10 หนังที่ดีที่สุดแห่งปี 2013

10 หนังที่ดีที่สุดแห่งปี 2013

10 หนังที่ดีที่สุดแห่งปี 2013
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปี 2013 เป็นอีกปีที่เรามีหนังให้ได้ชมเยอะมากๆ มีหนังหลากหลายแบบให้เราได้เลือกชมกัน ทั้งหนังฟอร์มยักษ์และหนังทางเลือก และถือเป็นโชคดีเพราะหนังใหญ่ๆ ส่วนมากเราจะได้ชมก่อนหรือพร้อมกับอเมริกาเลย จนอาจจะเรียกได้ว่าเราเป็นประเทศแรกที่ได้ดูหนังฟอร์มใหญ่ก่อนใครในโลกก็ว่าได้



S! Movie จึงขอคัดเลือกหนัง 10 เรื่องออกมา เป็น 10 หนังที่ดีที่สุดแห่งปี 2013 ซึ่งเดือนนี้เป็นเดือนธันวาคม ยังไม่สิ้นสุดปีซะทีเดียว อาจจะมีหนังปลายปีที่โดนกว่านี้ก็ได้ แต่ 10 หนังที่คัดเลือกมา ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดีที่คุณไม่ควรพลาดชมอย่างแท้จริง! โดยหนังทั้ง 10 เรื่องนี้ เราไม่ได้เรียงอันดับแต่อย่างใดน่ะครับ 

 

1. พี่มาก..พระโขนง


เมื่อหนังเข้าฉายก็สร้างปรากฎการณ์ทางด้านรายได้อย่างมหาศาล ไม่น่าเชื่อว่าประเทศไทยจะมีหนังพันล้าน! กับเขา พี่มาก..พระโขนง ไม่ได้มีดีแค่รายรับเท่านั้น แต่คุณภาพโดยรวมของมันยังมีดีพอเป็นหนังที่มอบทั้งความบันเทิงและความซาบซึ้งที่กลมกล่อมและลงตัว!

 

2. Captain Phillips


หนังได้ฉายรอบนักวิจารณ์และสื่อมวลชนไปแล้ว แต่กว่าหนังจะเข้าฉายจริงๆ ก็ปีหน้า (ต้นเดือนมกราคม) แต่ความยอดเยี่ยมของการกำกับของ พอล กรีนกลาส ก็ทำให้เรื่องราวของ กัปตันฟิลิปส์ ที่ต้องต่อสู้กับการยึดเรือของโจรสลัดโซมาเลีย เป็นความตื่นเต้นและลุ้นไปตั้่งแต่ต้นจนจบ และแน่นอนส่วนหนึ่งมาจากความยอดเยี่ยมทางการแสดงของ ทอม แฮงค์ส อีกด้วย!

 

3. Blue Jusmine

นี่คือหนังที่ผู้หญิงที่กำลังคิดจะมีคู่หรือกำลังอยู่ในวัยที่ต้องการความมั่นคงในชีวิตทุกคนควรจะดู การแสดงของ เคท แบลนเชตต์ และเรื่องราวจากการกำกับของ วู๊ดดี้ อัลเลน ก็ยอดเยี่ยมพอที่จะทำให้ Blue Jusmine เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาด!

 

4. The Croods

ความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวของอนิเมชั่น The Croods คือการที่หนังไม่ได้เข้าชิงชัยออสการ์สาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยม ซึ่งศักยภาพของมันมีดีพอที่จะเป็นผู้ชนะได้ The Croods เป็นอนิเมชั่นที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวที่มีความอบอุ่นกินใจและยังแฝงแง่คิดให้เป็นอาหารสมองหลังชม!

 

5. Silver Linings Playbook

นี่คือหนังที่ส่งให้ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ได้รางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม กับเรื่องราวของคนผิดหวังในความรักจนมีอาการทางจิต 2 คน มาเจอกัน เป็นผลงานคุณภาพของ เดวิด โอ. รัซเซลล์ ที่ใครที่เคยผ่านความเจ็บช้ำเพราะรัก จะอินกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ!

 

6. The Hunger Games: Catching Fire

เมื่อ The Hunger Games ภาคแรกประสบความสำเร็จ ก็เป็นธรรมดาที่ภาคสอง Catching Fire ย่อมได้รับการคาดหวัง เป็นเงาตามตัว การเปลี่ยนแปลงผู้กำกับจาก แกรี่ รอสส์ มาเป็น ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ สร้างความสงสัยว่า มันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือ? แต่คำตอบที่ Catching Fire มอบให้ เป็นคำตอบที่แสดงให้เห็นถึง ความฉลาดในการตัดสินของผู้สร้างที่เปลี่ยนผู้กำกับ เพราะ ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ ทำให้ Catching Fire ดีขึ้นในทุกๆ ทาง และที่สำคัญความเข้มข้นของเรื่องราวก็ได้รับการสานต่อในระดับที่จะทำให้ภาคจบ Mockingjay จะเป็นความสำเร็จถล่มถลายอย่างแน่นอน!

 

7. About Time

นานๆ ทีเราจะมีหนังรักตลก ที่ใช้ความแฟนตาซีมาเป็นเงื่อนไขให้เราได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของความรักได้อย่างที่หนังรักโรแมนติคหลายๆ เรื่องไม่สามารถทำได้ ดอมแเนลล์ กลีสัน หนุ่มหน้าตาธรรมดา ที่กลายเป็นพระเอกหนังรักได้อย่างเฉิดฉาย ที่เคมีเข้ากับ ราเชล แม็คอดัมส์ แบบสุดๆ ที่นอกจากเรื่องราวความรักแบบหนุ่มสาวแล้ว ยังมีเรื่องความรักของครอบครัว ที่ทำให้คุณมีรอยยิ้มและคราบน้ำตาบนใบหน้าเมื่อดูหนังเรื่องนี้จนจบ!

 

8. Gravity

หากเจ้าพ่อในการถ่าย Long Take จะสามารถกำกับหนังที่เกี่ยวข้องกับอวกาศโดยมีตัวละครเพียง 2 ตัว ได้สนุกตื่นเต้นและเอาใจช่วยได้ขนาดนี้ ก็ต้องยกให้ Gravity เป็นหนึ่งในหนังเด็ดของปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่ง แซนดร้า บูลล็อก ได้บทที่จะเป็นที่จดจำอีกครั้งในฝีมือด้านการแสดงของเธอ และที่สำคัญมันเป็นหนังที่ทำรายได้ถล่มถลายอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย!

 

 

9. ตั้งวง

หนังไทยคุณภาพแห่งปี ของผู้กำกับ คงเดช จาตุรันต์รัศมี ที่หน้าหนังดูจะเป็นเรื่องราวของวัยรุ่น แต่เนื้อในและแก่นแท้ของมันสามารถเข้าถึงได้กับคนทุกวัย และหนังจะไม่มีดาราชูโรงแต่นักแสดงทุกคนก็ทำหน้าที่ได้ดี แถมดูสนุกกว่าที่คิดอีกด้วย!

 

10. Fast & Furious 6

Fast & Furious 6 เป็นผลงานการกำกับชิ้นสุดท้ายในซีรีส์ Fast & Furious ของ จัสติน ลิน เพราะภาค 7 จะเป็น เจมส์ วาน ที่รับไม้ต่อไป และในเมื่อเป็นภาคสุดท้าย ความมันส์แบบจัดเต็มที่เราพึงหาได้จากหนังที่เกี่ยวกับการแข่งรถซิ่ง จึงถูกรวมมาอยู่ในหนังเรื่องนี้ทั้งหมด แม้หลายเสียงจะมองว่ามันเหนือจริงแต่นั่นก็ไม่ได้เกินขอบเขตที่จะรับได้ และที่เด็ดคือมันพาเรื่องไปเชื่อมต่อเข้ากับงาน Fast and Furious: Tokyo Drift ที่เขาเคยเริ่มไว้ พร้อมทั้งสานต่อไปยัง Fast & Furious 7 ได้อย่างสวยงาม!



10 อันดับ ละครจอแก้ว แห่งปี 2013 !!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook