วิจารณ์หนัง THE MONKEY KING 2 เมื่อวายร้ายกลายเป็นตัวเด่น

หลังจากที่หนัง The Monkey King ภาคแรกนั้นเราจะได้เห็นซุนหงอคงไปอาละวาดจนสวรรค์พินาศไปแล้วในภาคก่อนจนถูกพระยูไลจองจำให้เห้งเจียอยู่ใต้ภูเขาเป็นเวลากว่า 500 ปี เรื่องราวที่เกิดต่อเนื่องในภาคนี้ก็คือการที่พระถังซัมจั๋งมีภารกิจสำคัญในการไปอัญเชิญพระไตรปิฎกยังชมพูทวีป หลังจากที่ซุนหงอคงได้กลายเป็นศิษย์คนแรก ก่อนที่ทั้งสองจะเดินทางต่อไปและได้พบกับตือโป๊ยก่ายและ ซัวเจ๋ง แต่ระหว่างเดินทางนั้นพวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับวายร้ายตัวฉจากอย่างปีศาจกระดูกขาว  

เนื่องจากในเวอร์ชั่นนิยายหรือแม้กระทั่งทีวีซีรีย์ก็ตามที ช่วงเวลาในการฟอร์มทีมกว่าจะรวบรวมศิษย์แต่ละคนนั้นค่อนข้างใช้เวลานานและแต่ละคนก็มี “เรื่องราว” ก่อนจะได้มาพบเจอกัน แต่ถ้าหากจะเล่าละเอียดแบบนั้นหนังคงกินเวลาราว 4-5 ชั่วโมง หนังเลยใช้วิธีการรวบตึงด้วยการให้ตือโป๊ยก่ายและซัวเจ๋งพบกันแล้ว และดักรอพระถังซัมจั๋งอยู่แล้ว เรียกได้ว่าย่นเวลาของเรื่องราวไปเยอะมาก 

เหมือนกับ The Monkey King 2 รู้อยู่แล้วว่าคนดูคงจะเคยผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้วกับเทพนิยายไซอิ๋ว มาครั้งนี้การเรียกใช้นักแสดงหญิงอย่าง “กงลี่” ในการมารับบทบาทตัวร้ายของเรื่องอย่างปีศาจกระดูกขาว ด้วยบทภาพยนตร์ที่ให้น้ำหนักกับตัวละคร ไม่แพ้กับซุนหงอคง ทำให้เธอเป็นวายร้ายที่ดูมีมิติและมีมาดของ “นางพญา” ประกอบกับการแสดงแบบอินเนอร์มาเต็มของกงลี่ ยิ่งทำให้ตัวละครของเธอโดดเด่นและผู้ชมก็ไม่อาจจะละสายตาไปจากเธอได้เลย ถ้าหากแองเจลิน่า โจลี่คือ Maleficent นางร้ายจากวรรณกรรมตะวันตกที่โลกจดจำเมื่อปีก่อน กงลี่ก็คือนางร้ายแห่งปี 2016 จากวรรณกรรมโลกตะวันออกฉันใดฉันนั้น

 ยิ่งไปกว่านั้นคนดูส่วนมากคงจะคาดหวังเทคนิคพิเศษโดยเฉพาะซีจีของเรื่องที่เรียกได้ว่า ภาคนี้มาเต็มสตรีมทั้งฉากถ้ำของปีศาจกระดูกขาว, การแปลงร่างของลูกสมุนปีศาจกระดูกขาว, การต่อสู้อันน่าตื่นตาตื่นใจของซุนหงอคงและปีศาจกระดูกขาวในช่วงท้ายเรื่อง และอีกมากมายหลายฉาก งานเสื้อผ้าหน้าผม เมืองสมมติก็เรียกได้ว่ามีการออกแบบมาอย่างประณีตเต็มไปด้วยรายละเอียด

อีกทั้งหนังยังใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเข้ามาว่า จริงๆแล้วระหว่างคนที่พยายามต่อชีวิตตัวเองด้วยการเบียดเบียนคนอื่นกับปีศาจที่ถูกตราหน้าว่าเลวนั้น จริงๆใครเป็นคน “เลวกว่า” กัน หรือแม้กระทั่งแก่นคติธรรมของไซอิ๋วในตอนนี้ก็คือมิตรภาพและความเชื่อมั่นระหว่างกันนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำภารกิจ(แผนการเดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎก) ให้สำเร็จต้องเกิดจากการร่วมมือร่วมใจ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั่นเอง 

@พริตตี้ปลาสลิด

4 คะแนนจาก 5 คะแนน