วิจารณ์หนัง The Last Tycoon

วิจารณ์หนัง The Last Tycoon

วิจารณ์หนัง The Last Tycoon
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

the last tycoon วิจารณ์the last tycoon วิจารณ์หลายคนคงยังจำได้ดีกับเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ในละครฮ่องกงที่เป็นตำนานและยังคง ได้รับการกล่าวขานจนถึงปัจจุปันนี้ และในครั้งนี้การกลับของเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ที่ได้ชื่อว่าครั้งสุดท้ายก็มา พร้อมกับผู้ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้คนเดิม โจวเหวินฟะ

 

The Last Tycoon เล่าเรื่องของเฉินต้าซี่ ชายหนุ่มที่หวังจะมีชื่อเสียงและอำนาจที่เซี่ยงไฮ้ แต่แล้วจากการที่เขาโดนใส่ร้ายให้กลายเป็นฆาตกรทำให้เขาได้รู้จักกับโลกอีกใบหนึ่ง อีกทั้งยังทำให้พลัดพรากจาก จือชิว หญิงสาวคนรักที่เขาเคยให้สัญญาไว้

 

หลายสิบปีต่อมา เฉินกลายเป็นคนใหญ่คนโต เป็นผู้ทรงอิทธิพลในเซี่ยงไฮ้ตามใจหวัง หากแต่หญิงสาวข้างกายเขาไม่ใช่ยื่อเจียง ก่อนที่ทั้งสองจะได้พบกันอีกครั้งด้วยความบังเอิญ เธอเองก็ได้แต่งงานไปแล้วเรียบร้อย ก่อนที่เรื่องราวจะเล่าย้อนกลับไป เป็นเหมือนกับชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ค่อยประกอบกันภายใตฉากหลังของช่วงสงครามเอเชียบูรพาที่ญี่ปุ่นพากำลัง เข้ามารุกรานประเทศอื่น

 

กลิ่นไอและบรรยากาศเก่า ๆ ของความเป็นหนังฮ่องกงยังคงมีอยู่ครบถ้วนอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งจังหวะจะโคนการเล่าเรื่อง เนื้อเรื่องเนื้อหาต่าง ๆ ที่ไม่ได้ผิดแปลกอะไรมากนัก แต่ถึงกระนั้นการถ่ายทำก็ทันสมัยขึ้น การตัดต่อที่พยายามสร้างลูกเล่น รวมถึงโปรดักชั่นต่าง ๆ ที่เรียกได้ว่าจัดทำอย่างอลังการกับการเนรมิตเมืองต่าง ๆ ในอดีตออกมาได้อย่างงดงาม

 the last tycoon วิจารณ์the last tycoon วิจารณ์

และดูเหมือนว่าตัวหนังก็ต้องการที่จะพยายามเล่าเรื่องใหม่ให้มันน่าสนใจ และทันสมัยขึ้น ดังนั้นการตัดสลับเล่าย้อนความจึงเป็นวิธีที่หนังเรื่องนี้ใช้ตลอดจนถึงช่วง ท้ายของเรื่อง มันปิดเรื่องราวเอาไว้ก่อนที่จะค่อยกลับมาเล่าความเป็นมาในช่วงต่าง ๆ

 

เส้นเรื่องสองเรื่องที่เดินไปด้วยกัน สุดท้ายก็บรรจบกันในช่วงท้ายเรื่องก่อนที่จะยิงยาวรวดเดียวไปถึงตอนจบ หากแต่การตัดสลับที่หนังทำนั้นไม่ได้ช่วยก่อให้เกิดความน่าสนใจเท่าไหร่นัก กลับทำให้ผู้ชมตามไม่ทันเสียมากกว่า รวมถึงการรีบร้อนเร่งเร้าในสิ่งที่ควรจะให้เวลา และการปล่อยเวลาถ่วงยืดกับสิ่งที่ไม่จำเป็น สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นหลายครั้งในหนังเรื่องนี้เพราะบ่อยครั้งมันเล่าย้อน ความไปอย่างกะทันหันโดยที่เราเองก็ไม่ได้อยากรู้อะไรมากนัก และการย้อนความที่ใช้เวลานานและบ่อยครั้งจนผู้ชมเองรู้สึกหลงอยู่ในห้วงเวลา ไหนก็ไม่รู้ ยังไม่นับกับหลายฉากที่ไม่กระฉับและกินเวลายืดยาวไป อย่างเช่นฉากการแสดงงิ้วในช่วงท้ายเรื่องเองก็เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างหนึ่ง

 the last tycoon วิจารณ์the last tycoon วิจารณ์

จนกระทั่งตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวย้อนความอดีตการพบปะตัวละครไปจนหมดแล้ว หนังก็ยิงยาวเข้าเรื่องหลักไปสู่ช่วงสงครามเอเชียบูรพา เฉินกับนายใหญ่ผู้เป็นผู้ทรงอิทธิพลในเซี่ยงไฮ้ อำนาจที่พวกเขาได้มา การต่อสู้ทางการเมืองกับกองทัพญี่ปุ่นรวมถึงทหารจีนผู้ทรยศหักหลังประเทศ ชาติ แม้ว่าจะดูเหมือนหนังคนละม้วนแต่มันก็ให้ความบันเทิงได้ไม่น้อย แม้ว่าปัญหาของมันก็คือจุดหลัก ๆ ของเรื่องที่ยังคงเดินแบบแผนเดิมจนทำให้บางครั้งมันก็ดูน่าเบื่อหน่ายและจำ เจ ยังไม่นับหลายจุดในเรื่องที่พยายามสร้างจุดขัดแย้งของเรื่องจนดูฝืนธรรมชาติ และขัดกับอารมณ์

 

อย่างไรก็ตาม มันเองก็ไม่ใช่ข้อเสียที่เลวร้ายอะไรมากนัก เพราะ The Last Tycoon เองก็มีองค์ประกอบดี ๆ หลายอย่าง นอกจากโปรดักชั่นแล้ว มันยังประกอบด้วยเหล่านักแสดงที่เปี่ยมบารมีและฝีมือฉกาจ การปะทะบทบาทของพวกเขาก็เกิดขึ้นได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงเสน่ห์ของตัวละครที่เป็นจุดเด่นของเรื่องก็ยังคงครบถ้วน แม้ตัวละครในเรื่องจะเหมือนการ์ตูนที่มีหน้าที่เฉพาะทาง รวมถึงบุคลิคด้านเดียวที่ไม่ค่อยมีความลึกอะไรมากนัก แต่มันก็ทำให้หนังสนุกและสามารถขับเคลื่อนได้ไปในทิศทางที่น่าสนใจ

 the last tycoon วิจารณ์the last tycoon วิจารณ์

ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าหนังเหมือนตัวต่อหลายชิ้นมาประสานกัน มันเป็นเช่นนั้นเพราะเนื้อหาและอารมณ์ที่จบเป็นช่วง ๆ ไปและไม่ปะติดปะต่อกัน และการเล่าเรื่องที่เน้นไปที่เรื่องราวมากกว่าปฏิสัมพันธ์และการพัฒนาของตัว ละคร เชื่อเถอะว่าถ้าคุณเห็นตัวละครที่ปรากฏออกมาครั้งแรกแล้วคุณนึกภาพว่าสุด ท้ายของเขาเป็นอย่างไร เชื่อว่าหลายคนจะสามารถเดาถูกได้ไม่อย่างยากเย็น เพราะเหล่าตัวละครในเรื่องก็เหมือนหุ่นยนต์ และยิ่งไปกว่านั้น แม้หนังจะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที แต่มันก็ยาวนานราวกับสามชั่วโมง เพราะมันมีหลายฉากที่ยืดเวลา การเล่าเรื่องซ้ำ ๆ รวมถึงเนื้อหาหลายส่วนที่ไม่จำเป็นต้องเล่าหรือสามารถเล่าออกมาได้ อย่างกระชับและทรงประสิทธิภาพกว่านี้แต่หนังก็ไม่ทำ อีกทั้งกลับกันหนังเองเลือกที่จะตัดฉับเหตุการณ์ที่ควรจะเล่าให้เหลือเพียง แค่คำพูดสองสามประโยคหรือแฟลชแบ็คที่ไม่จำเป็นต้องสร้าง แต่ก็เพราะหนังเองก็วางตัวและสร้างบรรยากาศของเรื่องไว้แบบนี้ซึ่งเป็น เสน่ห์อีกอย่างที่ผู้ชมสัมผัสมาได้อย่างยาวนาน

 

เช่นเดียวกับหนังฮ่องกงหลายเรื่อง บาดแผลของสงครามที่ญี่ปุ่นฝากไว้นั้นหยั่งรากฝังลึกเกินที่จะลบเลือน The Last Tycoon เองก็เป็นอีกเรื่องที่เราสัมผัสถึงมันได้ ทหารญี่ปุ่นผู้ชั่วช้า เหล่าผู้คิดคดทรยศชาติเองก็ต้องจบชีวิตลงโดยไม่สามารถหลีกหนีได้ และเหล่าคนบาปที่มีชีวิตและความรุ่งเรืองโดยการฆ่าคนและธุรกิจสกปรกเองก็ ต้องชดใช้บาปกรรมด้วยความตาย รวมถึงความโรแมนซ์อย่างการปลดปล่อยหญิงสาวผู้บริสุทธิ์ให้เป็นอิสระ ทั้งหมดยังคงอยู่ครบถ้วนในหนังเรื่องนี้

 the last tycoon วิจารณ์the last tycoon วิจารณ์

แม้จะไม่มีอะไรแปลกใจจนเราต้องตื่นตาหรือประเด็นเข้มข้นจนเราต้องดิ่งลึก แต่ The Last Tycoon เองก็มีความเพลิดเพลินในระดับหนึ่ง ข้อเสียกับข้อเด่นของมันก็ไม่ได้ทิ้งหนีห่างกันมากนัก แต่เชื่อว่าคนที่หลงใหลกับภาพยนตร์ฮ่องกงแนวเจ้าพ่อเก่า ๆ คงชอบใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่น้อย เพราะมันเต็มไปด้วยกลิ่นอายและเรื่องราวที่คุ้นเคย ยิ่งไปกว่านั้นยังประกอบด้วยโปรดักชั่นตระการตาที่สามารถสร้างความตื่นตา ตื่นใจได้ในระดับหนึ่ง สิ่งเหล่านี้รวมกันก็สามารถที่จะตอบสนองความพึงพอใจในระดับหนึ่งได้เป็นอย่างดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook