เรื่องย่อละคร กระบือบาล

เรื่องย่อละคร กระบือบาล

เรื่องย่อละคร กระบือบาล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ณ คฤหาสน์สุดหรูใจกลางเมือง ใจเด็ด (วงศกร ปรมัตถากร) ลูกชายคนสุดท้องของมหาเศรษฐีใจจอม กำลังลอบเข้ามาในบ้านของตัวเองเพื่อมาร่วมยินดีในงานเลี้ยงวันเกิดของใจจอม ที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แต่ทำไมใจเด็ดต้องลอบเข้ามาด้วยนั่นก็เพราะ เขาดันผ่าเหล่าผ่ากอทิ้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลมาใช้ชีวิตข้าราชการ กรมปศุสัตว์ ในตำแหน่งหัวหน้าสถานีบำรุงพันธุ์สัตว์อีสานใต้ที่เน้นหนักเรื่องการ อนุรักษ์ควาย ยังผลให้พ่อของเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะใจจอมหวังจะให้ลูกทั้งสามคนที่นอกจากใจเด็ดแล้วก็คือ ใจเพชร (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) ลูกชายคนโต และใจทิพย์ลูกสาวคนกลาง ช่วยกันสืบทอดธุรกิจของตระกูล

ใจจอมพยายามหว่านล้อม อ้อนวอน จนถึงใช้ไม้แข็งขู่ตัดออกจากตระกูลเพื่อให้ใจเด็ดกลับมาดูแลธุรกิจแทนที่จะ ไปดูแลควาย และให้ไม้เกาหลังที่ทำจากไม้สักทองกับใจเด็ดไว้ดูต่างหน้าเพื่อเตือนใจว่า เขายังมีพ่อแม่และพี่ๆ ที่รอเขาอยู่ แต่ใจเด็ดกลับเอาไปเป็นต้นแบบทำไม้เกาหลังไว้กล่อมควายแทน ใจจอมทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จเพราะใจเด็ดผูกพันกับควายมากกว่าธุรกิจของครอบ ครัว ถึงกระทั่งว่ายอมนำเงินส่วนตัวมาลงกับ "โครงการอนุรักษ์กระบือ" ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเงินเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับควาย ไม่เว้นแม้กระทั่งภาระกิจต่อต้านรถไถที่คิดจะเข้ามาแย่งอาชีพของควายที่ใจ เด็ดรัก

"อย่าปล่อยให้เพื่อนควายตกงาน" วลีที่ใจเด็ดใช้ปลูกฝังชาวนาในอีสานใต้ เขาต้องการให้ชาวนาผูกพันและรักควายเสมือนญาติ อันเป็นเกราะป้องกันการบุกรุกของรถไถทุกชนิด ซึ่งกลวิธีของใจเด็ดก็สำเร็จทุกครั้ง เพราะไม่มีรถไถยี่ห้อใดสามารถเจาะตลาดในเขตนี้ได้เลยแม้แต่ยี่ห้อ "บาคาตี้" ของบริษัท สยาม บาคาตี้ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถไถรายใหญ่ของประเทศ ที่มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองระดับสูง ซ้ำยังเป็นนายทุนพรรครัฐบาลปัจจุบัน

สมพล (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) กรรมการผู้จัดการของสยาม บาคาตี้จึงต้องเปลี่ยนแผนส่ง "แม่ทัพรถไถ" คนใหม่เข้าไปเจาะตลาดแทน หลังจากที่เซลล์คนเดิมๆ ซึ่งล้วนเป็นผู้ชายสมบุกสมบันไม่สามารถขายรถไถในดินแดนรักควายได้ สรนุช (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) วิศวกร โรงงานสาวสวยของบริษัทถูกเรียกตัวให้มารับหน้าที่นี้ ที่จริงแล้วสมพลไม่ได้เห็นความสามารถอะไรของสรนุชหรอก แต่เพราะสรนุชเป็นลูกสาวคนสุดท้องของพล.อ.สรยุทธ (พงศนารถ วินศิริ) ที่กำลังจะขึ้นรับตำแหน่งผบ.ทบ.ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ สิ่งนี้ต่างหากที่สมพลคาดหวังจากสรนุช สมพลวางแผนให้ ณวัต (จินตรัย อันติมานนท์) ลูกชายคนเดียวของเขาแล้วยังเป็นแฟนกับสรนุชใช้ความรักที่สรนุชมีให้กับณวัตเป็นเครื่องมือในแผนการครั้งนี้


สรนุชคิดว่าวิธีการเดิมๆ ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป สรนุชจึงเสนอแผนการปลอมตัวเข้าไปสืบความลับในพื้นที่เป้าหมาย สรนุชไปขอความช่วยเหลือจากสองเพื่อนซี้สุบิน (วิชญะ จารุจินดา) ผู้กำกับและคนเขียนบทละครโทรทัศน์และอรอนงค์ (มรกต กิตติสาระ) นัก บัญชีสาวในบริษัทเดียวกันที่เป็นเพื่อนกันมาแต่ไหนแต่ไรให้เข้าร่วมเป็นทีม งานถ่ายทำสารคดีเรื่องควายด้วย แม้สุบินจะไม่อยากเอาอาชีพของตนไปหลอกใคร แต่เพราะสุบินกำลังเสียใจที่ถูกปฏิเสธงานละครเรื่องใหม่กอร์ปกับเพื่อนรัก อย่างสรนุชมาขอร้องเขาจึงยอมตกลง แผนการจึงเริ่มต้นโดยสรนุชปลอมตัวเป็นช่างภาพสาวหวานชื่อแก้วใจ อรอนงค์เป็นผู้ช่วยช่างภาพสาวห้าวชื่ออนงค์ มีเพียงสุบินคนเดียวที่ยังเป็นตัวจริงเพื่อทำหน้าที่เป็นคนสัมภาษณ์

ทุกคนที่สถานีบำรุงพันธุ์สัตว์อีสานใต้ต่างดีใจที่มีสื่อมวลชนให้ความสนใจ เรื่องควาย เพราะนั่นหมายความว่าจะมีผู้สนใจอนุรักษ์ควายมากขึ้นและได้รับการช่วยเหลือ ในการอนุรักษ์มากขึ้นเช่นกัน ใจเด็ดและเกริกไกร (คณิน บัดติยา) สัตวแพทย์ หนุ่มเพื่อนคู่หูของเขาต่างกุลีกุจอต้อนรับขับสู้ทีมถ่ายทำสารคดีอย่างเต็ม ที่ พร้อมกับแนะนำให้ทีมงานกำมะลอรู้จักกับจะเด็ดและจันทราควายประชาสัมพันธ์ของ สถานีฯ ก่อนจะพาคนทั้งหมดไปดูทุกซอกทุกมุมของสถานีฯ รวมถึงการทำงานในโรงเรือนต่างๆ เช่น โรงเรือนผสมเทียมชื่อ "สยุมพรกระบือ" โรงเรือนควายท้องแก่ชื่อ "ลาคลอด" เป็นต้น รวมถึงดูการไถนาของควาย เพียง 3 คืน 4 วันสรนุชก็เก็บข้อมูลไปต่อยอดงานของตัวเองได้มากพอสมควร ได้รู้แม้กระทั่งเรื่องราวส่วนตัวของใจเด็ดที่เธอตั้งให้เป็น "แม่ทัพควาย" และเกริกไกรว่าทำไมจึงรักควายยิ่งชีพ นั่นก็เพราะใจเด็ดมีความฝังใจกับควายมาตั้งแต่เด็ก นอกจากจะคลุกคลีอยู่กับเด็กเลี้ยงควายแล้ว เขาเคยพยายามจะช่วยควายตัวหนึ่งที่กำลังถูกพาเข้าโรงฆ่าสัตว์ ถึงขั้นขโมยเงินปู่ไปเพื่อจะซื้อควายตัวนั้นออกมา แต่ก็ช้าเกินไปควายตัวนั้นถูกเชือดต่อหน้าต่อหน้าของด.ช.ใจเด็ด เด็กน้อยทั้งตกใจและเสียใจช็อคจนหมดสติ เหตุการณ์นี้ทำให้ใจเด็ดปฏิญญาณกับตัวเองว่าจะช่วยเหลือควายทุกตัวหากมี โอกาส

ขณะที่เกริกไกรนั้นเป็นเพื่อนกับใจเด็ดมาตั้งแต่มัธยมต้น ฐานะที่ด้อยกว่าของเกริกไกรทำให้ใจเด็ดต้องคอยช่วยเหลือเขาทั้งในเรื่อง อาหารการกินร่วมถึงค่าใช้จ่าย เกริกไกรใช้ความรักควายของใจเด็ดมาเป็นสะพานทอดให้เขาเข้าไปสนิทสนมกับใจ เด็ดเพื่อหวังการช่วยจากเพื่อนคนนี้ไปตลอด ด้วยการ "แสร้ง" ว่าชอบควายเหมือนกัน ทำให้ใจเด็ดรู้สึกดีกับเกริกไกรซึ่งก็สมกับที่เกริกไกรคาดหวัง ใจเด็ดช่วยเหลือเกริกไกรทุกอย่างแม้กระทั่งสนับสนุนเรื่องเรียนต่อในคณะ สัตวแพทย์ แต่จุดนี้กลับทำให้เกริกไกรต้องเปลี่ยนความคิดต่อใจเด็ดและควาย เกริกไกรเข้าใจ เห็นใจ และศรัทธาใจเด็ดมาก ขณะที่ตัวเขาเองกลายมาเป็นคนรักควายขึ้นมาจริงๆ ไม่ได้เสแสร้งเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว



หลังจากกลับมาจากอีสานใต้ ทั้งสุบินและอรอนงค์ต่างมีความรู้สึกอยากจะกลับไปที่นั่นอีก ด้วยหลงเสน่ห์ในหลายสิ่งหลายอย่าง ขณะที่สรนุชเตรียมตัวจะกลับไปที่อีสานใต้อีกครั้งด้วย "ตัวจริง" แม้ว่าทุกคนในครอบครัวจะไม่ค่อยอยากให้เธอทำงานนี้มากนัก ครอบครัวสรนุชเป็นทหารทั้งหมดตั้งแต่รุ่นปู่ มาจนถึงพ่อ แม่ และพี่ชายสองคนยกเว้นตัวเธอ แต่พล.อ.สรยุทธผู้เป็นพ่อก็อดห่วงลูกสาวคนเดียวไม่ได้ จึงให้สรนุชติดต่อกับผู้พันชาญณรงค์ (ไพโรจน์ ใจสิงห์) อดีต ลูกน้องของพล.อ.สรยุทธหากมีปัญหา เมื่อผู้พันชาญณรงค์รู้ว่าสรนุชลูกสาวผู้บังคับบัญชาเก่าจะมาเยือนจึงพร้อม ต้อนรับอย่างดี ขณะที่สรนุชเห็นจุดเด่นของผู้พันชาญณรงค์ที่เป็นยี่ปั๊วขายส่งเหล้าและ เครื่องดื่มรายใหญ่ของอำเภอ ประกอบกับความขัดแย้งกลายๆ ระหว่างผู้พันกับพรรคพวกของใจเด็ดโดยเฉพาะ ช่อผกา (อาริษา วิลล์) ลูก สาวของเขา...ที่หลงรักใจเด็ดหัวปักหัวปำน่าจะส่งผลดีต่อการทำงานของเธอ สรนุชจึงเสนอให้ผู้พันชาญณรงค์เป็นตัวแทนจำหน่ายรถไถบาคาตี้ในเขตนี้ รวมถึง อบต.โชคชัย (ฐิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) ที่ไม่พอใจบทบาทของใจเด็ดที่แย่งความนับหน้าถือตาจากเขาไปหมด ผู้คนเหล่านี้เองที่เธอจะใช้ต่อสู้กับใจเด็ด

ก่อนที่สรนุชจะลงไปในพื้นที่ไม่กี่วัน ใจเด็ดและเกริกไกรได้รับจดหมายลึกลับส่งมาถึงเพื่อแจ้งข่าวให้ทั้งสองคนรู้ว่า...

...แม่ทัพรถไถ บาคาตี้คนใหม่ที่อีสานใต้เคยปลอมตัวมาสืบความลับที่สถานีฯ เมื่อเร็วๆ นี้ และจะกลับมาใหม่ในชื่อจริงว่า "สรนุช"...

จดหมายสนเท่ห์และภาพถ่ายของสรนุชที่ส่งมาพร้อมกัน ทำให้สมหญิงผู้ช่วยสัตวแพทย์จำได้ เพราะเธอเคยเห็นสรนุชตอนถอดวิกผมยาวออกเมื่อครั้งที่มาพักที่สถานีฯ ใจเด็ดและเกริกไกรเสียใจมากที่ไว้ใจและให้ใจกับทุกคนในทีมงานถ่ายทำสารคดี โดยเฉพาะเกริกไกรเสียใจฟูมฟายไม่ต่างกับคนอกหัก ถึงกับหั่นผมตัวเองให้สั้นลงทั้งที่ไว้ผมยาวมานานหลายปี ใจเขานึกโกรธแค้นสรนุช อรอนงค์ และสุบินถึงขนาดว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างกับลูกควายตัวเมียที่เพิ่งเกิดใหม่ 2 ตัวซึ่งเขาตั้งชื่อว่าแก้วใจและอนงค์เพื่อเป็นเกียรติกับพวกเธอ...เพื่อเป็น การระบาย สุดท้ายก็ทำไม่ลงเพราะความรักควายมีมากกว่า กับสรนุชหรือแก้วใจ...เกริกไกรโกรธแค้นและชิงชังเธอจนตั้งฉายาให้ว่า "แม่มดรถไถ" ส่วนอนงค์ผู้ช่วยช่างภาพสาวที่เขาคอยเอาใจใส่เป็นพิเศษตลอดเวลาที่อยู่ที่ สถานีฯ นั้น เกริกไกรกลับอยากค้นหาว่าเธอเป็นใครกันแน่ ในขณะที่ใจเด็ดแม้จะเสียใจอยู่ลึกๆ แต่ก็เก็บความเสียใจมาเป็นพลังในการต่อสู้กับกองทัพรถไถที่กำลังจะบุกมา เยือนอีกครั้งในแล้งนี้


สรนุชไม่ปล่อยให้เสียเวลา ทันทีที่มาถึงอีสานใต้เธอลงทุนจัดขบวนแห่รถไถไปตามหมู่บ้านที่มีชาวนาอาศัย อยู่เพื่อดึงดูดความสนใจ แต่แล้วขบวนกองทัพรถไถของสรนุชก็ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพควายที่มีใจเด็ดเป็น แม่ทัพ ทว่ากองทัพควายไม่ได้จะเข้าต่อสู้ห้ำหั่นกับกองทัพรถไถ นอกจากจะมาเรียกร้องขอความเห็นใจอย่าให้รถไถเข้ามาทำให้ควายต้องตกงาน แต่สรนุชไม่สนใจยังคงเดินหน้าหาเสียงกับชาวบ้านเพื่อโฆษณาสินค้าของตัวเอง ต่อไป ฟากของใจเด็ดจึงแก้เกมส์ด้วยการเตี๊ยมกับชาวนาให้ปฏิเสธคำโฆษณาชวนเชื่อที่ สรนุชเตรียมจะลงพื้นที่เพื่อเสนอขายของเป็นรายตัว ซึ่งชาวนาในพื้นที่นี้รักและเคารพใจเด็ดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงให้ความร่วม มือเป็นอย่างดีและก็ได้ผลเมื่อไม่มีชาวนาคนใดสนใจรถไถแม้แต่คนเดียว สรนุชมองออกว่าเป็นแผนของพวกใจเด็ด เธอเลยแก้เผ็ดด้วยการยื่นข้อเสนอใหม่ให้กับชาวนาเหมือนการหาเสียงเลือกตั้ง ก็ไม่ปาน นั่นคือไถนาให้ฟรีเพื่อแลกกับการสาธิตการใช้รถไถ แต่ก็ถูกสกัดเล็กๆ จากฝ่ายใจเด็ดที่ไปบอกกับชาวนาให้ตอบตกลงให้ใช้พื้นที่เพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งเก็บไว้ให้ควายไถนาตามเดิม แล้วการแข่งขันไถนาระหว่างควายกับรถไถก็เริ่มต้นขึ้น

ในที่สุดสรนุชก็สามารถขายรถไถได้ แม้จะเพียง 2 คันแต่สรนุชก็มั่นใจว่าจะขายเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณต่อไปได้เรื่อยๆ แต่การณ์ไม่ได้เป็นเช่นที่คิด เพราะชาวนาที่ซื้อรถไถไปแล้วไม่ได้เอาไปบอกเล่าสรรพคุณให้เพื่อนชาวนาด้วย กันฟังต่อตามที่สรนุชเคยแนะนำ ชาวนาในอีสานใต้จึงยังคงใช้ควายไถนาตามปกติ สรนุชจึงต้องคิดหากลยุทธ์ใหม่ๆ มาใช้ แต่ระหว่างทางที่สัญจรไปนั้นสรนุชได้เข้าไปในที่ดินซึ่งเป็นท้องนาขนาดใหญ่ แห่งหนึ่งและที่นี่เธอก็ได้พบกับสุบินอย่างไม่คาดฝัน ภาพตรงหน้าที่เห็นสุบินกำลังไถนาโดยมีเจ้าโหมควายของตาเท่งที่หนีตายจากปืน ของผู้พันชาญณรงค์มาอยู่ที่สถานีฯ และมีโทนหัวหน้ายุวกระบือบาลลูกชายตาเท่งตามมาดูแล...ลากคันไถอยู่นั้น ทำให้สรนุชเข้าใจผิดคิดว่าสุบินไปเข้าข้างฝ่ายตรงข้ามคือใจเด็ดเสียแล้ว แม้สุบินจะบอกว่าเขาเจอกับเกริกไกรและเจนจิรา (กัญญา รัตน์เพชร) ผู้ ช่วยหัวหน้าสถานีฯ ที่จตุจักรโดยบังเอิญ และตามมาเพื่อเก็บข้อมูลไปเขียนบทละครก็ตามแต่สรนุชก็ไม่เชื่อ ซึ่งก็จริงอย่างที่สรนุชคิดเพราะสุบินกลับมาที่นี่เพื่อไถ่โทษที่เคยหลอกใจ เด็ดและเกริกไกรมาก่อน ขณะเดียวกันเขาก็เริ่มหลงรักความบริสุทธิ์ของอีสานใต้ทั้งธรรมชาติและคนโดย เฉพาะเจนจิรา และเจนจิราคนนี้ได้พยายามเคี่ยวเข็ญจนสุบินสามารถทำงานเข้าขากับเจ้าโหมควาย แสนดื้อและเจ้าเล่ห์ได้ อีกทั้งเจนจิรายังเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านรถไถ สุบินจึงยิ่งหลงเสน่ห์สาวลูกทุ่งปัญญาชนคนนี้อย่างเต็มหัวใจ



สรนุชคิดว่าสุบินนำความลับเรื่องที่เธอปลอมตัวเข้ามาก่อนหน้านี้ไปบอกพวกใจ เด็ด จึงทำให้ใจเด็ดขัดขวางการทำงานของเธอได้ทุกครั้ง เธอโกรธสุบินมากคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนหลงทาง ฝนก็ตั้งเค้าทะมึน ระหว่างนั้นสรนุชเจอใจเด็ดที่กำลังจูงควายมาทางเธอ อคติและความโกรธแค้นทำให้สรนุชเร่งเครื่องรถไถหมายจะเข้าชนใจเด็ด แม้ใจเด็ดจะโบกไม้โบกมือเหมือนส่งสัญญาณบางอย่างเธอก็ไม่สนใจ จนเมื่อรถไถแล่นเข้าถึงตัวใจเด็ด...ใจเด็ดจึงดึงตัวสรนุชตกลงไปในปลักข้าง ทางทั้งคนทั้งควาย และตามมาด้วยเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยงตรงหน้าพวกเขา สรนุชจึงเข้าใจได้ทันทีว่าใจเด็ดพยายามช่วยเธอให้รอดพ้นจากฟ้าผ่า ไม่เช่นนั้นเธอก็คงไหม้เกรียมเหมือนรถไถที่เธอขับมา ทำให้สรนุชรู้สึกหวั่นไหวกับการช่วยเหลือของใจเด็ดในครั้งนี้ไม่น้อย

รถไถบาคาตี้ของสรนุชที่โดนฟ้าผ่าถูกเกริกไกรนำไปประจานให้ชาวบ้านได้รับรู้ ว่า ควายไม่เคยโดนฟ้าผ่าแบบรถไถ พร้อมทั้งใส่ข้อมูลทางไสยศาสตร์ลงไปเพื่อสื่อสารกับชาวบ้านให้เข้าใจง่าย ขึ้นว่า "เจ้าที่เจ้าทางลงโทษรถไถผู้บุกรุก" โดยมีเฒ่าชุกผู้หยั่งรู้ฟ้าดินหรืออุตุนิยมประจำพื้นที่ช่วยยืนยันความเชื่อ ดังกล่าว เพื่อให้ชาวบ้านเห็นดีเห็นงามกับการใช้ควายแทนรถไถต่อไป ยังความโกรธแค้นมาสู่สรนุชและผู้พันชาญณรงค์มากยิ่งขึ้น ประกอบกับใกล้จะหมดหน้าแล้งที่ชาวนาต้องไถนาและเวลาที่ต้องปิดดีลการขาย กำลังจะมาถึง ทำให้สรนุชเครียดจนต้องเลือกใช้ไม้ตายคือ กำจัดใจเด็ดและเกริกไกรออกจากอีสานใต้



ไม่นานใจเด็ดและเกริกไกรก็ถูกเรียกตัวเข้ากรมฯ และโดนตั้งกรรมการสอบสวนหลายข้อหาจากที่มีผู้ร้องเรียน ทั้งสองเข้าใจดีว่าเป็นฝีมือของพวกนายทุนรถไถหรือก็คือสรนุช เพราะข้อกล่าวหาข้อหนึ่งระบุว่า "ใช้กำลังตั้งศาลเตี้ยลงโทษผู้ไม่เห็นด้วยกับตน" พวกเขาก็นึกถึงสรนุชขึ้นมาทันที เพราะเธอเป็นคนนอกเพียงคนเดียวที่รับรู้เหตุการณ์ที่มีคนขโมยควายและถูกจับ ได้พร้อมของกลาง ซึ่งขโมยต่างถิ่นคนนี้ถูกใจเด็ดทำร้ายร่างกายเสียสะบักสะบอม เพราะใจเด็ดโกรธแค้นเมื่อรู้ว่าขโมยคนนี้ตั้งใจจะเชือดควาย ซึ่งไปกระตุ้นความทรงจำในวัยเด็กของใจเด็ดที่เคยเห็นควายถูกเชือดต่อหน้าและ เขาช่วยไม่ได้ ใจเด็ดจึงมีอคติกับคนที่ทำร้ายควาย "ทุกคน"

ใจเด็ดกับเกริกไกรถูกย้ายเข้าส่วนกลางและถูกห้ามเข้าพื้นที่อีสานใต้ แม้แต่ที่ดินที่ใจเด็ดซื้อหามาด้วยเงินจากมรดกของตัวเองเพื่อให้ชาวนาและ ควายได้มีงานทำและพักอาศัย...ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ พวกเขาพยายามขอความช่วยเหลือจากก้านกลางเพื่อนรุ่นพี่ที่ได้ดีเป็นถึงที่ ปรึกษานายกฯ แต่ก็ไม่ทันการณ์เพราะคำสั่งออกมาก่อนและเป็นเหตุผลทางการเมืองที่ว่าสยาม บาคาตี้คือนายทุนพรรคที่เขาสังกัดอยู่ ขณะที่เพื่อนร่วมงานอย่างเจนจิรา สมหญิง (สวนีย์ อุทุมมา) และภิรมย์ (นก ซกเล็ก) รองหัวหน้าสถานีฯ รวมถึงชาวนาที่อีสานใต้ต่างไม่ยอมสูญเสียใจเด็ดและเกริกไกร พวกเขาจึงร่วมมือกันก่อม็อบควายเดินทางเข้าสู่เมืองประท้วงที่ศาลากลาง จังหวัด เพื่อเรียกร้องให้คืนใจเด็ดและเกริกไกรที่พวกเขารักและศรัทธากลับมาทำงานที่ นี่ตามเดิม

ข่าวม็อบควายถูกนำเสนอทางทีวีโดยมีสุบินเป็นผู้ผลักดัน เขาให้สุรกลรุ่นน้องที่เป็นนักข่าวเข้ามาทำข่าวนี้ ถ่ายทอดภาพชีวิตควาย ควายทำความเคารพธงชาติด้วยความซาบซึ้ง ควายสามัคคีกันไล่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เอาน้ำมาฉีดไล่ ทำให้เกิดเป็นความสนใจและกลายเป็นกระแสของคนรักควายขึ้นมาอย่างกว้างขวาง ประชาชนทั่วประเทศพากันเห็นใจใจเด็ดและเกริกไกร เรื่องราวบานปลายจนนำไปสู่การตั้งกระทู้ถามในสภาของฝ่ายค้าน คนในรัฐบาลจึงสั่งการให้ทางกรมฯ ส่งใจเด็ดและเกริกไกรกลับไปทำงานที่เดิมตามความต้องการของประชาชน และเพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล



ใจเด็ดและเกริกไกรกลายเป็นวีรบุรุษ "กระบือบาล" หรือผู้อภิบาลควายที่ใครต่อใครต่างชื่นชมในอุดมการณ์การอนุรักษ์ควายของพวก เขา เงินบริจาคหลั่งไหลเข้าสู่สถานีบำรุงพันธุ์สัตว์อีสานใต้สำหรับโครงการ อนุรักษ์กระบือ หลังจากที่ใจเด็ดเพิ่งตัดสินใจขายที่ดินใจกลางเมืองหลวงมรดกชิ้นสุดท้ายให้ กับพี่ชายคนโตไปไม่นาน เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในโครงการนี้ และนั่นหมายความว่าเขารู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องถูกตัดออกจากตระกูลอย่าง สิ้นเชิง ซึ่งก็เป็นไปตามคาด แม้ใจเด็ดจะกลายเป็นคนดังและมีคนศรัทธาจากงานที่เขาทำ ก็ไม่ได้ทำให้ใจจอมหันกลับมาเข้าใจและใจอ่อนให้กับลูกชายคนเล็กได้เลย

ผลงานการถ่ายทอดเรื่องราวของควายประท้วงโดยสุบินผ่านฝีมือการทำข่าวของสุรกล และสารคดีเรื่องควายที่สุบินเคยใช้บังหน้าในการเข้ามาล้วงความลับตามแผนของ สรนุชก่อนหน้านี้ ได้รับการกล่าวขวัญเป็นอย่างมากในวงการบันเทิง จนทำให้มีผู้จัดหลายค่ายติดต่อให้สุบินไปทำหนังทำละครเกี่ยวกับควาย ไม่เว้นแม้แต่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่เคยปฏิเสธงานของเขาด้วยถ้อยคำที่ว่า "นโยบายของช่องเปลี่ยนไปแล้ว" ก็ยังติดต่อให้สุบินกลับไปร่วมงานด้วยเช่นกัน

ตรงกันข้ามกับสรนุชที่เจ็บใจในแผนการที่ล้มเหลวและเธอไม่สามารถเจาะตลาดรถไถ ในดินแดนอีสานใต้ได้เหมือนกับเซลล์คนก่อนๆ เธอยิ่งเสียใจเมื่อได้รับรู้จากเกริกไกรที่ตั้งใจมาหาอรอนงค์ถึงกรุงเทพฯ ในเวลาต่อมาว่าถูกหักหลังจากเพื่อนร่วมงาน และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เธอทำงานไม่สำเร็จ เพราะมีหนอนบ่อนไส้ในบริษัทส่งข่าวให้พวกใจเด็ดรู้ก่อนว่าเธอคือแก้วใจช่าง ภาพสารคดี ที่เข้าไปล้วงความลับของพวกกระบือบาลมาก่อนหน้านี้ หนอนพวกนี้เล่นเป็นทีมโดยมีสมพลเป็นแกนนำ เพราะสมพลหมายมั่นปั่นมือจะให้หลานชายเข้ามาเป็นวิศวกรโรงงานแทนสรนุช จึงใช้เล่ห์เหลี่ยมย้ายสรนุชมาอยู่ฝ่ายขาย ขณะเดียวกันเซลล์ในฝ่ายนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ก็ไม่ถูกชะตากับสรนุชมาแต่ต้นด้วยเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง พวกเขาจึงหาทางขัดขวางความสำเร็จของสรนุช

สรนุชเสียใจมากถึงกับระบายออกกับเหล้าอย่างหนัก เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด สรนุชเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาล ทว่าคนที่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอในยามนี้นอกจากครอบครัวแล้ว ก็คือเพื่อนสนิท...สุบินและอรอนงค์ที่สรนุชเคยคิดโทษว่าเพื่อนทั้งสองทรยศนำ ความลับไปบอกพวกใจเด็ด ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งคือเหล่ากระบือบาลและควายของพวกเขา...โดยเฉพาะใจเด็ด กลับวนเวียนอยู่ในความฝันของเธอซ้ำไปซ้ำมาเหมือนจะบอกว่า ใจของสรนุชลอยไปถึงดินแดนอีสานใต้เสียแล้ว

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

www.ch7.com


หนัง : กระบือบาล
ช่อง : ช่อง 7
ออกอากาศทุกวัน : จันทร์, อังคาร
ผู้กำกับ : ชวลิต พงศ์ไชยยง
บทประพันธ์ : ดำรงค์ อารีกุล
ผู้เขียนบท : เล่าเต็ง
ผู้จัด : กำกับการดี จำกัด
นักแสดงนำ : วงศกร ปรมัตถากร, จีรนันท์ มะโนแจ่ม, คณิน บัดติยา, มรกต กิตติสาระ, วิชญ จารุจินดา, กัญญา รัตนเพชร์, จินตรัย อันติมานนท์, ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร, ศตวรรษ ดุลยวิจิตร, ไพโรจน์ ใจสิงห์, อาริษา วิลล์, วันชัย เผ่าวิบูลย์, กรองทอง รัชตวรรณ, สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ เรื่องย่อละคร กระบือบาล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook