วิจารณ์หนัง Mr. Go

Mr. Go คือส่วนผสมของทีมงาน 2 สัญชาติ ทั้งเกาลีและไทย ที่ทีมประชาสัมพันธ์ชูความโดดเด่นในเรื่องเทคนิคพิเศษที่ สามารถเนรมิตเจ้าคิงคองออกมาได้อย่างสมจริง เกินหน้าเกินหน้ามาตรฐานหนังที่สร้างจากภูมิภาคเอเชีย แต่สำหรับนักดูหนัง ที่ดูหนังมาแล้วหลายเรื่อง และหากคุณไม่ใช่เด็กๆ คุณก็ไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับจุดนี้มากนัก เพราะเทคโนโลยีสามารถทันกัน ได้แล้ว แต่ส่วนสำคัญก็คือ เนื้อเรื่อง และวิธีการนำเสนอ ที่ไม่สามารถเลียนแบบกันได้

ความน่าสนใจในหนัง Mr. Go  ที่มีชื่อภาษาไทยว่า มิสเตอร์คิงคองนี้ ไม่ใช่การสร้างคิงคองให้สมจริง แต่เป็นเรื่องของคิงคองที่มีความสามารถด้านการตีเบสบอลจนสามารถมาร่วมแข่งในรายการเมเจอร์ของเบสบอลในประเทศเกาหลี! ซึงหนังทุกวันนี้

หลายเรื่องที่นำเรื่องราวที่ไม่น่าเป็นไปได้มาใส่ลงในความเป็นจริง เพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชม ยกตัวอย่างล่าสุดเร็วๆ นี้ก็คืออนิเมชั่นอย่าง Turbo ที่หอยทากสามารถเข้าแข่งรถรายการอินเดียนาโพลิสได้!

Mr. Go  ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อ The 7th Team ของ ฮู ยังมัน เล่าเรื่องราวของ 1 สาวน้อยนามเหว่ยเหวย (ซูเจียว) และ 1 กอริลล่ายักษ์นามหลิง หลิง ที่ผูกพันกันมาในคณะละครสัตว์ของจีน โดยเจ้าหลิง หลิง มีความสามารถด้านการตีเบสบอล เป็นพิเศษ ด้วยภาระหนี้สินที่ต้องแบกรับ การปรากฎตัวของ ซองชุงซู (ซองดงอิล) แมวมองนักกีฬาเบสบอลจากประเทศ เกาหลี จึงเป็นอะไรที่ลงตัว

เมื่อ ซองชุงซู ต้องการให้หลิง หลิง เข้าร่วมทีมเบสบอลในเกาหลี! หลายสิ่งดำเนินไปด้วยดีได้ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง หลิง หลิง โด่งดัง แฟนๆ ต่างขนานนามว่า มิสเตอร์โก ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวย แต่แล้วเมื่อคณะละครถูกคุกคามจากการทวงหนี้และหลิง หลิง ได้รับบาดเจ็บ นำมาซึ่งปัญหาที่ เหว่ย เหวย และ ซองชุงซู ยากจะแก้ไข!

การที่คิงคองอยู่ในคณะละครสัตว์และการที่หัวหน้าคณะเป็นเพียงเด็กหญิง นั่นก็เพียงพอในการเรียกร้องความสนใจจากสื่อให้ มาทำสกู๊ปพิเศษ และนั่นเป็นวิธีในการหาทางของผู้กำกับ คิม ยองฮวา (เคยมีผลงานคุ้นตาคนดูหนังเรื่อง ฮันนะซัง สวยสั่งได้ 200 Pounds Beauty (2006) ในการบอกเล่าความสัมพันธ์นี้ ที่ออกมาดูจริง พร้อมกับให้เราชื่นชมกับผลงานการสร้าง มิสเตอร์คิงคอง ที่ดูมีชีวิตชีวา

แต่อย่างที่กล่าวในตอนนี้ว่าด้วยเทคนิคพิเศษในการสร้างภาพจินตนาการมาเป็นหนังให้สมจริงสามารถทำได้มานานแล้ว ทำให้ เราหมดความตื่นเต้นกับตัวของมิสเตอร์คิงคองได้ในเวลาอันรวดเร็ว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งมันหมายความว่าทีมงานสามารถ สร้างคิงคองออกมาได้เนียนตาจนเราไม่รู้สึกสะดุด และนั่นทำให้เรามาสนใจในเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเต็มที่

หนังถ่ายทอดความผูกพันระหว่าง เหว่ย เหวย และ หลิง หลิง ถูกฉาบหน้าด้วยลักษณะความสัมพันธ์แบบเพื่อนซี้ แต่หาก พิจารณาดีๆ จะเห็นว่า เหว่ย เหวย ดูแล หลิง หลิง ในลักษณะของนายกับบ่าวซะมากกว่า กับการใช้อารมณ์ (ตะโกน, ตะคอก) และความรุนแรง (แส้) ในการสั่งการในครึ่งแรกของเรื่อง

ครึ่งแรกของหนังดูราบรื่นและสดใส แต่หลังจากที่ปัญหาต่างๆ รุมเร้าเข้ามา ผ่านการไตร่ตรองถึงความหมายของคำว่ามิตรภาพ ก็ทำให้เหตุการณ์ดราม่าช่วงท้ายที่แม้จะดูล้นและยาวนาน พอที่จะมีอะไรให้ประทับใจกันบ้าง

ตัวละครนายหน้านักกีฬาเบสบอลหัวก้าวหน้าอย่าง ซองชุงซู ที่แสดงโดย ซองดงมิล นับเป็นตัวละครที่นำเสนอออกมาได้ดี กับบุคลิกยิ้มแย้ม ความคิดที่ไม่แยแสต่อสิ่งใด ของนักกีฬาเป็นตัวทำเงิน แต่เมื่อผ่านสิ่งต่างๆ ก็ทำให้เขาได้เข้าใจและการ แสดงออกของตัวละครนี้ในครึ่งหลังของหนังจึงเป็นอะไรที่มีคุณค่าต่อคนดู

ซูเจียว ที่คนไทยคุ้นตามาจากเด็กชายใน CJ7 (2008) แต่จริงๆ แล้วเธอคือเด็กหญิงที่เติบโตขึ้นมาเป็นนักแสดงที่ดีทีเดียว กับการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านทางสีหน้าและแววตา

อย่างไรก็ตาม แม้ Mr. Go  จะมีทีมนักแสดงที่ดี แต่ด้วยวิธีการนำเสนอของผู้กำกับ คิม ยองฮวา ที่ดูจะเล่นกับอารมณ์ของตัวละครมากไป ทำให้จังหวะของหนังค่อนข้างเชื่องช้าในครึ่งหลัง จะว่าไปมันก็เป็นรูปแบบของการกำกับของหนังที่มาจากเกาหลี เพียงแต่เมื่อนำมาใช้กับหนังเรื่องนี้ กลับทำให้จังหวะของหนังเสียหายอย่างน่าเสียดาย อันส่งผลให้ Mr. Go มิสเตอร์คิงคอง เป็นหนังที่ดูได้แค่เพลินๆ กับ เรื่องราวมิตรภาพระหว่างคนและคิงคองเท่านั้น

Mr. Go มิสเตอร์คิงคอง ผมให้ 3 / 5 

@Chamanz13

 

ซูเจียว (Xu Jiao) สาว ใส น่ารัก จาก Mr. Go

รับส่วนลด 100 บาท สำหรับ 2 ที่นั่ง แค่มี WeChat แล้วตาม Official Account "Major Group"