10 อันดับหนังเจ๊งตลอดกาล จาก กินเนสบุ๊กส์

10 อันดับหนังเจ๊งตลอดกาล จาก กินเนสบุ๊กส์

10 อันดับหนังเจ๊งตลอดกาล จาก กินเนสบุ๊กส์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ จอห์น คาร์เตอร์ ขาดทุนย่อยยับไม่เป็นท่า จากทุนสร้างประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ บวกค่าการตลาดอีกมโหฬาร แต่กลับทำรายได้ทั่วโลกได้เพียงแค่ 269 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น เรียกได้ว่าค่าย ดิสนีย์ สตูดิโอ ต้องสูญเงินไปกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ แถมยังต้องตามล้างหนี้จากที่หนังก่ออีก 80-120 ล้านเหรียญสหรัฐ จน ริช รอสส์ บิ๊กบอสของค่ายต้องลงจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

แต่หาได้มีเพียงแค่หนัง จอห์น คาร์เตอร์ ที่เจ๊งระเบิดระเบ้ออย่างโดดเดี่ยว ต่อไปนี้เราจะรวบรวม 10 หนังที่ขาดทุนยับเยิน การันตีโดย กินเนสบุ๊กส์

 

อันดับ 10 Stealth

เรื่องราวชีวิตของนักบินแห่งกองทัพอากาศอเมริกันเบน แกนน่อน(จอช ลูคัส),คาร่า เวด(เจสสิก้า บีล)และ เฮนรี่ เพอร์เซลล์ (เจมี่ ฟ็อกซ์)ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งในหน่วยลับที่รวบรวมเอานักบินหัวกะทิเข้าไว้ด้วยกัน แต่แล้วร้อยเอก จอร์ช คัมมิ่ง(แซม เชฟพาร์ด) ผู้บังคับบัญชากลับแนะนำให้พวกเขารู้จักกับเครื่องบินลำใหม่ที่ควบคุมด้วยปัญญาประดิษฐ์ UCAV(Unmanned Combat Aerial Vehicle)พาหนะต่อสู้บนอากาศที่ขับเคลื่อนโดยไร้คนบังคับหรือชื่อย่อคือ EDI แต่แล้วเจ้าเครื่องบินนี้ก็เกิดเพี้ยนไม่ฟังคำสั่งใคร ก่อความวุ่นวายขึ้นขั้นโลกแตกเลยล่ะ เป็นหนังฟอร์มยักษ์อีกเรื่องของปี 2005 ที่ขาดทุนไปกว่า 111,700,123 เหรียญสหรัฐฯเลยทีเดียว

 

อันดับที่ 9 Heaven's Gate

ผู้กำกับ ไมเคิล ชิมิโน เจ้าของออสการ์หนังเยี่ยม The Deer Hunter ในปี 1978 ที่ฟอร์มกำลังฮอต 2ปีต่อมาเขาปล่อยผลงานอย่าง Heaven's Gate กะว่าจะโกยทั้งเงินหอบทั้งกล่อง แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดขาดทุนย่อยยับไปถึง 114,281,677 เหรียญสหรัฐ ถึงขนาดที่ วิเซนต์ แคนบี้ ของ เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ พูดถึงหนังเรื่องนี้ว่า "เป็นความล้มเหลวแบบสมบูรณ์" เลยทีเดียว

 

อันดับที่ 8 Speed Racer

สองพี่น้อง แลร์รี่ และ แอนดี้ วาโชสกี้ หลังประสบความสำเร็จมหาศาลจากหนังไตรภาค The Matrix จนเป็นที่ไว้วางใจของค่ายวอเนอร์ บราเธอร์ส ถึงขนาดทุ่มทุนสร้างให้หนัง Speed Racer ของพี่น้องแบบจัดเต็ม 200 ล้านดอลลาร์ แต่ก็เจ๊งไป 114 ล้านดอลลาร์ แม้คำวิจารณ์ต่อหนังจะไม่ถึงกับแย่ก็ตาม

 

อันดับที่ 7 Town & Country

หนังทุนสร้าง 105 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่รวมเอาดาราระดับแม่เหล็กมากมายทั้ง วอร์เรน บีตตี้, โกลดี้ ฮาวน์, ไดแอน คีตัน และ แกรี่ แชนด์ลิ่ง กลับทำรายได้ทั่วโลกในปี 2001 เพียงแค่ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ!! ทำสตูดิโอสูญเงินราว 124,202,203 เหรียญสหรัฐ

 

อันดับที่ 6 The 13th Warrior

หนังแปลงมาจากบทประพันธ์ของ ไมเคิล คริชตัน เจ้าของงานเขียนเรื่อง Jurassic Park และ Congo แถมยังได้ผู้กำกับ จอห์น แม็คเทียร์นาน ที่มีผลงานแอ็คชั่นชั้นดีอย่าง Predator และ Die Hard การันตีฝีมือ ทำให้ ทัชสโตน พิกเจอร์ส สตูดิโอผู้สร้างคาดหวังผลกำไรก้อนโต แต่แล้วก็เกิดพลิกล็อค ตัวหนังทำออกมาได้ในระดับที่น่าผิดหวัง จึงขาดทุนไปตามระเบียบ 137 ล้านเหรียญสหรัฐ


อันดับที่ 5 Mars Needs Moms

เรื่องราวของไมโล (เซ็ธ กรีน) หนุ่มน้อยอายุ 9 ขวบ ที่กว่าจะรู้ตัวว่าเขาเองต้องการแม่มากแค่ไหน ก็เมื่อตอนที่แม่ของเขา (โจน คูแซ็ค) ถูกมนุษย์ดาวอังคารลักพาตัวไป เพื่อที่จะขโมย "ความเป็นแม่" ไปใช้เลี้ยงเจ้าพวกมนุษย์ดาวอังคารตัวน้อยที่เพิ่งเกิดขึ้นมา เขาจึงต้องหาทางพาแม่กลับให้ได้ ภาพยนตร์เพอร์ฟอร์แมนซ์แคปเจอร์ ตลก ผจญภัย จากทีมผู้สร้าง The Polar Express, A Christmas Carol หนังลงทุนไปกว่า 150 ล้านดอลลาร์ แต่กลับทำรายได้รวมในอเมริกาเพียง 21 ล้านดอลลาร์ แล้วขาดทุนไปมโหฬารอีกเช่นกัน

 

อันดับที่ 4 Sahara

แม้จะทำรายได้รวมทั่วโลกไปกว่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับทุนสร้างและทุนโปรโมทที่ทุ่มไปกว่า 240 ล้านเหรียญสหรัฐ และแล้วหนังก็ติดลบไป 144,857,030 เหรียญสหรัฐ

 

อันดับที่ 3 The Adventures of Pluto Nash

ภาพยนตร์ไซไฟ-คอมเมดี้ทุนหนาแห่งปี 2002 ที่ทุ่มไปกับการเนรมิตฉากสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์มากมาย เน้นอลังการงานสร้าง แต่สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นฉากสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์แบบง่อยๆ ราวกับหนังอวกาศเกรดบี แม้จะได้ดาวตลก เอ็ดดี้ เมอร์ฟีย์ มาเป็นตัวชูโรงเสริมทัพ ก็ยังไม่สามารถช่วยอะไรได้ ขาดทุนไปเกือบ 146 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

อันดับที่ 2 The Alamo

หนังสงครามว่าด้วยกลุ่มวีรชนคนอเมริกันที่ต่อสู้เพื่อปลดแอกตนเองจากการปกครองของเม็กซิโก ที่เข้าฉายปี 2004 พ่วงด้วยทุนสร้างก้อนโตราว 145 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่หนังไม่สามารถเรียกคนดูได้ตามที่คาดการณ์กันไว้ และเมื่อปิดการขายแล้ว หนังก็ขาดทุนไปถึง 147 ล้านเหรียญสหรัฐ เจ็บนี้อีกนานเลยทีเดียว คงจะหาคนลงทุนสร้างหนังแนวนี้มาให้ดูไม่ได้แล้วล่ะ

 

อันดับที่ 1 Cutthroat Island

 

หนังโจรสลัดแนวเดียวกับ Pirates of the Caribbean ที่ถูกกล่าวขานกันในวงการหนังฮอลลิวูดว่าสร้างปัญหามากที่สุดในประวัติศาตร์วงการหนัง เริ่มจากเปลี่ยนตัวนักแสดงดาวดังอย่าง ไมเคิล ดักลาส ที่เจ้าตัวบ่นว่าบทพระเอกด้อยกว่านางเอก มาเป็น แมทธิว โมดีน นักแสดงหนังอินดี้แล้ว ยังผลาญเงิน Carolco สตูดิโอผู้สร้าง บานปลายไปกว่า 115 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อหนังเข้าฉาย ก็ทำรายได้เพียง 10 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น งานนี้ขาดทุนแบบบิ๊กเซอร์ไพรส์ไปราว 147 ล้านเหรียญสหรัฐ จน Carolco ถึงขั้นปิดกิจการกันไปเลย!

หนังเรื่องนี้จึงได้รับเกียรติจากกินเนสบุ๊กส์บันทึกให้เป็นหนังที่ถลุงเงินจากบริษัทผู้สร้างไปอย่างสูญเปล่ามากที่สุดในโลก

 

(หมายเหตุ : ตัวเลขรายได้ที่ขาดทุนเป็นการคำนวนตามภาวะเงินเฟ้อของปีที่หนังออกฉาย)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook