วิจารณ์หนัง ปัญญาเรณู 2

วิจารณ์หนัง ปัญญาเรณู 2

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ปักษ์นี้วงการภาพยนตร์ไทยของเรามีภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายพร้อมกันถึง 4 เรื่อง โดยไม่มีหนังต่างประเทศประเภท เกรด A ออกมาชนเลย นอกจากเกรด B เกรด C เท่านั้น และนี่เป็นเพียงต้นปีเท่านั้นจึงถือว่า วงการหนังไทยเรากำลังจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง วันนี้เลยอยากจะชวนแฟนๆ ชาวสนุกไปดูหนังน่ารักๆ สักเรื่อง เอาเป็นเรื่องที่เข้าฉายล่าสุดก็แล้วกันนะครับ "ปัญญาเรณู ภาค 2"

จากความสำเร็จเกินคาดของหนังเด็กเล็กๆ แห่งปี 2554 ที่มีนักแสดงเป็นเด็กกลุ่มหนึ่ง หน้าตาบ้านๆ ที่ผู้กำกับอย่างคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยอมลงทุนสร้างเอง เขียนบทเอง แต่ผลสุดท้ายไม่มีโรงฉาย จึงต้องไปกราบอ้อนวอนเจ้าของโรงหนัง สุดท้ายก็ได้ฉายสมใจ และอาจจะเป็นพลังใสๆ ของเด็กอีสานกลุ่มนี้ ทำให้ชื่อเสียงของ "ปัญญาเรณู" ดังระเบิดระเบ้อขึ้นมา จากปากต่อปาก ทำให้ปลายโปรแกรมฉายภาพยนตร์เรื่อง ปัญญาเรณู จึงมาแรงอย่างไม่คาดคิด กับเงินที่ลงทุนไปก้อนหนึ่ง แม้ว่าจะกำไรได้ไม่มากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่คุณบิณฑ์ได้รับ คือคำชมจากแฟนๆ หนัง และตัวผู้กำกับท่านอื่นๆ ถึงหนังเรื่องนี้ ว่าคุณบิณฑ์ ได้เป็นผู้กำกับเต็มตัวแล้ว

ด้วยความสำเร็จเกินขาดของปัญญาเรณู ภาค 1 ทำให้คุณบิณฑ์ มีกำลังใจที่จะสานต่อความสนุกของปัญญาเรณูในภาค2 แต่คราวนี้ได้แรงสนับสนุนจากทางสหมงคลฟิล์ม และหัวฟิล์ม ท้ายฟิล์ม อีกด้วยจึงทำให้ ปัญญาเรณู ภาค2 เดินหน้าได้อย่างเต็มกำลัง

และมีบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไปและมีเพิ่มเข้ามาเมื่อผมได้ชม ปัญญาเรณู2 รอบสื่อจบลง ความรู้สึกหลังจากที่ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ไม่แตกต่างมากนักกับครั้งที่ดูภาคแรก นั้นก็อาจจะเป็นเพราะว่า ผมไม่ได้คาดหวังมากเกินไป ตอนที่ดูภาคแรกผมก็ไม่ได้คาดหวัง ก็เลยได้เห็นความน่ารักใสๆ ของเด็กอีสาน ธรรมชาติที่สวยงาม วิถึชีวิตของชาวชนบท และผมก็พอจะเดาอาถรรพ์ของหนังภาค 2 ได้ดี จึงตัดสินใจไม่คาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้อีก แต่สิ่งที่ได้คือ ปัญญา เรณู มิว จอบ แหว่ง เปว มาะลิ จำปา วันนี้พวกเขาโตขึ้น และความคิดอ่านก็เปลี่ยนไป บทพูดดีๆ ให้แง่คิดระหว่างเพื่อนมีมากขึ้นในภาคนี้ และยังมีคำคมที่เป็นสิ่งที่ดีมีไว้ให้กับผู้ชมตลอดเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นตอนที่จอบคุยกับปัญญาถึงเรื่องเรณู หรือตอนที่พระคุยกันถึงเรื่องกี่ และยังมีอีกหลายฉากที่แทรกคำสอนและแง่คิดเอาไว้ ขณะเดียวกัน ก็ยังมีบทพูดที่เปลี่ยนเป็นมุกตลกภาษาท้องถิ่น แต่ก็เสี่ยงต่อการกถูกติเตียนมาก แต่คุณบิณฑ์ก็กล้าที่จะเสี่ยง โดยตัวบทส่งให้ "จอบ" โดดเด่นมาในภาคนี้ และตัวเด็กเองก็แสดงได้ดีอีกด้วย ทำเอาปัญญาจืดลงไปนิด แต่ไม่ใช่ว่า ทิว จะเล่นไม่ดีนะครับ เพียงแต่ว่า บทไม่ส่งให้ทิวปล่อยของเท่าไหร่

แต่ดูๆ แล้ว น่าจะเป็นที่การตัดต่อก็ได้ ที่ทำไม่ละเมียดละมัยต่อเนื่องของอารมณ์ ทำให้บางฉากบางซีนอารมณ์ขายหายไป ทำให้อารมณ์ดูกระโดดๆไป เศร้าก็ไม่เศร้า สุขก็ไม่สุข ครึ่งๆกลางๆ มีอยู่อย่างหนึ่งที่เรื่องนี้ทำได้ดีสุดๆ คือ "ความฮา" ในภาคแรกเรียกว่าซื้งกินใจ แต่ในภาคนี้ไม่ซึ้งเท่าภาคแรก แต่ฮามากขึ้น


ปัญญาเรณู 2


ยังดีที่ในเรื่องนี้เพิ่มนักแสดงอย่างคุณตุ๊กกี้และคุณหม่ำเข้า มาด้วย ครั้งแรกทีรู้ข่าวก็คิดว่าสองคนนี้จะมาขายฮาและแย่งซีนเด็กๆ แน่ แต่พอเอาเข้าจริงๆ สองคนนี้ไม่ได้แย่งซีดเด็กและไม่ได้ขายฮาเลยเป็นเพียงคนส่งมุกให้เด็กๆ ตบเท่านั้น ต้องขอขอบคุณผู้กำกับที่ไม่ทำให้สองคนนี้เด่นกว่าตัวปัญญาเรณู แต่ก็อย่างว่าแหละ เมื่อเพิ่มตัวละครเข้ามา ทำให้บทบาทของตัวละครอื่นๆ ลดน้อยลงไปบ้าง ซึ่งบางตัวก็หายไปเลย เช่นบทของ มะลิ กับจำปา ที่เป็นเพื่อนสนิทของเรณู บทก็น้อยลงไป แหว่งอีกคนที่บทน้อย ส่วนที่หายไป น่าจะเป็นบทของเปว หรือภาคนี้จะไม่กล่าวถึง แต่ในฉากที่จับตัวโจรได้ก็เห็นแว๊บๆ อยู่เหมือนกัน

แต่อย่างว่าละครับ เรื่องนี้เพิ่มเพลงขึ้นมาเยอะก็เลยเหมือนถูกยัดเยียดให้ฟังเต็มๆ เพลงไปหลายเพลงอยู่เหมือนกัน นึกว่าดูมิวสิกวีดีโอหลายๆ เพลงติดต่อกันอยู่ หรือไม่ก็ดูมนต์รักลูกทุ่งภาคเด็กไปซะงั้น มันจึงทำให้กินเวลาที่จะนำไปเสนอส่วนอื่น อย่างเช่นฉากพายุ ตอนแรกทีได้ยิน นึกว่าจะเป็นฉากอลังการงานสร้างของภาคนี้ แต่ที่ไหนได้ ก็เหมือนแค่ลมพัดไปเท่านั้นแล้วก็ผ่านไป ชาวบ้านก็มาช่วยกันเก็บกวาดเหมือนอยากสื่อให้เห็นว่า เมื่อหมู่บ้านมีภัยทุกคนก็ช่วยเหลือกัน แต่มันสั้นเกินไปไม่สามารถสร้างอารมร์ร่วมตามไปด้วย เหมือนว่ามันไม่สุดสักที อีกฉากคือ อาจารย์ใหญ่ตาย ไม่มีใครเศร้าเลยสักคน พอจะเศร้าๆ ตัดเข้างานศพแล้ว ไปฮาต่อกับฉากบักจอบนอนหลับ...


ปัญญาเรณู 2


แม้ ว่าในภาคนี้จะดูขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง แต่ก็ใช่ว่า เรื่องนี้จะแย่ถึงขนาดดูไม่ได้ ผมขอยืนยันว่ายังเป็นหนังที่ดูสนุกอยู่ดี กับภาพสวยๆ ถ่ายท้องนาให้ความรู้สึกถึงกลิ่นโคลนเลยทีเดียว วิถีชีวิตชาวชนบท และสิ่งดีๆ อีกมากมายเลยที่สอดแทรกอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผม เดาเอาว่ารายได้อาจจะสู้หนังเรื่องอื่นไม่ได้ (แต่มากกว่าภาคแรกแน่นอน) แต่สุดท้ายแล้ว "ภาพยตร์ไทยยอดเยี่ยมประจำปีนี้" ต้องเรื่องนี้แน่นอนครับ กับ ปัญญาเรณู 2 และอีกนิดครับในภาคนี้ต้องขอชม คุณตุ๊กกี้กับคุณหม่ำที่คอยทำหน้าที่ชงให้เด็กๆ ตบมุก และคนที่ตบได้เหมาะมือที่สุดก็คือ "บักจอบ" นั้นเอง บักจอบชนะเลิศครับภาคนี้....บักจอบเป็นพระเอก...

บทวิจารณ์โดย ทชากร
tck05@sanook.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook