วิจารณ์หนัง The Finest Hours จงเชื่อในประสบการณ์และสัญชาตญาณ

วิจารณ์หนัง The Finest Hours จงเชื่อในประสบการณ์และสัญชาตญาณ

วิจารณ์หนัง The Finest Hours จงเชื่อในประสบการณ์และสัญชาตญาณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวละครในหนังเรื่อง The Finest Hours นั้นสามารถจำแนกออกได้ 3 กลุ่มตัวละครนั่นก็คือ มิเรียม(ฮอลลิเดย์ เกรนเจอร์) หญิงสาวหัวสมัยใหม่ที่ขอชายหนุ่มอย่างเบิร์นนี่แต่งงาน, กัปตันเบิร์นนี่ เว็บเบอร์ (คริส ไพน์) หัวหน้าทีมกู้ภัยของเรือกู้ชีพ CG 36500 และเรย์ ไซเบิร์ต (เคซีย์ เอฟเฟล็ค) เจ้าหน้าที่อาวุโสที่อยู่บนเรือเพนเดิลตัน ซึ่งตัวหนังจะใช้การตัดสลับเหตุการณ์ไปมาระหว่างเส้นเรื่องทั้งสาม 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังจำลองมาจากเหตุการณ์จริงของวันที่18 กุมภาพันธ์ ปี 1952 พายุลูกยักษ์ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่นิวอิงก์แลนด์ ทำให้เมืองต่างๆ ตามชายฝั่งอีสต์โคสต์เจอกับพายุฝนตกหนักและสร้างความพังพินาศให้กับทุกสิ่งที่ขวางหน้า รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันขนาด 500 ฟุตสองลำ เรือเอสเอส เพนเดิลตันและเอสเอส ฟอร์ท เมอร์เซอร์ ที่มุ่งหน้าสู่บอสตัน รัฐแมสซาซูเซทส์และพอร์ทแลนด์ รัฐเมนตามลำดับ แตกออกเป็นสองซีก ทำให้ลูกเรือติดอยู่ด้านในเรือ เรย์ ไซเบิร์ต จึงต้องผันตัวเองให้กลายเป็นกัปตันและดูแลลูกเรือที่กำลังตื่นกลัว รวมไปถึงต้องหาหนทางในการทำให้เรือลำนี้สามารถลอยต่อไปให้ได้นานที่สุด 

ด้านหน่วยกู้ภัยนั้น พันจ่าแดเนียล คลัฟฟ์ (อิริค บานา) ผู้เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นนายสถานี ได้ส่งเรือกู้ชีพ CG 36500 ภายใต้บังคับบัญชาของกัปตันเบิร์นนี่ เว็บเบอร์ ต้องออกไปค้นหาผู้รอดชีวิตในทันที เว็บเบอร์และลูกเรือสามคนบนเรือกู้ชีพไม้ติดเครื่องยนต์ขนาด 36 ฟุต ได้เริ่มต้นภารกิจเสี่ยงตาย ที่มีโอกาสสำเร็จเพียงน้อยนิด และก่อนที่พวกเขาจะออกไปพ้นจากท่าเรือ กระจกบังลมและเข็มทิศของเรือก็พังเสียหาย แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ เพื่อนำพาผู้รอคอยการช่วยเหลือจากเรือที่ใกล้จะอับปางกลับสู่แผ่นดินให้ได้ 

The Finest Hours นั้นแม้ว่าจะดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริงก็ตาม แต่ปัญหาของหนังเรื่องนี้อยู่ตรงที่ว่าผู้กำกับเคร็ก กิลเลสปี้ ไม่สามารถขับเน้นอารมณ์ของตัวละครในเรื่องให้ดูมีชีวิตชีวาเท่าที่ควร ตัวละครแทบทุกตัวในเรื่องเหมือนประสบปัญหาไม่มีอินเนอร์ในการแสดง ทุกอย่างดูแห้งแล้ง ปราศจากอารมณ์ความรู้สึกและใกล้เคียงกับคำว่า “เบื่อโลก” (หน้าแต่ละคนโดยเฉพาะตัวละครผู้ชายในเรื่องดูเหนื่อยหน่ายกับชีวิต) เว้นก็เพียงแต่บทของฮอลลิเดย์ เกรนเจอร์ที่ยังดูชวนจดจำไม่และไม่ถูกคลื่นซัดกระเซ็นไปหลังหนังจบลง 

โชคยังดีที่ตัวหนังยามที่ตัดสลับไปอยู่บนเรือที่ใกล้จะอับปาง หรือเรือกู้ภัยที่ต้องฝ่ามรสุมคลื่นยักษ์ หนังก็ทำออกมาได้ตื่นเต้นระทึกใจและทำให้คนดูที่จวนเจียนจะหลับกับฉากดราม่าแสนน่าเบื่อ ได้ลุ้นให้พวกเขาเอาชีวิตรอดจากธรรมชาติอันบ้าคลั่ง

คุณภาพของ The Finest Hours มีความใกล้เคียงกับหนังที่ดัดแปลงมาจากเหตุการณ์เหมืองถล่มในชิลีอย่าง The 33 เมื่อปีก่อนที่เต็มไปด้วยตัวละครมากมาย และเมื่อมีความจำเป็นจะต้องกระจายบทให้ตัวละคร “มีซีน” ในระดับที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ตัวละครหลายๆตัวมีลักษณะแบนๆ เช่นตัวอิจฉาบนเรือใกล้อับปางก็ชวนน่าหมั่นไส้จนอยากจะถีบให้ตกเรือเป็นต้น 

@พริตตี้ปลาสลิด

3 คะแนนจาก 5 คะแนน 

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง The Finest Hours จงเชื่อในประสบการณ์และสัญชาตญาณ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook