รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน

รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน

รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บทประพันธ์ : พามิลา บทโทรทัศน์ : ภาวิต กำกับการแสดง : สิทธิวัชร์ ทับแป้น นักแสดง 1. เขตต์ ฐานทัพ รับบทแสดงเป็น ธาวัน / หนึ่ง 2. รพีภัทร์ เอกพันธ์กุล รับบทแสดงเป็น ธัญธร / สอง 3. ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ รับบทแสดงเป็น ปั้นดาว / คุณแพน 4. นาตยา ลุนด์เบิร์ก รับบทแสดงเป็น ไข่แก้ว 5. ปาลิตา โกศลศักดิ์ รับบทแสดงเป็น เจนนี่ 6. สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ รับบทแสดงเป็น พีรพล 7. วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ รับบทแสดงเป็น สุรยุทธ 8. คนางค์ ดำรงหัด รับบทแสดงเป็น คุณหญิงใหญ่ 9. อนุสรณ์ เดชะปัญญา รับบทแสดงเป็น พ่อปั้นดาว 10. นวลปรางค์ ตรีชิต รับบทแสดงเป็น แม่ปั้นดาว 11. พงษ์ประยูร ราชอาภัย รับบทแสดงเป็น เพชร 12. กรองทอง รัชตะวรรณ รับบทแสดงเป็น ช่อแก้ว 13. แวร์ โซว รับบทแสดงเป็น กนกเรขา 14. มณฑานี ตันติสุข รับบทแสดงเป็น วีรวัลย์ ออกอากาศทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.20 น. เรื่องย่อ ....ดอนเมือง ไข่แก้ว ชะเง้อคอมองหาเพื่อนรักจนเจอ แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดด้วยความดีใจเมื่อ ปั้นดาว เดินหน้าตูมออกมาจากห้องผู้โดยสารขาเข้า ปั้นดาว หรือ แพน เดินทางกลับเมืองไทยเพื่อมาหาข้อมูลเกี่ยวกับเพลงลูกทุ่งของไทยในเชิงเปรียบเทียบกับลูกทุ่งตะวันตก หล่อนเป็นคนมีรสนิยมดีก็จริง แต่ก็เป็นคนทำอะไรง่ายๆ เอาสะดวกเข้าว่าด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องแต่งตัว อย่างเช่นการเดินทางกลับมาเมืองไทยคราวนี้ หล่อนนั่งเครื่องบินกลับมาด้วยการสวมเสื้อที - เชิตร์ทับด้วยแจ็กเก็ตหนังและกางเกงยีนส์เก่าๆ แล้วหล่อนก็ชอบสวมหมวกแก๊ปเสมอ คนจึงไม่ค่อยเห็นผมยาวสลวยครึ่งหลังของหล่อน ปั้นดาวไม่ชอบปล่อยผมสยายเหมือนผู้หญิงบางคน จะถักเปียเดียวไว้ตลอดเวลาถ้าไม่ออกงานเป็นเรื่องเป็นราว และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือแว่นกันแดด สไตล์สปอร์ตที่ต้องใส่เป็นประจำเพราะติดเสียแล้ว แต่หล่อนก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนี้เพราะอยากเป็นผู้ชาย เพียงแต่ชอบความสบายและคล่องตัวเท่านั้น หล่อนเป็นคนเดินตัวตรง ก้าวยาวอย่างคนที่มีความมั่นใจเต็มร้อย ไข่แก้วลากปั้นดาวที่กำลังเหนื่อยและเบลอ และกำลังปวดท้องเพราะโรคกระเพาะ ไปขึ้นรถและพาไปขึ้นรถทัวร์ต่อทันทีเลยเพราะนัดกันไว้แล้วว่าจะไปหัวหินต่อ เนื่องจากไข่แก้วได้รางวัลจากบัตรเครดิตให้ไปหัวหินได้สองที่เป็นเวลาสองคืนสองวัน หล่อนก็เลยคิดจะไปฉลองการกลับมาของเพื่อนรักไปด้วย และที่ที่พวกได้รับรางวัลถูกนัดให้ไปขึ้นรถทัวร์ก็คือหน้าโรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงแล้วปั้นดาวก็ขอนั่งหลับรออยู่ในรถของไข่แก้วที่มีคนขับๆ มาให้จนกว่าไข่แก้วจะจัดการเรื่องกระเป๋าและที่นั่งเสร็จ ในจำนวนผู้ที่ได้รางวัลนี้ก็มีสองหนุ่มตาสะอาดมาดเท่ห์รวมอยู่ด้วย ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน วัยที่ห่างกันหนึ่งปีทำให้สนิทกันเหมือนเพื่อน คนพี่ชื่อ หนึ่ง หรือ ธัญชร รามรุจา วางมาดขรึมตลอดเวลา แต่งตัวเท่ห์บ่งบอกรสนิยมทุกกระเบียดนิ้ว เขาไม่ค่อยอยากไปเที่ยวสักเท่าไหร่ แต่ถูกน้องชายเซ้าซี้ให้มาด้วยก็เลยต้องมาอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก ส่วน สอง หรือ ธาวัน น้องชายก็เท่ห์ไม่แพ้พี่ชายแม้จะอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นแค่เข่า เขาเป็นคนขี้เล่นรื่นเริงและคุยสนุก หน้าตาระรื่นแบบคนไม่มีทุกข์ ผิดกับพี่ชายมากก็ตรงนี้ เมื่อขึ้นไปนั่งบนรถทัวร์ได้ปั้นดาวก็ไม่ฟังเสียง ดึงหมวกหรุบลงปิดหน้าแล้วหลับไปตลอดทางปล่อยให้ไข่แก้วพูดคุยกับเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ตามสบาย โดยไข่แก้วหารู้ไม่ว่าได้ตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครหลายคน เพราะหล่อนจัดว่าเป็นคนสวยมากคนหนึ่งทีเดียว แต่ที่ไม่มีหนุ่มไหนเข้ามาวอแวเพราะไม่แน่ใจว่าผู้หญิงอีกคนที่มาด้วยเป็น คู่ทอม ของหล่อนหรือเปล่า เนื่องจากเห็นไข่แก้วคอยดูแลเอาอกเอาใจอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวๆ ก็เห็นหล่อนชะโงกหน้าเข้าไปดูปั้นดาวจนชิด เดี๋ยวๆ ก็เอามือไปแตะที่หน้าปั้นดาวอีกแล้ว ส่วนปั้นดาวก็เอาแต่หลับอย่างเดียวจนใครก็เดาอะไรไม่ออก หนำซ้ำไข่แก้วยังเรียกปั้นดาวว่า คุณแพน ทุกครั้งอีกด้วย ทำให้คนฟังแล้วรู้สึกว่าไข่แก้วนั้นทั้งเกรงและยกย่อง คู่ ของหล่อนมาก เมื่อไปถึงหัวหิน ปั้นดาวก็เข้าห้องพักนอนต่ออีก ไข่แก้วไม่รู้จะทำอะไรก็ลงไปว่ายน้ำเล่น หล่อนได้พบกับหนึ่งและสองที่บริเวณสระน้ำ สองถือโอกาสเข้ามาทำความรู้จักให้มากขึ้นอีก พอเลียบๆ เคียงๆ ถามถึงเพื่อนของหล่อน ก็ไม่รู้ว่าไข่แก้วตอบยังไงถึงทำให้สองปักใจเชื่อสนิทว่าไข่แก้วชอบผู้หญิงด้วยกันแน่นอน อาหารค่ำวันนั้นทางโรงแรมจัดให้เป็นบาร์ บี คิว และบุฟเฟ่ที่ชายหาด ไข่แก้วซึ่งเป็นคนอ่อนหวานช่างเอาอกเอาใจคนอื่นอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักไม่ค่อยสบายก็ยิ่งเอาใจมากขึ้น คนอื่นก็เลยคิดไปด้วยว่าคู่นี้ต้องเป็น ทอมกับดี้ จริงๆ ยิ่งเห็นปั้นดาวนุ่งกางเกงยีนส์กับที - เชิร์ต นั่งหน้าขรึมไม่ค่อยพูดค่อยจายิ่งไปกันใหญ่ และทั้งคู่ก็เลยตกเป็นเป้าให้กลุ่มของหนึ่งและสองซึ่งนัดเพื่อนจากกรุงเทพฯ ให้ตามมาสมทบด้วยนินทากันอย่างสนุกปาก แล้วในจำนวนนี้ก็มี ช่อเพชร สาวเปรี้ยวซึ่งหมายตาหนึ่งรวมอยู่ด้วย หล่อนจะเคลียคลออยู่กับหนึ่งตลอดเวลา แต่ไม่มีใครว่าอะไรเพราะเห็นว่าหนึ่งไม่มีท่าทีรังเกียจหรือปฏิเสธการกระทำของหล่อน ช่วงเวลานี้เองที่ทุกคนมีโอกาสรู้จักกันอย่างทั่วถึง แต่ปั้นดาวก็ไม่มีโอกาสได้พูดอะไรกับใครอยู่ดี ไม่ใช่เพราะฟอร์มจัด แต่ว่าปวดท้องไม่หาย แถมยังรำคาญช่อเพชรที่คอย กระแนะกระแหนไข่แก้วอยู่เรื่อยนั่นเอง ปั้นดาวชำเลืองไปทางกลุ่มของหนึ่งด้วยความไม่พอใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมหนึ่งถึงมองหล่อนเหยียดๆ แล้วช่อเพชรทำไมถึงต้องคอยพูดกระทบหล่อนกับไข่แก้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปปั้นดาวก็เริ่มเข้าใจอะไรๆ ได้ แม้ว่าจะยังไม่ปักใจนักแต่ก็คิดว่าหล่อนไม่น่าจะเข้าใจผิด มันก็เลยทำให้นึกอยากแกล้งขึ้นมา เพราะงั้น วันต่อมา รายการเที่ยวของทัวร์ที่จัดไว้คือไปปืนเขาตะเกียบและไปไหว้พระในตอนเช้าปั้นดาวก็เลยทำเหมือนเป็นคู่ทอมของไข่แก้วเสียเลยโดยที่ไข่แก้วให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ทั้งคู่มีเรื่องหัวเราะกันเองสองคนไม่ได้หยุดเมื่อเห็นสีหน้าของหนึ่งและสอง ช่อเพชรกรี๊ดกร๊าดให้หนึ่งช่วยจับช่วยดึงเวลาขึ้นเขา ซึ่งหนึ่งก็ช่วยไปตามมรรยาท สองเดินเข้ามาหาปั้นดาวและไข่แก้วเมื่อเห็นทั้งคู่นั่งพักเหนื่อยอยู่ข้างทาง ถึงแม้จะรู้ว่าไข่แก้วชอบผู้หญิงด้วยกันเขาก็ยังอดเสียดายไม่ได้และคิดหาทางเปลี่ยนความคิดของหล่อนเสียใหม่ให้ได้ เมื่อได้คุยกันจริงๆ ปั้นดาวรู้สึกว่าสองเป็นคนน่ารัก คุยสนุกคนหนึ่ง ผิดกับพี่ชายของเขามาก หล่อนก็เลยพูดดีกับเขา แต่ก็ยังแกล้งทำเป็น คู่ทอม ของไข่แก้วอยู่ ซึ่งเมื่อหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเข้าก็ไม่พอใจน้องชายมาก รีบเรียกให้เดินไปด้วยกันทันที ตกเย็นปั้นดาวชวนไข่แก้วไปเที่ยวงานวัด ไปดูนักร้องลูกทุ่งชื่อดังที่มาเปิดการแสดงที่นั่น แล้วในงานวัดนี่เองที่จิ๊กโก๋กลุ่มหนึ่งเกิดมาติดใจสองสาวเมืองกรุงเข้า เมื่อดนตรีเลิกก็ตามออกมาถึงตลาด คนหนึ่งเข้ามาลวนลามไข่แก้ว เมื่อปั้นดาวปกป้องตามประสาคนไม่กลัวใครก็พอดีหนึ่งกับสองมาพบเข้าแล้วก็เลยเกิดเรื่องชกต่อยกับพวกจิ๊กโก๋ ปั้นดาวก็ช่วยด้วยโดยมีไข่แก้วหลบอยู่ข้างหลัง ปั้นดาวคว้าไม้มาได้ท่อนหนึ่งแล้วก็หวดซ้ายป่ายขวาตามแบบหนังจีนที่เคยดมาแล้ว หล่อนก็ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าหล่อนสามารถทำได้ดีอย่างน่าทึ่ง และความน่าทึ่งนั้นก็ยิ่งทำให้หนึ่งเชื่อสนิทไปกว่าเดิมว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่อยากเป็นผู้ชาย การชกต่อยเกิดขึ้นไม่นานตำรวจก็มาถึง พวกจิ๊กโก๋หนีเตลิดสกันไปหมด หนึ่งและสองเจ็บตัวกันเล็กน้อย ไข่แก้วเข้าไปขอบคุณสองหนุ่ม แต่ถูกหนึ่งพูดกระทบกลับมา ปั้นดาวก็เลยลากไข่แก้วจากไปเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงด้วยอีกเพราะเพิ่งจะเกิดเรื่องระทึกขวัญไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อกลับกรุงเทพฯ แล้วปั้นดาวก็เก็บตัวอยู่แต่ที่บ้าน เอาแต่นั่งดูมิวสิควีดีโอเพลงลูกทุ่งต่างๆ อย่างสนใจ เพราะอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าจะไม่มีเวลาอย่างนี้อีก หล่อนจะต้องไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษที่มหาวิทยาลัยที่ไข่แก้วเป็นอาจารย์สอนอยู่ตามที่ไข่แก้วจัดการให้ พ่อแม่ของหล่อนก็ดีใจที่หล่อนอยู่บ้านให้ชื่นใจนานๆ แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมลูกสาวถึงลุกขึ้นมาฟังเพลงลูกทุ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย หนำซ้ำบางทียังลุกขึ้นร้องขึ้นเต้นอย่างเอาจริงเอาจังอีกด้วย แต่ถึงจะพยายามเก็บตัวเงียบแค่ไหน การเป็นลูกสาวตระกูลไฮโซก็ทำให้ข่าวหลุดไปถึงคอลัมภ์นิสชื่อดังให้เอาไปเขียนจนได้ว่าหล่อนกลับมาเมืองไทยแล้ว แต่ซุ่มทำวิทยานิพนธ์อยู่ที่บ้านเงียบๆ ส่วนหนึ่งที่ทำงานอยู่บริษัทโฆษณาก็ยังควงกับวิไลเลขาออกงานตามปกติ ช่อเพชรอ่านข่าวการกลับมาของปั้นดาวด้วยความหมั่นไส้เพราะไม่ชอบคนที่สวยกว่าและเด่นกว่า โดยหารู้ไม่ว่าหล่อนเคยเห็นปั้นดาวมาแล้ว ในนามของแพน และหล่อนก็เอามาค่อนขอดให้หนึ่งฟังดังเช่นทุกครั้งเหมือนดังเช่นที่เคยอ่านข่าวของสาวไฮโซคนอื่นๆ วันหนึ่ง สาม หรือ ธัญมน น้องสาวสุดท้องของหนึ่งและสองซึ่งเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสองกลับมาเล่าให้พี่ชายรวมทั้งพ่อแม่ฟังด้วยความตื่นเต้นว่ามีอาจารย์สอนพิเศษมาสอนวรรณคดีต่างประเทศที่คณะ เป็นอาจารย์ที่สวยและเก่งมาก ช่อเพชรซึ่งมาหาหนึ่งที่บ้านก็เริ่มค่อนขอดอีกจนเกิดมีปากเสียงกับสามจนหนึ่งต้องห้ามทัพเตือนน้องสาวให้ลองเรียนกับอาจารย์คนนี้ไปสักพักก่อนแล้วค่อยมาเล่าใหม่ว่าเป็นยังไง เพราะอาจจะสอนไม่เก่งดีแต่สวยอย่างเดียวก็ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สามก็กลับมาเล่าถึงอาจารย์ปั้นดาวอยู่เรื่อยๆ จนหนึ่งเบื่อฟัง มีแต่พ่อแม่และสองเท่านั้นก็ดีใจเมื่อเห็นว่าสามสนใจการเรียนมากขึ้นเพราะอาจารย์พิเศษคนนี้ แต่สองจอมเจ้าชู้ไม่ได้แค่ดีใจ เขายังสนใจอาจารย์ของน้องสาวมากอีกด้วย มากจนถึงกับแอบทำเป็นพี่ชายใจดีไปรับน้องสาวถึงคณะ เขาได้เห็นปั้นดาวสองสามครั้ง แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยพบกันมาแล้ว เพราะปั้นดาวนุ่งกระโปรง แต่งตัวสวย มีแต่ผมเท่านั้นที่รวบตึงหรือไม่ก็ถักเป็นเปียเดียวอยู่ ไม่ยาวปล่อยสยายยาวเหมือนคนอื่น ทว่าครั้งหลังสุดสองก็เกิดได้พบไข่แก้วเข้าอย่างจัง สองดีใจมาก เลิกสนใจปั้นดาวหันกลับมาสนใจไข่แก้วใหม่ และต่อว่าไข่แก้วด้วยเรื่องที่หล่อนเคยบอกเขาว่าหล่อนเป็นครู แต่จริงๆ แล้วเป็นถึงอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย และไข่แก้วก็ไม่ได้บอกให้สองรู้ว่าแพนคือปั้นดาวที่ใครๆ คิดว่าเป็นคู่ทอมของหล่อน ปั้นดาวเริ่มออกไปพบปะเพื่อนฝูงบ่อยขึ้นเพราะทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว จึงได้พบกับหนึ่งและช่อเพชรบ้าง หล่อนยังคงนุ่งกางเกงยีนส์กับที - เชิร์ตไปทั่วกรุง ซึ่งส่วนมากมักจะพบกันที่ผับของเพื่อนสนิทของหล่อนและไข่แก้วซึ่งเป็นผับดัง มีลูกค้าระดับไฮโซไปชุมนุมกันมากมาย หนึ่งจะมองหล่อนอย่างรังเกียจและดูถูกเหมือนเดิม และบอกให้พวกเพื่อนๆ ที่รู้จักกับหล่อนรู้ว่าเขาไม่ชอบพวกผิดธรรมชาติ ซึ่งคนฟังก็มักจะฟังด้วยความไม่เข้าใจว่าหนึ่งหมายความว่าอะไรหรือหมายความถึงใคร ส่วนไข่แก้วนั้น พักหลังไม่ค่อยได้ไปไหนกับปั้นดาวเพราะว่างไม่ตรงกัน สองจึงสรุปเอาว่าหล่อนเลิกกับแฟนทอมของหล่อนแล้ว เขาจึงเริ่มตามจีบไข่แก้วอย่างเอาจริงเอาจังจนคุ้นเคยกันในเวลาต่อมา จนวันหนึ่งไข่แก้วชวนให้สองไปบ้านเพื่อนเพราะหล่อนมีธุระต้องไปคุยเล็กน้อย สองยินดีไปส่งให้ เมื่อไปถึงเขารู้สึกทึ่งในความใหญ่โตของบ้านเพื่อนของไข่แก้วมาก และงงมากเมื่อได้ยินเสียงเพลงลูกทุ่งดังลั่นออกมาจากภายใน ที่นี่เองที่สองได้พบกับปั้นดาวอีกครั้ง ปั้นดาวในชุดกางเกงยีนส์เสื้อยืด ถักเปียเดียวไว้ข้างหลัง ท่าทางทะมัดทะแมงหล่อนกำลังนั่งดูเอ็ม . วี . เพลงลูกทุ่งของไชยา มิตรชัย พร้อมกับร้องตามอย่างสนุกสนาน สองเดินตามไข่แก้วเข้าไปในบ้าน พอเห็นหน้าคนร้องเพลงซึ่งเป็นเพื่อนของไข่แก้วเขาก็ทั้งผิดหวังและแปลกใจ ผิดหวังที่เพื่อนของไข่แก้วคือ คุณแพน แปลกใจที่เพิ่งเคยเห็นแพนที่วันนี้ไม่ใส่หมวกแก๊ปเพราะอยู่บ้าน หล่อนสวยจนเขาตะลึง สวยทั้งๆ ที่ไม่ได้แต่งหน้าเลยแม้แต่น้อย ไข่แก้วพอจะรู้เรื่องความเข้าใจผิดของสองและหนึ่งบ้างแล้วเลยเล่าให้ฟังว่า อัน คุณแพน ของหล่อนนั้นเป็นเพื่อนที่รักกันมาก รักกันมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ก็เป็นเพื่อนรักกันด้วยก็เลยสนิทกันมาก บอกว่าหล่อนชอบเรียกปั้นดาวว่า คุณแพน เพราะปั้นดาวชอบให้หล่อนทำนู่นทำนี่ให้เวลาอยู่ด้วยกัน เหมือนเจ้านายไม่มีผิด และบอกว่าปั้นดาวเป็นคนสบายๆ อย่างนี้เอง แต่ก็เอาการเอางาน ตอนนี้ก็ไปเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับหล่อน สองเมื่อรู้ความจริงก็หัวเราะออก พร้อมกับนึกอยากแกล้งพี่ชายคนโตขึ้นมาบ้างเพราะรู้ว่าพี่ชายก็เข้าใจผิดเหมือนกัน ประกอบกับที่ว่า เขากับน้องสาวไม่อยากได้ช่อเพชรมาเป็นพี่สะใภ้อยู่แล้ว สองจึงเริ่มแผนทันทีด้วยการโทร . ไปบอกให้พี่ชายช่วยมารับที่บ้านเพื่อนด้วย เพราะรถเขาเกิดเสียขึ้นมาอย่างกระทันหัน หนึ่งบ่นยาว แต่เขาก็ยอมมารับสองเหมือนกัน เมื่อหนึ่งมาถึงบ้านของปั้นดาวนั้น สองกับไข่แก้วไปอยู่ที่สวนหลังบ้านปล่อยให้ ปั้นดาวนั่งดูเอ็ม . วี . เพลงลูกทุ่งอยู่คนเดียวที่ห้องโถงหน้าบ้าน และกำลังร้องเพลงลูกทุ่งยอดฮิต เลิกแล้วค่ะ อยู่พอดี เมื่อหนึ่งก้าวเข้ามา สองบอกกับปั้นดาวแล้วว่าหนึ่งจะมารับ หล่อนจึงไม่ตกใจ แต่คนที่ตกใจคือหนึ่ง เขาทำหน้าบอกไม่ถูกและถามหาน้องชายด้วยเสียงที่ไม่เป็นมิตร ปั้นดาวก็บอกอย่างไม่เป็นมิตรเหมือนกันว่าจะให้เด็กไปตามสองมาให้ หนึ่งชวนสองกลับทันที แล้วสองก็ถูกพี่ชายว่าไปตลอดทางทีริมาคบกับพวกผิดปกติ สองก็ยิ่งแกล้งยั่วไปต่างๆ นาๆ วันหนึ่ง หนึ่งไปรับน้องสาวที่มหาวิทยาลัยและได้พบกับปั้นดาวเข้าอย่างจังเพราะน้องสาวมาลากตัวให้ไปดู หนึ่งตกใจอีก เพราะอาจารย์ปั้นดาวของน้องสาวก็คือแพนที่เขา รู้ ว่าเป็นทอมนั่นเอง ยิ่งวันนี้เขาเห็นปั้นดาวสวมสูทเท่ห์ เดินโอบไหล่น้องสาวเขาออกมาเขาก็ยิ่งมั่นใจว่าแพนหรืออาจารย์ปั้นดาวนั้นเป็นทอมแน่ ดังนั้นเมื่อสามขอไปทำรายงานที่บ้านอาจารย์ปั้นดาวหนึ่งจึงคัดค้านเต็มที่ แต่สองและพ่อแม่กลับสนับสนุนสาม เพราะสองมาเล่าให้พ่อแม่ฟังแล้วว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อเห็นว่าสนิทและพอจะรู้ใจกันมากพอแล้วสองก็ชวนไข่แก้วมาไหว้พ่อแม่ ไข่แก้วชวนปั้นดาวมาเป็นเพื่อนด้วย โดยมารับประทานอาหารว่างด้วยกันในบ่ายวันหนึ่งซึ่งเป็นวันที่หนึ่งไม่อยู่บ้าน พ่อแม่ของสองพอใจทั้งไข่แก้วและปั้นดาวมาก เพราะไข่แก้วนอกจากจะสวยแล้วยังเป็นคนที่อ่อนหวานน่ารัก ส่วนปั้นดาวก็เป็นสาวสวยที่มีความมั่นใจในตัวเอง ทำอะไรคล่องแคล่ว แต่กิริยามรรยาทก็เรียบร้อยไม่กระโดกกระเดก เมื่อสองสาวกลับไปแล้วพ่อกับแม่จึงบอกให้สองรู้ว่าท่านชอบปั้นดาวมากกว่าช่อเพชรร้อยเท่า จะดีใจมากถ้าสองสามารถทำให้ปั้นดาวมาเป็นสะใภ้ได้ ส่วนไข่แก้วก็สอบผ่านฉลุยเหมือนกัน ค่ำวันหนึ่ง ปั้นดาวนัดพบกับไข่แก้วที่ผับของเพื่อนสนิทตามเดิม และที่นั่นหล่อนก็ได้พบกับหนึ่งอีก หนึ่งเข้ามาขอให้ปั้นดาวเลิกสนิทสนมกับสามและพูดใส่หน้าหล่อนตรงๆ ว่าเขาไม่อยากให้น้องเสียเด็กและมีจิตผิดเพี้ยนไปอีกคน ทั้งคู่จึงต่อปากต่อคำกันอย่างมีฟอร์ม ไม่มีใครลงให้ใคร แต่ตลอดเวลาปั้นดาวจะเป็นคนพูดยั่วหนึ่งเพราะรู้ว่าเขาเข้าใจผิดคิดว่าหล่อนเป็นทอม หล่อนก็เลยแกล้งยั่วเขาเล่นสนุกๆ ไข่แก้วก็พลอยแกล้งเล่นละครไปกับเพื่อนด้วย ตอนนี้ไข่แก้วกับสองเริ่มรู้ใจกันแล้ว สองก็เลยเล่าเรื่องแผนของเขาเกี่ยวกับพี่ชายและปั้นดาวให้หล่อนรู้ด้วย ถึงไข่แก้วจะหนักใจเพราะปั้นดาวกับหนึ่งคือ คู่กัด กัน แต่ก็รับปากว่าจะพยายามร่วมมือด้วย หนึ่งและปั้นดาวจะมีการกระทบกระทั่งกันทุกครั้งที่พบหน้ากัน โดยเฉพาะในระยะหลังมานี่สองมักชวนไข่แก้วและปั้นดาวมาที่บ้านบ่อยๆ ปั้นดาวนั้นถึงจะไม่อยากมา แต่ก็มักจะถูกไข่แก้วหรือสามคะยั้นคะยอเสมอ บางครั้งก็ถูกพ่อแม่ของสองเองเป็นคนชวนแล้ววันหนึ่งท่านก็ชวนให้ทุกคนไปเที่ยวหัวหิน แม้ปั้นดาวจะไม่อยากไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้และยังบอกให้สามชวนเพื่อนๆ ไปด้วยหลายๆ คนจะได้สนุก ที่หัวหิน ทุกคนมากันพร้อมหน้า สองมากับไข่แก้วและปั้นดาว ส่วนสามก็มีเพื่อนสนิทมาด้วยสามสี่คน หนึ่งตามมาทีหลังพร้อมกับวิไลเลขารวมทั้งเพื่อนร่วมแก๊งค์เจ้าเก่าและทันมาร่วมวงปิ้งอาหารทะเลกันที่ชายหาด ช่อเพชรทำตัวเด่นตามเคย หล่อนร้องเพลงคลอเสียงกีตาร์ของพวกเพื่อนๆ หล่อนร้องเพลงฝรั่งได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งเพราะชอบร้องคาราโอเกะ หรือไม่ก็ร้องออกงานของบริษัทเป็นประจำ ท่าทางหนึ่งก็ชื่นชมหล่อนไม่น้อย หนึ่งนั้นถึงจะถูกวิไลเลขาเกาะแจก็ยังอุตส่าห์มองหาปั้นดาว เพราะไม่อยากให้อยู่ใกล้ชิดกับน้องสาว เขารู้ว่าหล่อนมาด้วย แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน กลุ่มน้องสาวของเขาก็หายไปกันหมด เขาเริ่มเดินจากชายหาดย้อนกลับเข้าไปที่สวนข้างบ้านโดยมีช่อเพชรเกาะแขนไปด้วย หล่อนไม่พอใจนักเพราะกำลังร้องเพลงสนุก แต่ก็ไม่อยากห่างเขา หนึ่งเดินไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงเพลง ลาวดวงเดือน ที่ร้องด้วยเสียงอันไพเราะแว่วดังขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งเดินตามเสียงนั้นไปจนกระทั่งเห็นพ่อแม่ของเขานั่งรวมกลุ่มอยู่กับสามและเพื่อนๆ คงร้องเพลง ลาวดวงเดือน นั่งหันหลังมาทางเขา เขารอจนเพลงจบแล้วถึงค่อยเดินเข้าไป พ่อกับแม่ชวนให้เขามานั่งด้วย พอเขาเดินเข้าไปคนร้องเพลงก็หันมาแล้วลุกขึ้นหนึ่งกับวิไลเลขาถึงกับตะลึงที่เห็นปั้นดาวปล่อยผมยาวทัดดอกไม้ หน้าตาสวยแจ่มอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์และแสงไฟ หนำซ้ำคืนนี้หล่อนไม่ได้นุ่งกางเกงยีนส์เสื้อยืดอย่างเคยแต่กลับสวมเสื้อแขนกุดและนุ่งโสร่งบาติกสีหวานยาวกรอมเท้า รูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นจนหนึ่งถึงกับตะลึงตาค้างในความงามของหล่อน มาได้สติอีกทีก็เมื่อถูกช่อเพชรกระตุกแขน ช่อเพชรก็เพิ่งรู้ความจริงในคืนนี้เองว่าอาจารย์ปั้นดาวของสามนั้นแท้จริงก็คือคนๆ เดียวกับแพนนั่นเอง หล่อนค่อนขอดเพลง ลาวดวงเดือน ว่าเชยจนสามตั้งท่าจะเอาเรื่องขึ้นมาอีก แต่ถูกพ่อกับแม่ห้ามไว้ ถึงอย่างนั้นสามกับเพื่อนก็ยังโมโหไม่เลิก จนหนึ่งต้องพาช่อเพชรออกไปจากที่นั่น ช่อเพชรบอกว่าจะกลับไปนอน ขอให้หนึ่งไปส่ง พวกสามกับปั้นดาวก็เลยส่งเสียงร้องเพลงลาวดวงเดือนแซวทันที โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วงอกพี่เป็นห่วงรักเจ้าดวงเดือนเอย เมื่อพ่อกับแม่ขอตัวขึ้นบ้าน สามกับเพื่อนก็จะพาปั้นดาวไปสมทบกับพี่ๆ ที่ชายหาดทีแรกปั้นดาวไม่ไปเพราะขี้เกียจไปเจอสายตารังเกียจของหนึ่งและช่อเพชร และนี่เองคือสาเหตุที่ทำให้หล่อนมานั่งอยู่กับสามและเพื่อนๆ ตั้งแต่แรก แต่เมื่อถูกลูกศิษย์รบเร้าหล่อนก็ไม่อยากทำตัวให้ใครลำบากใจ เมื่อไปถึงชายหาด พวกเพื่อนๆ ของหนึ่งและสองพากันตะลึงในความงามของปั้นดาว ไข่แก้วกับสองปลื้มไม่เลิกที่คืนนี้ปั้นดาวยอมนุ่งโสร่งที่ไข่แก้วหาซื้อมาให้ก่อนที่จะมาหัวหิน และขอร้องให้ใส่ในคืนนี้ สองดีใจมากกว่าใครที่เห็นพี่ชายแอบมองปั้นดาวบ่อยๆ ปั้นดาวสนุกกับลูกศิษย์ด้วยการร้องเพลงและคุยกันอย่างเพลิดเพลินจนรู้สึกว่าซักจะปวดท้องขึ้นมาอีกจึงขอตัวกลับเข้าบ้านเพื่อไปทานยา เมื่อเข้ามาถึงในบ้านแล้วปั้นดาวก็ตรงไปที่บันไดจะขึ้นข้างบน แต่ก็ปวดท้องจี๊ดขึ้นมาจนขาอ่อนทำท่าจะหมดแรง ดีว่ามีอ้อมแขนแข็งแรงของใครคนหนึ่งมาคว้าตัวประคองไว้เสียก่อน หล่อนจึงไม่ทรุดลงไป หนึ่งนั่นเอง เขาเข้ามาหยิบไวน์จะเอาไปให้พรรคพวกข้างนอกอีก เผอิญเห็นปั้นดาวทำท่าแปลกๆ เลยตามมาดู เห็นหล่อนเซจะตกบันไดเขาก็เลยเข้ามาช่วยไว้ ปั้นดาวเองก็ตกใจ เงยหน้าดูว่าเป็นใคร ทั้งคู่สบตากันนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง พอได้สติหล่อนก็ขอบคุณเขาบอกให้เขาปล่อยหล่อนเพื่อที่หล่อนจะได้ขึ้นไปนอน แต่หนึ่งไม่ยอมเป็นห่วงกลัวว่าหล่อนจะตกบันไดเขาก็เลยพยุงไปส่งถึงห้องพัก ความใกล้ชิดและความสวยของปั้นดาวทำให้หนึ่งชักเขว เขาไม่รู้ตัวว่าทำไมถึงเลิก รังเกียจ หล่อน หนำซ้ำยังอยากอยู่ใกล้หล่อนนานๆ มันทำให้เขาตื้อเมื่อปั้นดาวจะเข้าห้อง เขาผลักประตูเข้าไปและพยุงหล่อนไปจนถึงเตียง ปั้นดาวตกใจจนลืมปวดท้อง ดิ้นขัดขืนกลัวว่าเขาจะทำอะไรเอาเพราะรู้ว่าเขาไม่ชอบหล่อน คิดว่าหล่อนผิดปกติไปชอบผู้หญิงด้วยกัน คิดว่าเขาอาจจะทำบ้าๆ เพื่อให้หล่อนหันมาชอบผู้ชายก็ได้ โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเขา แต่หนึ่งก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ปั้นดาวกลัว เขาบอกว่าเขาทำตามหน้าที่สุภาพบุรุษและหน้าที่ของเจ้าของบ้านที่ดี เห็นหล่อนไม่สบายก็พามาส่งเท่านั้นเอง จากนั้นเขาก็ถามว่าหล่อนเป็นอะไร ปั้นดาวบอกให้รู้ว่าจะกลับมาทานยาแล้วนอนพัก หนึ่งเลยจัดการเอายามาให้กิน พอดีช่อเพชรตามเข้ามา หล่อนอาละวาดด่าว่าปั้นดาวต่างๆ นาๆ ว่าใช้เล่ห์มายาหลอกหนึ่งเข้าห้อง และขณะที่ปั้นดาวกำลังนั่งตะลึงอยู่นั่นเอง สองกับไข่แก้วและพ่อแม่ก็ตามเข้ามาในห้องอีก เพราะตกใจเสียงช่อเพชรที่อาละวาดดังลั่นที่สองเข้ามาในบ้านเพราะเห็นว่าพี่ชายหายเข้ามาเอาไวน์นานผิดปกติ ส่วน ไข่แก้วตามมาด้วยเพราะเห็นปั้นดาวหายไปเกรงว่าจะไม่สบายอีกเลยเข้ามาดู เมื่อเห็นว่าเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ สองผู้มีสมองเฉียบไวก็ดำเนินแผนทันที เขาทำเป็นโวยบ้าง แต่สรุปออกมาเป็นว่าหนึ่งจะต้องรับผิดชอบที่ทำอย่างนี้แล้วหันไปขยิบตาให้พ่อกับแม่รู้ พ่อกับแม่ก็เลยโวยบ้างว่าหนึ่งจะทำให้ปั้นดาวเสียชื่อไม่ได้ ปั้นดาวทำหน้าบอกไม่ถูกที่เห็นเรื่องลุกลามไปมากมายอย่างเหลือเชื่อ หล่อนพยายามปฏิเสธแต่ไม่มีใครยอมฟัง ช่อเพชรก็เช่นกัน หล่อนพยายามค้านพ่อแม่ของหนึ่งเรื่องให้รับผิดชอบปั้นดาว แต่เมื่อไม่มีใครยอมฟัง หล่อนก็ร้องกรีดออกไปจากห้อง พ่อกับแม่ไล่สองกับไข่แก้วและหนึ่งให้กลับลงไปที่ชายหาด เพราะหายกันมาหมดอย่างนี้จะยิ่งอื้อฉาว แต่หารู้ไม่ว่าช่อเพชรไปป่าวประกาศเรียบร้อยแล้ว เมื่อกลับมากรุงเทพฯ ช่อเพชรก็ปล่อยข่าวเรื่องของปั้นดาวไปทั่วทุกสังคม แต่หารู้ไม่ว่ามันทำให้หนึ่งเดือดร้อนไปด้วย เขาต้องไปขอโทษปั้นดาวที่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นจนทำให้หล่อนเสียหาย ปั้นดาวบอกว่าหล่อนไม่สนใจข่าวไม่จริง แต่พ่อแม่ของหล่อนไม่ยอม บอกให้หนึ่งจัดการยุติข่าวนี้ให้ได้เพราะลูกสาวเสียหายหนัก เมื่อเป็นอย่างนี้เขาจึงเอาเรื่องไปปรึกษาพ่อแม่และสอง ซึ่งทั้งสามคนก็ลงความเห็นว่าให้หนึ่งประกาศลงหนังสือพิมพ์ไปเลยว่าจะหมั้นกับปั้นดาวเพราะรักจริง ไม่อย่างนั้นเรื่องไม่มีวันจบแน่เพราะช่อเพชรคงไม่เลิกราไปง่ายๆ หลังจากที่หนึ่งประกาศลงหนังสือพิมพ์แล้ววิไลเลขาก็ถึงกับคลั่งแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงได้นอกจากยอมเลิกไปจากหนึ่ง แต่ก็ยังไม่วายปล่อยข่าวให้ร้ายปั้นดาวไปเรื่อยๆ เพราะหนึ่งยืนยันกับหล่อนว่ารักและต้องการจะแต่งงานกับปั้นดาวจริง ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเขายังไม่รู้ใจตัวเองเลยด้วยซ้ำ แถมปั้นดาวยังเป็น ทอม อีก ส่วนปั้นดาวนั้นนอกจากจะไม่ค่อยยอมพูดจากับเขาแล้ว เวลาพบกันก็เอาแต่หน้าบึ้ง ยิ่งรู้ว่าช่อเพชรปล่อยข่าวร้ายๆ อยู่ตลอดเวลา ปั้นดาวก็ยิ่งไม่ยอมพูดกับเขา หล่อนบอกให้เขาเลิกมายุ่งกับหล่อน ช่อเพชรกับเขาจะได้มีความสุขเสียที แต่เขาก็ยืนยันว่าช่อเพชรเป็นแค่เพื่อนไม่ใช่คนรัก ที่เขาปล่อยให้ช่อเพชรแสดงตัวเป็นแฟนเพราช่อเพชรเป็นคนชอบเอาชนะและเอาแต่ใจตัวเขาขี้เกียจขัดใจและเพื่อตัดความรำคาญก็เลยปล่อย หนึ่งกลุ้มใจมาก เพราะตอนนี้รู้ใจตัวเองแล้วว่าไปหลงรักสาว ทอม เข้าให้เต็มหัวใจ ความกลุ้มของเขาทำให้สองเห็นใจ เขาบอกพี่ชายก่อนวัน สู่ขอ เพียงวันเดียวว่าปั้นดาวไม่ใช่ทอม แต่ที่สนิทกับไข่แก้วเพราะเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งมันก็ทำให้หนึ่งดีใจและโล่งอกเป็นอย่างมาก เล่นเอาน้องชายน้องสาวถึงกับขำที่พี่ชายขี้เก๊กเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ หลังจากวัน สู่ขอ ผ่านไปได้วันเดียว วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ปั้นดาวก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม หล่อนแต่งตัวตามสบายตามแบบของหล่อนจะออกไปข้างนอก พอดีหนึ่งมาหา เขาอาสาขับรถให้เพราะหลังจากรู้ว่าปั้นดาวไม่ใช่ ทอม แล้วเขาก็คิดถึงหล่อนมากขึ้น เอาใจหล่อนมากขึ้น ข้อหลังนี้เพราะสงสารด้วยที่หล่อนถูกช่อเพชรปล่อยข่าวให้เสียหายอยู่เรื่อยๆ ทีแรกปั้นดาวจะปฏิเสธ แต่หนึ่งบอกว่าเขามีเรื่องสำคัญจะพูดด้วยหล่อนจึงยอม เรื่องสำคัญที่หนึ่งพูดกับปั้นดาวในวันนั้นคือ เขาขอโทษหล่อนเรื่องช่อเพชรและเรื่องที่เขาเข้าใจผิดคิดว่าหล่อนเป็น ทอม แม้ปั้นดาวจะต่อว่าเขาเรื่องนี้ แต่หล่อนก็มีความรู้สึกที่ดีต่อเขาขึ้นมามากเหมือนกัน เพราะหนึ่งไม่ขี้เก๊กวางฟอร์มเหมือนเมื่อก่อน ไม่ทำอะไรให้หล่อนหมั่นไส้อีกแล้ว ว่าไปแล้ว ลึกๆ หล่อนก็ชื่นชมในความหล่อและมีรสนิยมของเขาอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ยิ่งหลังๆ มาเขาทำตัวสุภาพด้วย ปั้นดาวก็รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่อยู่กับเขา มองเขาด้วยความรู้สึกที่ดี ไม่ได้นึกขวางเหมือนเมื่อก่อน หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาปั้นดาวก็ยอมไปไหนต่อไหนกับหนึ่งมากขึ้น ค่ำวันหนึ่ง ปั้นดาวกับไข่แก้วไปที่ผับของเพื่อนอีก แต่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อช่อเพชรมาที่นั่นด้วย หล่อนเมาอาละวาดและหาเรื่องปั้นดาว ใครห้ามก็ไม่ฟัง หล่อนเอาไวน์สาดหน้าปั้นดาวโดยที่ปั้นดาวไม่ทันระวังตัว เท่านั้นยังไม่พอยังใช้แก้วตบหน้าปั้นดาวด้วย แต่คราวนี้ปั้นดาวระวังอยู่แล้ว หล่อนยกแขนกันไว้ทัน แต่ก็ยังถูกแก้วบาดเป็นทางยาวที่แขนกว่าคนในผับจะลากตัวช่อเพชรออกไปได้ ผับก็แทบพังเพราะหล่อนอาละวาดสุดฤทธิ์ หนึ่งรู้เรื่องปั้นดาวบาดเจ็บก็รีบมาหาแต่เช้า ท่าทีห่วงใยและอาทรของเขาทำให้ปั้นดาวใจอ่อนลงไปอีกมาก แล้วหล่อนก็บอกตัวเองว่าคงรักเขาเข้าให้แล้วถึงยอมให้เขาปรนนิบัติให้มากขนาดนี้ เพราะปกติหล่อนจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนมาถูกเนื้อต้องตัวเป็นอันขาด อย่าว่าแต่ถูกเนื้อต้องตัวเลย แค่ใกล้ชิดมากๆ ก็ไม่เคย แล้วในวันนั้นเองหนึ่งก็ขอปั้นดาวแต่งงานอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่ขอเพื่อรักษาชื่อเสียงให้หล่อนอย่างที่ถูกผู้ใหญ่บังคับแต่แรก เขาสารภาพว่าเขาเพิ่งรู้ใจตัวเองและแน่ใจว่าเขารักหล่อนก็เมื่อรู้ข่าวว่าหล่อนบาดเจ็บนี่เอง เพราะเขาเป็นห่วงหล่อนมากอย่างที่ไม่เคยห่วงใครมาก่อน ปั้นดาวปลื้มจนบอกไม่ถูกแต่หล่อนนั่งอมยิ้มบอกเขาว่าหล่อนแต่งงานกับเขาไม่ได้เพราะหล่อนชอบผู้หญิงด้วยกันมากกว่า หนึ่งทำหน้าผะอืดผะอมบอกว่าเขาจะพยายามเปลี่ยนใจหล่อนให้ได้ไม่ว่าจะยากเย็นขนาดไหน ปั้นดาวเลยหัวเราะ เชิญให้เขาเปลี่ยนใจหล่อนได้ตามสบายเพราะหล่อนพร้อมจะให้เปลี่ยนอยู่แล้ว ทั้งคู่จึงประสานสายตากันด้วยความเข้าใจ ......จบบริบูรณ์.....

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ ของ รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน

รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน
รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook