติ ซูอี้หัว ว่าจงหนีให้ไกลจากพายุ ซูอี้หัว และ ชิวชิ่งเฉิง ซึ่งมีอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน แต่ในเวลานี้ทั้งสองต้องร่วมมือกันเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซูอี้หัว ตั้งตัวไม่ติดกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือเมฆดำ อำนาจกำลังเรียกหาเงินทองกำลังโบกมือให้เขา หลังจากที่ ถังกั๋วไท่ ถูกโค่นล้มลงแล้ว ชิวชิ่งเฉิง ก็ดำรงตำแหน่งแพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรม ความใฝ่ฝันของ ชิวชิ่งเฉิง ไม่ได้อยู่เท่านี้ ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของเขา เส้นทางที่จะไปให้ถึงนั้นเต็มไปด้วยขวากหนาม ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจาก หม่าอี้เฟิน เชื่อว่าเขาไม่สามารถดำรงตำแหน่งแพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรมง่ายดายเช่นนี้ ชิวชิ่งเฉิง และ หม่าอี้เฟิน เคยให้คำมั่นสัญญาต่อกันว่าเมื่อใดที่ ชิวชิ่งเฉิง ดำรงตำแหน่งแพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรม และ หม่าอี้เฟิน ผู้ประกาศข่าว วันนั้นพวกเราจะฉลองด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ในช่วงที่รอให้ความฝันกลายเป็นความจริงขึ้นมานั้น หม่าอี้เฟิน กลับรุกหนักขึ้นโดยเป็นมือที่สามทำลายความสัมพันธ์ของ ชิวชิ่งเฉิง กับ เหม่ยเชี่ยน เธอบอก ชิวชิ่งเฉิง ว่าเธอตั้งครรภ์แล้ว เธอยืนกรานว่าจะเก็บลูกเอาไว้ เธอรู้ดีว่า ชิวชิ่งเฉิง ไม่สามารถประกันความสุขให้เธอได้ ความรักจะดูด้อยค่าทันทีเมื่อเทียบกับอำนาจและเงินทอง ถ้าจะให้ ชิวชิ่งเฉิง ละทิ้งเกียรติยศชื่อเสียงเชื่อว่าไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน เมื่อ หม่าอี้เฟิน พบว่าอีกด้านหนึ่งของความรักเต็มไปด้วยความโหดร้าย เธอก็ตัดสินใจล้างแค้น ชิวชิ่งเฉิง ไม่ให้ ชิวชิ่งเฉิง สมปรารถนา หลังจากที่ความจริงถูกเปิดเผยออกมา ชิวชิ่งเฉิง ไม่มีทางเลือก จึงต้องยกตำแหน่งแพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรมให้แก่ ซูอี้หัว เมื่อถึงคราวตกอับ ชิวชิ่งเฉิง ถึงพบว่ามีเพียง เหม่ยเชี่ยน และ เสียวหมิ่น ภรรยาและลูกสาวเท่านั้นที่อยู่ข้างกายเขา แต่สวรรค์ก็ยังไม่หยุดกลั่นแกล้งเขา ชิวชิ่งเฉิง พบว่ามือทั้งสองข้างของเขากุมความเป็นความตายของคนไข้ มีคนไข้รายหนึ่งประสบอุบัติเหตุต้องได้รับการผ่าตัดโดยด่วน นึกไม่ถึงว่าเขาต้องผ่าตัดให้ เสียวหมิ่น ลูกสาวของเขาด้วยมือของเขาเอง สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดคือไม่สามารถรักษาชีวิตลูกสาวไว้ได้ ในเวลานี้เองจึงทำให้ ชิวชิ่งเฉิง ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต ความผิดพลาดในครั้งก่อนบัดนี้ยมทูตทวงหนี้เขาแล้ว ครั้งนี้ ชิวชิ่งเฉิง ไม่เพียงพ่ายแพ้ให้ตัวเอง เขายังพ่ายแพ้ให้แก่ชะตากรรมอีกด้วย หกเดือนต่อมาห้องแถลงข่าวของโรงพยาบาลได้จัดงานเลี้ยงขอบคุณผู้สื่อข่าว คนไข้ตัวน้อยซึ่งได้รับการเปลี่ยนหัวใจและไตต่างพากันมาร่วมงาน ทุกคนต่างมีสุขภาพที่แข็งแรง ทุกคนต่างพากันขอบคุณ เสียวหมิ่น ที่ได้บริจาคอวัยวะทำประโยชน์ให้เพื่อนมนุษย์ เด็กที่ได้รับการบริจาคหัวใจจาก เสียวหมิ่น ได้ขอบคุณในความอนุเคราะห์ของ ชิวชิ่งเฉิง และ เหม่ยเชี่ยน ชิวชิ่งเฉิง ดึงเด็กซึ่งได้รับบริจาคหัวใจจาก เสียวหมิ่น เข้ามากอด เสียวหมิ่น ยังมีชีวิตอยู่เธอไม่ได้จากพวกเราไป เสียงเต้นของหัวใจเป็นเครื่องยืนยันว่าความรักไม่ได้สูญสลายไป ความรักยังคงอยู่ในจิตใจชั่วนิจนิรันดร์ เรื่องราวใดๆ ใช่ว่าเรียบง่ายอย่างที่เห็น มนุษย์เราใช่ว่าจะมีอิสระเลือกในสิ่งที่รัก คุณพูดถูกแล้วคนเราไม่เหมือนกัน เราควรทำในสิ่งที่ควรทำ ใช่ว่าคุณไม่มีทางเลือกของคุณ....นี่เป็นคำพูดของ ซูอี้หัว และ กวานซิน พูดคุยกัน ใช่ว่า ซูอี้หัว ไม่รัก กวานซิน แต่ด้านหลังตัวอักษรทั้งสองตระหนักถึงความสูญเสียที่เกิดจากการแก่งแย่งชิงดีกัน ด้วยสภาพที่กล้ำกลืนทั้งสองได้แต่เงียบและทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ทำได้คือการลืมให้หมดทุกสิ่ง ซูอี้หัว เลือก สีชุ่ยฟ่ง ส่วน กวานซิน เลือกเป็นฝ่ายไป โดยที่ทั้งสองต่างมีความจำเป็นที่ไม่เหมือนกัน แสงอาทิตย์ส่องตา ซูอี้หัว มองเห็นรอยยิ้มของ หลิวซินผิง มองเห็นน้ำใสใจจริงที่เขาทอดทิ้งไป รายชื่อนักแสดง เหยียนเฉิงชวี่ ( เจอร์รี่ F4 ) รับบท ซูอี้หัว จางจวินหนิง รับบท กวางซิน ไต๋ลี่เยิ่น รับบท ชิวชิ่งเฉิง จางกั๋วจู้ รับบท สีต้าหมิง อู๋ม่งต๊ะ รับบท ถังกั๋วไท่ ถังเค่อหัว ถังอี้ผิง

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ เกมชีวิต...ลิขิตหัวใจ ( The Hospital )

เกมชีวิต...ลิขิตหัวใจ ( The Hospital )
เกมชีวิต...ลิขิตหัวใจ ( The Hospital )
เกมชีวิต...ลิขิตหัวใจ ( The Hospital )
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook