เปลือยชีวิต เชอรี่ สามโคก จากเด็กศิลปากร สู่วงการหนังอาร์

เปลือยชีวิต เชอรี่ สามโคก จากเด็กศิลปากร สู่วงการหนังอาร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชอรี่ สามโคก

เธอเคยมีผลงานผ่านตาทางจอแก้วในซิทคอมเรื่องหนึ่งกับบทเซ็กซี่ แต่หลังจากละครออนแอร์ ก็มีคนขุดอดีตพร้อมผลงาน "ฉาว" จนทำให้เธอแทบหมดอนาคต ทว่าแวดวงหนังผู้ใหญ่ คงไม่มีใครไมรู้จักเธอ

เชอรี่ สามโคก หรือ ลฎาภา รัชตะอมรโชติ พร้อมจะเปิดใจให้ฟังถึงเรื่องราวหลากหลายที่เธอประสบพบเจอ ทั้งผลงานถ่ายแบบติดเรท ทั้งตัวตนที่เธอเป็น กับภาพร้อนแรงที่เห็นในหนัง จะแตกต่างกันอย่างไร

"ตอนเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ทับแก้ว ที่นครปฐม เรามากรุงเทพฯ เพื่อมาทำงาน ไปสมัครเป็นนักแสดงตัวประกอบ เขารับเรา ก็ทำงานมาเรื่อยๆ ตอนปี 3 ทำโมเดลลิ่งก็มีชวนไปถ่ายแบบเซ็กซี่เล็กๆ ก็ไปเลย ไม่ได้แคร์ว่าเซ็กซี่ต้องโป๊ ไม่ได้มองว่ามันคือไม่ดี เพราะมันเป็นงาน ไม่ได้ถ่ายแบบ แก้ผ้าเดินไปตามท้องถนน เราถ่ายแบบเพื่อเป็นงาน ไม่ได้ใช้คำว่าเป็นศิลปะเพื่อหาเหตุผลให้ตัวเอง

จากนั้นก็ได้เล่นโฆษณา ที่เขาเรียกกันเป็นน้องอ้อย เล่นกับพี่สายเชียร์ คราวนี้ไม่ได้มีงานต่อ พอเรียนจบเข้ากรุงเทพฯ เราได้ทุนเพราะเขียนความเรียงภาษาอังกฤษ เป็นวิชาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตะวันออกกลาง อาจารย์ส่งงานนี้ไปให้มหาวิทยาลัยที่อิหร่านซึ่งอาจารย์เรียนจบมา เขารู้สึกสนใจและอยากให้ทุน แต่การเรียนประวัติศาสตร์ต้องเรียน 5 ปี ต้องเรียนภาษาก่อนด้วย ช่วงนั้นเป็นสงครามระหว่างอเมริกากับอิรัก อิหร่านอยู่ตรงกลาง ที่บ้านก็เลยไม่สบายใจว่า เราไปอยู่ในสังคมวัฒนธรรมแปลกที่แปลกถิ่นแล้วเขามีปัญหาอยู่ ก็เลยไม่ไป"

เชอรี่ เท้าความตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ

"ช่วงสอบเรียนต่อปริญญาโท มีถ่ายแบบเซ็กซี่ที่มากกว่าเดิม จากบิกินี่ ก็มาสู่บิกินี่ชนิดที่เซ็กซี่ขึ้นแล้วก็ไม่ได้มองว่าตัวเองเซ็กซี่ แต่งานที่ได้ส่วนใหญ่เป็นงานแบบนี้ทั้งนั้น ไม่รู้ว่าคนมองอย่างไรว่าเราเซ็กซี่ หน้าเราก็คิดว่าบ้านๆ ไม่ได้ทำหน้าอะไร แต่ยอมรับว่าคนที่สนใจเรื่องหนังโป๊เขาก็จะรู้ แต่ด้วยความที่อินเทอร์เน็ตตอนนั้นไม่ได้เข้าถึงเหมือนทุกวันนี้ ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามีอะไรแบบนี้อยู่ ก่อนหน้านั้นที่ไปถ่ายแบบ เชอรี่ ก็เหมือนเป็นเหมือนพริตตี้รุ่นแรกๆ ที่ถ่ายนู้ดได้ เป็นทริปถ่ายภาพช่างภาพสมัครเล่น ซึ่งตอนนั้นเขาถ่ายรูปจริงๆ มีศิลปะ ถามว่าทำไมถ่ายนู้ดได้ ก็ถามอีกว่าทำไมถ่ายไม่ได้ล่ะ มันเป็นงาน

เชอรี่ สามโคก

เราได้รับการติดต่อจากเอเยนต์ที่เคยทำงาน ก็ไม่มีปัญหา เพราะเคยถ่ายอยู่แล้ว นู้ดในความคิดของเราคือการถอดเสื้อผ้า แต่ก็มีองค์ประกอบอย่างอื่น มีมือมาบัง มีมาปิด นั่นคือนู้ดในความคิดของเรา และเราก็เคยถ่ายแบบนั้นมาแต่เราไม่เข้าใจว่าบางครั้งเขาใช้คำว่า "อาร์ต" หรือ "นู้ด" เพื่อเป็นเหตุผลของอะไรบางอย่างที่คนละความหมายกับเรา 

แต่ประสบการณ์ครั้งนั้น เธอบอกว่าเหมือนโดนหลอก แต่เมื่อเซ็นสัญญาแล้วก็จำต้องทำ เธอโทษตัวเองที่ไม่อ่านสัญญาให้ละเอียดตั้งแต่แรก

"ที่เราไปก็เป็นช่างภาพต่างประเทศ เขาเอาผลงานที่เป็นตัวอย่างมาแล้วบอกให้เราทำแบบนั้นแต่เห็นแล้วไม่เห็นว่าอาร์ตตรงไหน มันคือการแหกแหวกปลิ้นอะไรด้วยซ้ำไป เราก็บอกไม่ทำแต่เราพลาดตรงที่เราเซ็นสัญญาไปแล้ว แล้วเราก็ไม่ได้อ่าน เราก็ผิด เราควรต้องอ่านไม่ว่ามันจะหนา จะยิบย่อยขนาดไหน แล้วเขาก็บอกว่า เซ็นไปแล้วก็บอกต้องทำให้ได้

ก็เสียใจว่าทำไมคนที่รู้จักอย่างช่างแต่งหน้าเขาต้องรู้สิว่าเรามาทำอะไรแล้วเขาก็ต้องรู้สิว่าเราไม่รู้ทำไมถึงไม่บอกหลอกเราแล้วถ้าเราไม่ทำไปโทรศัพท์แจ้งตำรวจเขาจะฆ่าเราหรือเปล่า แล้วไปถ่ายที่กลางป่ากลางเขาที่ไหนก็ไม่รู้ ก็บอกกับตัวเอง ณตอนนั้นว่าก็ทำไปแต่มีขีดจำกัด ถ้ามันเกินก็จะแกล้งร้องไห้ แกล้งบ้า แต่พอเราบอกไป เขาก็ไม่ได้บังคับอะไรถึงขั้นนั้น อยู่ตรงนั้น 3-4 วัน ถ่ายตามเวลาตั้งแต่ 8 โมง ถึง 2 ทุ่ม เปลี่ยนชุด 20-30 ชุด ซึ่งเหนื่อยมาก เราก็ไม่รู้จะฟ้องหรือไม่ แต่คิดแค่ขอกลับบ้านก่อน

 

อย่างที่บอกไปว่า เรามีผลงานโฆษณามาก่อน พอรูปเซ็ตนี้ปล่อยออกมา คนในอินเทอร์เน็ต เขาจะรู้ เขาจำได้ก็เอามาโยงกัน แบบภาพหลุด มีคนส่งต่ออีเมลไปทั่ว เพื่อนเราก็ได้ บางทีก็ไม่รู้จะตอบเขาว่าอะไร มันเกิดไปแล้วก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ เพื่อนบางคนอาจรับไม่ได้ที่เป็นเรา ก็ไม่เป็นไร เราก็สู้ของเราคนเดียว ถ้าจะรับไม่ได้ในสิ่งที่เป็นความผิดพลาด ความรู้เท่าไม่ถึงการของเราก็ไม่เป็นไร แต่หลายๆคนก็ไม่สนใจ บอกเราว่ามันพลาดไปอย่าคิดอะไรมาก

ต่อมาเราก็ยังรับงานอื่นอยู่ทุกครั้งที่มีผลงานระหว่างนั้นภาพพวกนี้ก็จะถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆลองสมมติตอนนั้นถ่าย1วัน30ชุด เขาปล่อยทีละชุด แปลว่าเดือนละชุด คือที่ถ่ายไปวันเดียวก็ได้ 30 เดือน ที่ถ่ายไปก็ 3-4 วัน ตอนนี้ไม่รู้ว่าหมดหรือยัง แต่น่าจะหมดแล้ว เห็นมีแต่คนโพสต์รูปเก่าๆ แต่อย่างที่ไปเล่น "หม่ำ ออนสเตจ" ก็จะมีคนปล่อยออกมา เขาก็ฮือฮากัน แต่เราไม่ได้ถูกถอดออก ไปโดนถอดหลัง 6 สัปดาห์ไปแล้ว

เชอรี่เริ่มเป็นที่รู้จักอีกครั้ง จากบทบาทการแสดงใน น้ำตาลแดง 

"พอเล่นน้ำตาลแดงก็มีปล่อยมาเรื่อยๆ คนจะชอบคิดว่าเราถ่าย แต่มันเป็นภาพเก่า แต่อาจมีกรณีที่เป็นภาพใหม่อย่างที่ถ่ายลงนิตยสารหัวเซ็กซี่เล่มหนึ่ง แล้วเขาเอาสไลด์ทั้งหมดไปขายให้กับเว็บโป๊นี้ ถึงแม้จะไม่ได้เปิดอะไร แต่ภาพต่อให้เป็นบิกินี่ แต่ปั๊มหัวว่าเป็นเว็บนี้ คนก็จะมองว่าเป็นเว็บโป๊ เราก็ยอมรับว่าเป็นคนที่เคยมีรูปในเว็บไซต์แบบนั้น แต่เชอรี่ไม่ได้ทำแล้ว แต่คุณเอาไปขายแล้วเชอรี่จะถูกมองอย่างไร เชอรี่ก็ไม่ได้ไปฟ้องร้องอะไร เพราะไม่อยากให้วุ่นวาย นางแบบหลายคนก็เคยโดน แต่ก็เงียบๆไป

ประสบการณ์สอนให้เธอรู้จักรับงานและเลือกงาน แต่ถึงกระนั้น ภาพนางแบบนู้ด ดาราหนังอาร์ ก็กลายเป็นภาพจำที่ติดตาผู้ชมไปแล้ว

"ถ้าไม่เต็มใจแล้วทำไมถึงยิ้ม ? ก็ตอบว่าถ้าทำหน้าบึ้งแล้วมันฆ่าขึ้นมาใครจะมาช่วย มันคือทำงาน การยิ้มใส่กล้องมองไปที่ตาด้วยว่าร้องไห้อยู่รึเปล่า ถ้าแค่มององค์ประกอบว่าปากยิ้มอยู่แล้วมีความสุข ถ้าตัดสินแค่องค์ประกอบของคนแค่จากโครงสร้างแค่นี้เหรอ อย่างช่วงเล่นหนังก็จะมีเรื่องราวอะไรมากเลย คนที่เล่นด้วย รายละเอียดต่างๆ จนรู้สึกว่าเราพอและเล่นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว"

เรียบเรียงจาก มติชน

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ เปลือยชีวิต เชอรี่ สามโคก จากเด็กศิลปากร สู่วงการหนังอาร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook