วิจารณ์หนัง 13 Sins

วิจารณ์หนัง 13 Sins

วิจารณ์หนัง 13 Sins
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วิจารณ์หนัง 13 Sins

 

คำเตือน ช่วงท้ายบทความมีการเปิดเผยเรื่องราวของภาพยนตร์ หากไม่ต้องการเสียอรรถรสกรุณาอ่านจุดที่ยังไม่มีการระบุว่าเป็นจุดเปิดเผย "ไคลแมกซ์" ของเรื่อง 

 

13 Sins เป็นผลงานการรีเมคภาพยนตร์ไทยชื่อดังอย่าง 13 เกมสยอง ซึ่งกำกับโดย มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ซึ่งเป็นผลงานที่ถูกดัดแปลงมาจากการ์ตูนของ "เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์" ผู้เขียนการ์ตูนต้นฉบับเรื่อง The 13 QUIZ SHOW มาอีกที 

 

ใน 13 เกมสยอง เล่าเรื่องราวของ ภูชิต พึ่งนาทอง(น้อย วงพรู) เซลล์แมนขายเครื่องดนตรี ที่กำลังถูกออกจากงานหลังจากที่ไม่สามารถทำยอดตามเป้าได้ อีกทั้งคนรักยังทิ้งไปหาคนใหม่ หนี้สินที่มีอยู่ก็มีอยู่และยังต้องส่งเสียน้องสาววัยเรียนและแม่ที่ต้องเลี้ยงดูเขาและน้องเพียงลำพังตั้งแต่เล็ก รถยนต์ที่ขาดส่งค่างวดไป 3 เดือนก็ยังถูกยึดไปต่อหน้าต่อตา และถึงตอนนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดคือเมื่อโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เสียงลึกลับจากปลายสายดึงเขาเข้าสู่ "13 BELOVED" เกมท้าทายชีวิตที่มีโจทย์ 13 ข้อ ซึ่งให้เขาค้นหาคำตอบและเล่นโดยมีผลตอบแทนที่ดึงดูดใจ เมื่อผ่านโจทย์ในแต่ละข้อได้เงินสะสมก็พร้อมที่จะทวีคูณขึ้นไปเรื่อย ๆ จะถูกส่งเข้าบัญชีธนาคารที่เขาสามารถตรวจสอบได้ทันที และถ้าครบ 13 ข้อก็จะได้เงินสะสมถึง 100 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขที่ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาหยุดเล่นเงินสะสมทั้งหมดจะถูกยกเลิก หากบอกต่อให้คนอื่นรู้เกมถือว่าเป็นโมฆะ และหากพยายามติดต่อกลับหมายเลขดังกล่าวถือว่าเกมสิ้นสุด และเมื่อยิ่งเล่นเกมไปความยากในแต่ละข้อก็ทวีความรุนแรงและเริ่มริดรอนความเป็นมนุษย์จากเขาไปทีละน้อย

 

 

ในขณะที่ 13 Sins เล่าเรื่องราวที่คล้ายคลึงกันแต่รายละเอียดในหนังเปลี่ยนแปลงเป็น เอเลียต บรินเดิล (มาร์ค เว็บเบอร์) เซลส์แมนหนุ่มดวงตกที่เพิ่งโดนไล่ออกจากงาน ผู้กำลังมืดบอดจากปัญหาที่รุมเร้าเข้ามารอบด้าน อาทิพ่อที่เหมือนจะกลายเป็นอัลไซเมอร์, น้องชายที่มีปัญหาทางสมองและภรรยาที่กำลังตั้งท้อง แต่จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์ลึกลับที่อ้างว่าเขากำลังร่วมสนุกในรายการเกมโชว์รายการหนึ่ง ซึ่งเสนอเงินรางวัลสูงถึง 6.2 ล้านเหรียญฯ ถ้าเขารับคำท้าที่จะทำภารกิจวัดใจทั้ง 13 ข้อ   เอเลียต ไม่มีทางเลือกนอกจากตอบตกลงโดยที่หารู้ไม่ว่า ถึงจะยิ่งเล่น เงินในบัญชีอาจจะยิ่งเพิ่ม แต่   13 คำท้า กลับมาพร้อม 13 ประสบการณ์ระทึกที่จะดึงเขาสู่ด้านมืดของมนุษย์จนเหนือการควบคุม 

 

จริงอยู่ที่หนังทั้งสองเรื่องอาจจะพูดถึง "เกม" เปลี่ยนชีวิต แต่แรงขับของตัวละครในเรื่องค่อนข้างแตกต่างกันเมื่อภูชิตยิ่งเล่นเกม เขายิ่งหลงใหลไปกับอำนาจของเงินที่ครอบงำตัวเขาจนกระทั่งไปถึงเกมข้อ 13 แต่ในขณะที่การเล่นเกมของเอเลียตถูกขับเคลื่อนด้วยคำว่า "ครอบครัว" เป็นหลัก ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นเขาลงมือทำสิ่งที่ชั่วร้ายก็เพียงเพราะตัวเงินที่เขาต้องการนั้นจะช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ทนจากการเป็นหนี้ และครอบครัวที่เขาต้องดูแล ซึ่งในเวอร์ชั่นต้นฉบับไม่ได้เน้นหนักในส่วนนี้ 

 

 

13 เกมสยองเพียบพร้อมไปด้วยฉากลุ้นระทึกตลอดทั้ง 13 เกม ที่อัดแน่นไปด้วยการ "ทำภารกิจ" ของภูชิต ที่เกมแต่ละข้อทวีความรุนแรงอย่างเป็นลำดับขั้นและส่งผลต่อเนื่องต่อ "อารมณ์ของตัวละคร" นับตั้งแต่ที่ภูชิตจะต้องลงมือใช้เก้าอี้ฟาดแฟนใหม่ของแมวคนรักเก่า ลามไปถึงการฆ่าวัวเพื่อบรรลุทางไปสู่เกมข้อที่ 13 แต่ในขณะที่ 13 Sins กลับเล่าเรื่องแบบตัดข้ามฉากไป โดยไม่ให้ผู้ชมเห็นว่าการทำภารกิจของเอเลียตในบางข้อนั้นเป็นอย่างไร เพื่อนำไปสู่บทสรุปของเรื่องที่บิดไปจากงานต้นฉบับพอสมควร เพื่อเสนอมุมมองใหม่และที่มาของเกมที่ค่อนข้างคลุมเครือ 

 

13 เกมสยอง มีแก่นของการอธิบายใจความสำคัญว่ามนุษย์นั้นชื่นชอบและเสพย์ติดความรุนแรงเพียงแค่ไหน และ "เงิน" สามารถเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นปีศาจได้จริงหรือไม่ ความดีงามในตัวมนุษย์ยังหลงเหลืออยู่หรือเปล่า ในขณะที่ 13 Sins พูดถึงอำนาจลึกลับที่มีการส่งผ่านกันจากยุคสู่ยุคและมีอำนาจมืดในสังคมที่คอยปกปิดและอำพรางหลักฐานจากใครสักคนได้อย่างไร ซึ่งถ้าจะวัดเรื่องความเป็นไปได้และน่าเชื่อถือมากกว่า 13 สยองยังกินขาดในการวิพากษ์ความดำมืดในจิตใจของมนุษย์ได้ดีกว่า 

 

 

หลังจากที่เอเลียตได้ก้าวเข้าสู่เกมจะเห็นได้ว่าบางครั้งบางทีเขาก็หลงระเริงไปกับการทำภารกิจ แต่ในแต่ละข้อ เขาก็จะมีโมเมนต์ฉุกเฉลียวใจในสิ่งที่เขากำลังจะลงมือทำว่ามันเริ่ม "ล้ำเส้น" ความเป็นมนุษย์ของตัวเองมากไปหรือยัง จะได้จากการแกล้งเด็ก, การประจานศพ, การตัดแขนคู่อริเก่า, พบว่าลวดที่เขาช่วยหญิงชราขึงเพื่อตากผ้านั้นกลายเป็นลวดที่เอาไว้ตัดคอแกงค์ซิ่งมอเตอร์ไซด์ ทุกครั้งที่เขารู้สึกว่ามันชั่วร้ายจนเกินไปแล้วเขาก็เกิดอาการ "ลังเล" อยู่บ่อยครั้ง 

 

 

 

จากจุดนี้มีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญของหนัง........

 

เมื่อถึงจุดคลี่คลายใน 13 Sins เมื่อ เอเลียต , พ่อ(ทอม บาวเวอร์) และ ไมเคิล(เดวอน กราเย่) น้องชายผู้พิการ ได้มาพบกันที่บ้าน และความจริงก็เปิดเผยขึ้นมาว่า ไมเคิลคือผู้เล่นอีกคนที่กำลังแข่งขันเพื่อไปถึงเกมข้อที่ 13 ก่อนเอเลียต และโจทย์ข้อที่ 13 เพื่อจะชนะเงินรางวัลก็คือการสังหารพ่อหรือคนในครอบครัวของพวกเขาเอง แต่แล้วความจริงก็เผยขึ้นมาอีกว่า แท้ที่จริงแล้วในอดีตพ่อของพวกเขาก็เคยกลายเป็นผู้ชนะของเกมนี้มาก่อน และชัยชนะของเขาก็แลกมาด้วยการสังหารภรรยาของเขาเอง ก่อนที่จะมีเงินรวยล้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขามีความสุขเลยตั้งแต่วันนั้นมา เขากลับจมดิ่งอยู่กับความผิดที่เขาไม่อาจจะแก้ไขได้อีก และหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งเกมนี้ พ่อของพวกเขาจึงปาดคอตัวเองไปต่อหน้าต่อตา 

 

เมื่อเหลือกันแค่ 2 คนระหว่างพี่และน้อง ทั้งคู่ก็ไม่อาจจะเชื่อใจกันได้อีกว่า อีกฝ่ายยังอยากจะกำชัยชนะอยู่หรือเปล่า และแล้วก็เกิดการไม่ไว้ใจระหว่างกันจนทำให้ทั้งสองต่อสู้กันและไมเคิล ผู้เป็นน้องก็เผยความในใจของเขาออกมาว่าเขาอยากจะเป็น "ผู้ชนะ" อะไรสักอย่างในชีวิต และแน่นอนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ก็จบลงไม่ค่อยจะสวยนัก 

 

 

เอเลียตถูกน้องชายแทงจนพรุน เขาซมซานออกมาหาโทรศัพท์เพื่อรีบติดต่อหาภรรยาของตัวเอง และค้นพบว่า เธอก็ได้รับโทรศัพท์ให้กินแมลงวันเพื่อเงินรางวัลเช่นกัน เอเลียตจึงรีบถามว่าเธอตอบอะไรไป และ คำตอบที่ได้รับก็คือ ............... เปล่า เธอคิดว่ามันสกปรกและไล่คนที่ปลายสายให้ไปตายซะ 

 

เอเลียตน้ำตาไหลและเขากำลังรู้สึกว่า "ความชั่วร้ายกำลังจะผ่านพ้นไป" ................................... จริงหรือเปล่า? แต่ที่แน่ๆ มันก็จากเมียของเขาไปแล้ว 

 

ยกให้ 3 คะแนนจาก 5 คะแนน 

@พริตตี้ปลาสลิด


อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง 13 Sins

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook