การกู้ภัยสุดเหลือเชื่อจากเรื่องจริงสู่ ภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดระทึก "The Finest Hours"

การกู้ภัยสุดเหลือเชื่อจากเรื่องจริงสู่ ภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดระทึก "The Finest Hours"

การกู้ภัยสุดเหลือเชื่อจากเรื่องจริงสู่ ภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดระทึก "The Finest Hours"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภาพยนตร์แอ็กชั่นทริลเลอร์วีรบุรุษ “The Finest Hours ชั่วโมงระทึกฝ่าวิกฤตทะเลเดือด” สร้างขึ้นจากเรื่องราวสุดพิเศษของการกู้ภัยด้วยเรือเล็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์หน่วยป้องกันชายฝั่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่นำเสนอในรูปแบบดิจิตอลสามมิติ, ไอแมกซ์ 3 มิติ, และ 4 มิติ ที่จะนำพาผู้ชมไปสู่ใจกลางมหาสมุทร ด้วยการสร้างประสบการณ์ภาพยนตร์สุดอลังการ  

"The Finest Hours" ผลงานการกำกับโดย "เคร็ก กิลเลสปี้"  (“Million Dollar Arm”) นำแสดงโดยคริส ไพน์ (แฟรนไชส์ “Star Trek”), นักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดและลูกโลกทองคำ เคซีย์ เอฟเฟล็ค (“Interstellar”), เบน ฟอสเตอร์ (“3:10 to Yuma”), ฮอลลิเดย์ เกรนเจอร์(“Cinderella”), จอห์น ออทิซ (“Silver Linings Playbook”) และอิริค บานา (“Lone Survivor”) อำนวยการสร้างโดยจิม วิทเทคเกอร์ (“Cinderella Man”) และโดโรธี ออฟิเอโร่ (“The Fighter”) บทภาพยนตร์โดยผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ สก็อตต์ ซิลเวอร์ (“8 Mile”) และผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ พอล ทามาซี และ อิริค จอห์นสัน (“The Fighter”) จากหนังสือนอนฟิคชันชื่อเดียวกันโดยไมเคิล เจ. ทอเกียส และเคซีย์ เชอร์แมน โดยมีดัค เมอร์ริฟิลด์ (แฟรนไชส์ “Pirates of the Caribbean”) เป็นผู้อำนวยการสร้างบริหาร เข้าฉาย 28 มกราคมนี้ ในระบบ 3 มิติ,ไอแมกซ์ 3 มิติ,และ 4 มิติ

“เรื่องราวเกิดขึ้น ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ปี 1952 พายุลูกยักษ์ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่นิวอิงก์แลนด์ ทำให้เมืองต่างๆ ตามชายฝั่งอีสต์โคสต์เจอกับพายุฝนตกหนักและสร้างความพังพินาศให้กับทุกสิ่งที่ขวางหน้า รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันขนาด 500 ฟุตสองลำ เรือเอสเอส เพนเดิลตันและเอสเอส ฟอร์ท เมอร์เซอร์ ที่มุ่งหน้าสู่บอสตัน รัฐแมสซาซูเซทส์และพอร์ทแลนด์ รัฐเมนตามลำดับ แตกออกเป็นสองซีก 

ทำให้ลูกเรือติดอยู่ด้านในเรือ สำหรับผู้ช่วยวิศวกรที่หนึ่ง เรย์ ไซเบิร์ต (เคซีย์ เอฟเฟล็ค) เจ้าหน้าที่อาวุโสที่อยู่บนเรือเพนเดิลตัน เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่า เขาจะต้องดูแลลูกเรือที่กำลังตื่นกลัวและกระตุ้นให้พวกเขาทำงานร่วมกันเพื่อประคับประคองเรือลำนี้ ให้ลอยอยู่ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้    สถานีหน่วยป้องกันชายฝั่งอเมริกาในชาธาม รัฐแมสซาซูเซทส์กำลังยุ่งอยู่กับการช่วยชาวประมงท้องถิ่นปกป้องเรือของพวกเขาจากพายุ ในตอนที่พวกเขาได้ข่าวว่ามีเรือที่เสียหายถูกพัดมาอยู่ในน่าน น้ำใกล้ๆ นั้น 

  พันจ่าแดเนียล คลัฟฟ์ (อิริค บานา) ผู้เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นนายสถานี ได้ส่งเรือกู้ชีพ CG 36500 ภายใต้บังคับบัญชาของกัปตันเบิร์นนี่ เว็บเบอร์ (คริส ไพน์) ออกไปค้นหาผู้รอดชีวิตในทันที เว็บเบอร์และลูกเรือสามคนบนเรือกู้ชีพไม้ติดเครื่องยนต์ขนาด 36 ฟุต ได้เริ่มต้นภารกิจเสี่ยงตาย ที่มีโอกาสสำเร็จเพียงน้อยนิด และก่อนที่พวกเขาจะออกไปพ้นจากท่าเรือ กระจกบังลมและเข็มทิศของเรือก็พังเสียหาย แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ และแม้จะเผชิญกับคลื่นลมแรงระดับเฮอร์ริเคน คลื่นสูง 70 ฟุต สภาพอากาศเยือกแข็งและวิสัยทัศน์ที่ย่ำแย่จนมองอะไรไม่เห็น พวกเขาก็ค้นพบเรือเพนเดิลตันและสามารถช่วยเหลือคน 32 คนจาก 33 คนท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังจากที่เผชิญหน้ากับสภาพการณ์ทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุด พวกเขาก็ต้องกลับไปสู่ท้องปีศาจอีกครั้ง และนำคน 36 ชีวิตกลับสู่บ้านบนเรือกู้ชีพ 12 ที่นั่ง ที่สภาพพังยับเยินของพวกเขา

“The Finest Hours” เต็มไปด้วยซีเควนซ์แอ็กชั่นยิ่งใหญ่ที่ลุ้นระทึกตลอดตั้งแต่เริ่ม และมันก็มีแกนกลาง เป็นธีมหลักที่แข็งแรงและปรากฏชัดตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งก็คือความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณมนุษย์   มันเป็นเรื่องราวของการยกระดับจิตใจ เกี่ยวกับคนที่ทำอะไรบางอย่างสำเร็จด้วยความตั้งใจที่น่ายกย่อง เพราะมันเป็นงานของพวกเขาน่ะครับ ผมเชื่อในหนังที่เกี่ยวกับความหวังจริงๆ และหนังเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นครับ

คนหนุ่มพวกนี้รู้ดีว่าพวกเขาจะเจอกับอะไรในตอนที่พวกเขาปีนขึ้นไปบนเรือกู้ชีพลำน้อยนั้น พวกเขามีความกล้าหาญที่จะออกไป ด้วยการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนอื่นก่อนและทำในสิ่งที่เหลือเชื่อ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง การกู้ภัย เรือเอสเอส เพนเดิลตัน กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งในตอนนั้นครับ  แต่ในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่คุ้นเคยกับเรื่องราวนี้ รวมถึงครอบครัวของกลุ่มคนที่เป็นส่วนหนึ่งของการกู้ภัยนั้นด้วย คนพวกนี้ไม่พูดถึงเรื่องนี้เพราะสำหรับพวกเขา มันเป็นงาน

ครั้งนี้ผมและทีมได้จำลองความพยายามที่กล้าหาญของพวกเขาบนจอเงินเป็นวิธีที่เพอร์เฟ็กต์ในการบอกเล่าเรื่องราวที่น่าจดจำของพวกเขาให้คนทั้งโลกได้รับรู้ครับ และสำหรับเรื่องราวแบบนี้ที่ข้อเท็จจริงมีความน่าสนใจเหลือเกิน ทีมผู้สร้างก็มุ่งมั่นกับการยึดมั่นกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น เราต้องการจะนำเสนอเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับคนจริงๆ ในเรื่องอย่างเฉพาะเจาะจง ชัดเจนและถูกต้องในเชิงเทคนิค การได้นำรายละเอียดและข้อเท็จจริงเหล่านั้นมาใส่ลงไปทำให้เราได้นำเสนอตัวละครที่มีเลือดเนื้อและมีเอกลักษณ์โดดเด่นเหล่านี้ครับ” ผู้กำกับ เคร็ก กิลเลสปี้ และ ทีมผู้สร้าง กล่าว

ตัวอย่างภาพยนตร์ The Finest Hours

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ การกู้ภัยสุดเหลือเชื่อจากเรื่องจริงสู่ ภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดระทึก "The Finest Hours"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook