เปิดใจเหยื่อสะเทือนขวัญคดีดัง "ขังลืม 3096 วัน"

เปิดใจเหยื่อสะเทือนขวัญคดีดัง "ขังลืม 3096 วัน"

เปิดใจเหยื่อสะเทือนขวัญคดีดัง "ขังลืม 3096 วัน"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขังลืม 3096 วัน
เหยื่อสะเทือนขวัญคดีดัง - เผยทุกความลับ
3096 DAYS

 ขังลืม 3096 วันขังลืม 3096 วัน

 

จากเรื่องจริงของ นาตาชา แคมพุช เด็กสาวที่ถูกชายหนุ่มโรคจิตจับตัวไปขณะที่เธออายุเพียง 10 ขวบ และโดนเขาจับขังไว้ในบ้านยาวนานถึง 8 ปี ก่อนจะหนีออกมา - ได้ถูกสร้างเป็นหนังแล้ว ในชื่อ 3096 Days และกำลังจะเข้าฉายในเมืองไทย ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป

 

                นาตาชา แคมพุช เป็นเด็กที่เกิดในเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากหลบหนีออกมาจากบ้านของ โวล์ฟกัง พริกโกพิล ชายโรคจิตที่จับเธอขังไว้นานเกือบทศวรรษ ตัดสินใจเขียนหนังสือบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด อีกทั้งยังเผยความรู้สึกส่วนลึกบางอย่างให้ผู้เขียนบท แบร์นด์ ไอชิงเงอร์ ฟัง ซึ่งเป็นรายละเอียดที่เธอไม่เคยเอ่ยถึงที่ไหนมาก่อน

 

ขังลืม 3096 วันขังลืม 3096 วัน 

                "สภาพจิตใจฉันดีขึ้นแล้ว" นาตาชา แคมพุช ผู้ที่ขณะนี้อายุได้ 25 ปีแล้วกล่าวให้สัมภาษณ์ "ฉันทนกับอาการขวัญผวา ได้อย่างไร ฉันเองก็ตอบไม่ได้ นอกจากบอกได้ว่าต้องใช้เวลา แต่ที่ฉันตัดสินใจเขียนหนังสือบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง ก็เพราะฉันไม่อยากให้คนอื่นตีความเรื่องของฉันแบบเสียๆ หายๆ และไม่เป็นความจริง ฉันจึงอยากบอกให้ทุกคนรับรู้ว่า ตลอด 8 ปีนั้น และจนถึงวันนี้ เกิดอะไรกับตัวฉันบ้าง"


                แบร์นด์ ไอชิงเงอร์ มือเขียนบทชื่อดัง ซึ่งเคยเขียนบทหนังอย่าง Downfall และ Perfume ได้เขียนบทหนังเรื่อง 3096 Days ออกมา โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากนาตาชา แคมพุช เจ้าของเรื่อง

 

ขังลืม 3096 วันขังลืม 3096 วัน 

                "มันมีความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ระหว่างฉันและเขา" แคมพุช กล่าวถึง โวล์ฟกัง พริกโกพิล คนที่กักขังเธอ "ฉันอยากให้เขาตาย ฉันเกลียดเขา แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันมี และเขาก็ดีกับฉันมาก"


            3096 Days เป็นทั้งหนังที่จะพาไปสำรวจสภาพจิตใจอันเปราะบางของเด็กผู้หญิง และบรรยากาศระทึกขวัญ เผยให้เห็นด้านที่มืด รวมถึงลึกลับที่สุดของจิตใจมนุษย์

            3096 Days จะเข้าฉายให้คอหนังชาวไทยได้รับชม ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ห้ามพลาด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook