ชาลี ซิ่งมอเตอร์ไซด์แข่งกับ โน๊ต พลิกคว่ำในกองถ่าย แข่งรักนักซิ่ง

 

ชาลี ซิ่งมอเตอร์ไซด์พลิกคว่ำ

กลางกองถ่าย แข่งรักนักซิ่ง

 

เมื่อเช้าวันนี้ (25 ธ.ค.) เวลาประ มาณ 10.00 น. บริษัท บางกอก ออดิโอ วิชั่น จำกัด โดย ฉลอง ภักดีวิจิตร ได้ยกกองไปถ่ายทำละครเรื่อง "แข่งรักนักซิ่ง" ในหมู่บ้านร้างย่าน อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เพื่อถ่ายทำฉากแข่งรถมอเตอร์ไซด์ระหว่าง โน๊ต-วัชรบูล ลี้สุวรรณ ซึ่งรับบทเป็น "อัครพล" นักแข่งฝีมือดีหน้าใหม่  กับ ชาลี กรรณสูต ซึ่งรับบทเป็น "สิงห์" นักแข่งฝีมือดีหน้าเก่า การถ่ายทำฉากดังกล่าวนั้นทั้งสองคน ได้นัดกันมาประลองความเร็วนอกสนามจริง แต่เพราะอัครพลยังไม่ชินกับสนามประลอง ที่มีความทุลักทุเลเหมือนสนามวิบาก จึงทำให้สิงห์ขี่ล้ำหน้าไปก่อน ในขณะที่ถ่ายทำถึงจุดนี้ซึ่งเป็นทางโค้ง และมีเนินดินขวางทางอยู่ ทำให้ชาลีมองไม่เห็นรถจึงไปแฉลบกับกองดินและเสียการทรงตัว เพราะชาลีขับรถมาด้วยความเร็วสูง เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่สามารถที่จะประคองรถเอาไว้ได้ ชาลีจึงตัดสินใจดีดตัวเองออกมาจากเบาะรถ และลงไปนอนแน่นิ่งอยู่ข้างทาง ส่วนรถมอเตอร์คันโก้ราคาหลายแสนบาท ก็ไปนอนสงบแน่นิ่งอยู่อีกฟากฝั่งของถนน โชคดีที่ในเรื่องโน๊ตขับตามหลังมา แต่อยู่ห่างกันคนละโค้ง จึงทำให้รถของโน๊ตไม่พุ่งเข้าไปชนรถของชาลีในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ

 

 

เมื่อเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิด ทีมงานซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุจึงรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของชาลี และแจ้งให้ ฉลอง ภักดีวิจิตร ผู้กำกับทราบทันที เพราะในจุดที่เกิดอุบัติเหตุกล้องถ่ายรับภาพไม่เห็นแล้ว ทางด้านโน๊ตพอขับรถมาถึงที่เกิดเหตุถึงกับตกใจคิดว่าชาลีต้องอาการหนักแน่นอน เพราะสภาพที่โน๊ดมองเห็นนั่นเหมือนขาของชาลีจะหัก และนอนสลบไม่ได้สติ ส่วนสภาพรถถึงกับพังยับเยิน โน๊ตจึงบอกให้ทีมงานห้ามขยับเขยื้อนตัวของชาลีอย่างเด็ดขาด และให้โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยของมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง มาช่วยนำส่งโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอสซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด เมื่อถึงโรงพยาบาลทางแพทย์จึงนำตัวของชาลีเข้าเครื่องสแกนสมอง เพื่อดูว่าศรีษะได้รับความกระทบกระเทือนมากน้อยแค่ไหน พร้อมทั้งเอ็กซเรย์ส่วนสำคัญต่างๆของร่างกายว่าเป็นอะไรหรือไม่ หลังจากที่ผลการตรวจต่างๆออกมาแล้ว ทางแพทย์ได้แจ้งให้ทราบว่า ส่วนต่างๆของรางกายเป็นปกติไม่มีส่วนไหนแตกหรือหัก แต่จะมีอาการแดงหรือฟกช้ำบ้างตามบริเวณที่ได้รับการกระแทก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอดูอาการให้ครบ 24 ชั่วโมงก่อน  จึงจะบอกได้ว่าปลอดภัย โดยเฉพาะบริเวณส่วนหัวที่ได้รับการกระแทกกับพื้นถนนแรงพอสมควร

 

 

ในขณะที่ผู้สื่อข่าวไปถึงโรงพยาบาลฯ โน๊ต วัชรบูล ก็ได้แวะมาเยี่ยมดูอาการของเพื่อนนักแสดงที่เข้าฉากร่วมกัน พร้อมทั้งเปิดใจให้ฟังว่า "ตอนที่พี่ชาลีเกิดอุบัติเหตุอย่างจริงๆนั้นผมไม่เห็น เพราะว่ามันเป็นโค้ง แต่เห็นว่ามีฝุ่นฟุ้งขึ้นมาพอสมควร พอรถของผมผ่านโค้งมาได้ก็มองไปข้างหน้า ทำไมไม่เห็นรถของพี่ชาลี แต่พอมองไปอีกทีเห็นแดนทีมงานฝ่ายพร็อบ วิ่งเข้าไปหาพี่ชาลีซึ่งนอนสลบอยู่ข้าง ตอนนั้นผมยอมรับว่าผมรู้สึกใจไม่ดีเลย เพราะเห็นสภาพของพี่ชาลีแล้วมันต้องหนักแน่ๆเลย เพราะขาเขาบิดเหมือนคนขาหักและเขาก็นิ่งมาก พอหันไปดูรถก็ยิ่งใจไม่ดีหนักเข้าไปอีก และผมก็บอกให้ทุกคนห้ามขยับตัวพี่ชาลีนะ เพราะถ้าเราขยับไม่ดีเขาอาจจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ก็ได้ ตอนนั้นพี่ชาลีนอนแน่นิ่งไปไม่ต่ำกว่า 10 นาที พออาหลองและผู้ช่วยมาถึงก็รีบโทรหามูลนิธิให้มาช่วย ตอนนี้พี่ชาลีเริ่มรู้สึกตัวและลืมตาขึ้นมามอง ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นมากเลย แต่ตอนที่เกิดเรื่องเป็นอย่างไรต้องถามพี่ชาลีเองเพราะผมไม่เห็นตอนนั้น นอกจากทีมงานที่ชื่อแดนและอีกคนซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดครับ" หนุ่มโน๊ตพูดทิ้งท้ายเอาไว้

 

ทางด้านชาลีได้พูดให้ฟังด้วยเสียงเบาๆว่า "มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ พอผมเลี้ยวโค้งมาเพื่อจะเข้าทางตรงมันก็เจอกองดินขวางหน้าพอดี ผมไม่สามารถที่จะหักรถหลบไปทางไหนได้แล้ว เพราะรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูงพอสมควร อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดแล้ว ในวินาทีนั้นผมตัดสินใจทิ้งตัวลงกับพื้นถนนดีกว่า โดยที่ผมเอามือจับหมวกกันน็อคเอาไว้ เพราะว่ามันไม่มีสายรัดครับ ผมจำได้ว่าตัวของผมกลิ้งไปประมาณ 3 ตลบเห็นจะได้ และหมวกก็กระเด็นหลุดจากหัวผมออกไป ตอนนั้นผมจำอะไรไม่ได้แล้วและผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองสลบนานแค่ไหน ลืมตามาอีกทีผมเห็นคนมุงดูผมเยอะแยะไปหมด คนแรกที่ผมเห็นหน้าคืออาหลองแล้วก็โน๊ต นอกนั้นมีใครบ้างผมจำไม่ได้ และความคิดของผมในตอนนั้นผมยังคิดว่า ทำไมไม่รีบถ่ายละครมามุงดูผมทำไม และผมก็เริ่มมีความรู้สึกว่าผมเจ็บบริเวณลำคอ หน้าผากซีกขวา และตามลำตัวทางซีกขวาจะเจ็บมาก อีกซักพักหนึ่งตอนที่ทางมูลนิธิเข้ามาช่วยผมถึงจะเริ่มลำดับเหตุการณ์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม และมาจำได้ทั้งหมดในรถตอนที่เขาเอาผมมาส่งโรงพยาบาล ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เมื่อซักอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมก็ผิดคิวกับน้องนักแสดงจากละครเรื่อง "มนต์นาคราช" พอต่อมาอีกวันก็ผิดคิวในละครเรื่อง "เล่ห์นางหงส์" อีกและโดนที่หางตาข้างซ้ายเหมือนกันเลย ผมรู้ว่าปีนี้เป็นปีชงของผมแบบเต็มๆ ผมก็พยายามทำบุญให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ปีหน้าเขาว่าผมจะโชคดีครับ" ชาลีพูดติดตลกเป็นการทิ้งท้ายเอาไว้