กาลเวลาผันผ่านแต่ความรักยังคงเดิมใน The Best of Me

กาลเวลาผันผ่านแต่ความรักยังคงเดิมใน The Best of Me

 

ว่ากันว่าไม่มีใครสามารถลืมความรักครั้งแรกได้ลง เรื่องราวของ The Best of Me นั้นก็เช่นเดียวกัน ชีวิตของภายนอก อแมนด้า โคลลิเออร์ดูจะเป็นผู้หญิงที่มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ มีบ้านหลังใหญ่ ลูกชายวัยรุ่นที่แสนน่ารักและสามีที่ประสบความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริงมันคือสิ่งลวงตาในโลกที่อแมนด้าเติบโตขึ้นมา จนกระทั่งวันหนึ่งที่เรื่องราวในอดีตได้หวนกลับมาบรรจบกับชีวิตในปัจจุบันของเธออีกครั้ง เมื่อสถานการณ์ได้ทำให้เธอได้พบกับคนรักเก่า ดอว์สัน โคล เด็กหนุ่มที่ชอบสร้างปัญหาแต่มีจิตใจที่ดีงาม ทั้งคู่ต้องแยกจากกันไปเมื่อหลายปีก่อน เพราะดอว์สันเลือกที่จะปล่อยเธอไปจากเขา แต่เมื่อโอกาสครั้งที่สองได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง พวกเขามีโอกาสที่จะสานต่อความสัมพันธ์ในอดีตที่เคยขาดหายไป

คำถามสำคัญก็คือ “ถ้าคนแรกที่คุณเคยตกหลุมรัก เป็นคนที่ดีที่สุดที่คุณควรใช้ชีวิตอยู่ด้วยล่ะ” จากในภาพยนตร์ที่ดอว์สันและอแมนด้าได้พบกันสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น และได้กลับมาพบกันอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป 20 ปี จึงนับเป็นแง่มุมที่น่าสนใจมาก "ผมคิดว่าเราทุกคนต้องเคยถามคำถามทำนองนี้กำตัวเองสักครั้งหนึ่งในชีวิตครับ” ไมเคิล ฮอฟแมนผู้กำกับของเรื่องได้กล่าวไว้

ความท้าทายของภาพยนตร์เรื่องนี้คือหนังเหมือนกับเป็นภาพยนตร์ 2 เรื่อง ทั้งเรื่องราวความรักแบบวัยรุ่น และความรักของผู้ใหญ่ในยุคปัจจุบัน ดังนั้นมันจึงเหมือนกับการถ่ายภาพยนตร์ 2 เรื่อง ซึ่งค่อนข้างยากในการทำมันให้ทันเวลาที่กำหนด แต่การได้เห็นเรื่องราวจากช่วงเด็กพัฒนาสู่วัยผู้ใหญ่ถือเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้กำกับรู้สึกมีความสุขและทึ่งมาก เมื่อทีมนักแสดงผู้ใหญ่จะต้องนำสิ่งที่ทีมนักแสดงเด็กแสดงเอาไว้มาสื่อจากภายใน 

นิโคลัส สปาร์คผู้แต่งนิยายเรื่องนี้กล่าวว่า อแมนด้าถือได้ว่าเป็นตัวละครที่แสดงได้ยากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ และเขารู้สึกทึ่งในตัวมิเชล โมนาแฮนมากที่สามารถทำความเข้าใจตัวละครและแสดงออกมาได้ขนาดนี้ เนื่องจากบทบาทของเธอมีความซับซ้อนเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่จะต้องเดินหน้าต่อไปหลังจากต้องพบความเสียใจกับเรื่องราวความรัก ในขณะที่ดอว์สันไม่เป็นอย่างนั้น เขาไม่เคยรักใครอีก แต่อแมนด้าแต่งงานและมีครอบครัวตามแบบแผนของสังคม เช่นเดียวกับที่พวกเราส่วนใหญ่เป็น