ตุ้ย-นิพนธ์ เพิกทิม

ตุ้ย-นิพนธ์ เพิกทิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ใครจะคิดว่าเด็กบ้านนอกหน้าตาบ้านๆ ผิวพรรณกระดำกระด่าง ฐานะทางบ้านก็ไม่สามารถเชิดหน้าชูตาทางสังคมได้ จะกลายเป็นเศรษฐีย่อมๆ ได้ในชั่วเวลาเพียงข้ามคืน ตุ้ย-นิพนธ์ เพิกทิม หนุ่มนักบิดสิงห์มอเตอร์ไซค์รับจ้างแห่งเมืองแม่กลอง นักล่าฝันแห่งบ้าน Big Brother ถูกตัดสินให้เป็นผู้ชนะการแข่งขันจากการใช้เวลาอันยาวนานในบ้าน Big Brother เป็นเวลารวม 3 เดือนเต็มกับเพื่อนๆ ต่างรูปแบบและต่างที่มาทั้ง 11 คน ผมเป็นเด็กบ้านนอก ผมเป็นเด็กบ้านนอก ในจังหวัดสมุทรสงคราม หาเช้ากินค่ำไปวันๆ หนึ่ง ถามว่าลำบากไหมในความคิดของผม ผมว่าไม่ลำบากนะ มีกิน, มีใช้ไปวันๆ เช้าก็ออกไปขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ค่ำๆ ก็กลับมานอน รายได้ตกวันละ 300-400 บาท ถามว่าเงินแค่นี้พอใช้ไหม บอกตามตรงเลยว่าพอใช้ แต่ไม่มีเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำ ส่วนหนึ่งจากรายได้ตรงนี้ผมก็ต้องเอาไปจุนเจือครอบครัว ทั้งพ่อ-แม่ และน้องสาว ทั้งหมด 4 ชีวิตครับ ความแตกต่างในบ้าน Big Brother ผมว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในบ้านหลังนี้ ผมเคยเจอและผ่านมาหมดแล้วทั้งนั้น เคยรู้สึกอยู่บ่อยๆ เหมือนกันว่าเราไม่ต่างอะไรจาก แกะดำ ที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในบ้าน พูดจาไม่สุภาพ, พูดจาไม่รู้กาลเทศะ, เล่นอะไรก็เล่นแรงๆ ผมว่าทั้ง 11 คนที่อยู่ร่วมกันในบ้านต้องไม่เคยและไม่คิดว่าจะเจอคนอย่างผมแน่นอน ตลอดเวลาที่อยู่ในบ้านร่วมกันผมพยายามปรับและเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับคนในบ้านให้ได้มากที่สุด ผมต้องศึกษานิสัยของแต่ละคนว่าเป็นยังไงอยู่ตลอดเวลา และต้องพยายามเข้าหาพวกเขาตลอดเวลา รางวัลชีวิต สิ่งที่ได้จากบ้านหลังนี้คือเรื่องของการปรับตัว นิสัยของแต่ละคนในบ้านแตกต่างกัน การอาศัยอยู่ในสังคมแบบนี้เราต้องปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างมาก ทั้งเพื่อความอยู่รอดของตัวเราเองและส่วนรวม เราไม่สามารถยืนอยู่บนโลกใบนี้คนเดียวโดยลำพังได้เด็ดขาด คนเราต้องพึ่งพาอาศัยกันและกันอยู่ตลอด ที่สำคัญที่สุดที่ได้จากบ้านหลังนี้คือการได้รู้จักเพื่อนใหม่ ร่วมทุกข์, ร่วมสุข, สนุก และเศร้าด้วยกัน เรียกได้ว่าครบรสมากๆ ครับ เศรษฐีใหม่ สำหรับรางวัลที่ได้ผมจัดสรรไว้เรียบร้อยแล้วครับ เงินรางวัลที่ได้ส่วนหนึ่งผมจะเอไปปลูกบ้านที่แม่กลอง บ้านหลังเก่าที่ผมอยู่ค่อนข้างเล็ก คงต้องซ่อมแซมและต่อเติมใหม่ ครอบครัวผมเกิดที่แม่กลอง พวกเราก็คงหากิน ทำกินกันอยู่ที่นั่นเหมือนเดิม ถ้าครอบครัวผมย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ หมดเราจะเออะไรกินกันละครับ ผมอยากให้ครอบครัวเข้ามาอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่พ่อกับแม่ก็บอกกับผมเสมอว่า ถ้าพวกเขายังมีแรงอยู่เขาก็ยังอยากจะทำงานแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแรง หรือไม่มีแรง ถึงแม้ลูกจะรวยหรือจนอย่างไรก็ตาม ส่วนเงินที่เหลือผมจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาส่วนตัว ผมอยากเรียนสูงๆ มาตั้งนานแล้ว ผมจะส่งตัวเองเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยๆ ปริญญาตรีสักใบก็ยังดีครับ สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย ( ทีวีรีวิว ฉบับวันที่ 26 สิงหาคม - 1 กันยายน 2548 ) สนใจสั่งซื้อ TV review ฉบับย้อนหลัง Tel.02 669 5550-3 ( คุณแอน )

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ ตุ้ย-นิพนธ์ เพิกทิม

ตุ้ย-นิพนธ์ เพิกทิม
ตุ้ย-นิพนธ์ เพิกทิม
ตุ้ย-นิพนธ์ เพิกทิม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook