ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง X-MEN: APOCALYPSE มนุษย์กลายพันธุ์กับความเป็นคอมมิกส์

ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง X-MEN: APOCALYPSE มนุษย์กลายพันธุ์กับความเป็นคอมมิกส์

ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง X-MEN: APOCALYPSE มนุษย์กลายพันธุ์กับความเป็นคอมมิกส์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าจะพูดถึงใครสักคนที่ทำให้วงการหนัง “ซูเปอร์ฮีโร่” กลับคืนจอเงินได้อย่างสง่างาม ผู้กำกับคนนั้นก็คือ “ไบรอัน ซิงเกอร์” ผู้กำกับที่กรุยทางให้หนังอย่าง X-Men ได้มีโอกาสขึ้นมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ในปี 2000 และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หนังซูเปอร์ฮีโร่ก็ออกฉายในคนทั่วโลกได้ชมกันอย่างต่อเนื่องแทบทุกปี ดีบ้าง ห่วยบ้าง คะเคล้ากันไป ในยุคสมัยที่มาร์เวลยังไม่ได้เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งบนจอภาพยนตร์แบบทุกวันนี้ X-Men กลายเป็น “หนัง” ซูเปอร์ฮีโร่มนุษย์กลายพันธุ์ที่ลูกเด็กเล็กแดงและผู้ใหญ่เข้าถึงได้ (และ 2 ปีให้หลังจากนี้แซม ไรมี่ก็พัฒนา Spider-Man มาขึ้นจอใหญ่) 

จากวันนั้นถึงวันนี้ ไบรอัน ซิงเกอร์มีส่วนร่วมในการกำกับ X-Men มาแล้วตั้งแต่ภาคแรก, X-2 และ X-Men: Days of Future Past  และยังช่วยดูแลบรรดาภาคอื่นๆในฐานะโปรดิวเซอร์ ด้วยความผูกพันกับตัวละครมนุษย์กลายพันธุ์เป็นอย่างดี ผู้กำกับคนนี้จึงเลือกที่จะนำเสนอแง่มุมต่างๆในหนังชุดนี้ได้ในแต่ละภาคได้อย่างน่าสนใจและเอาเข้าจริงก็แทบจะไม่ซ้ำแบบกันเลยด้วยซ้ำไป 

สำหรับ X-MEN: APOCALYPSE ที่เป็น X-Men ในภาคช่วงเวลาในอดีตเราจะได้เห็นจุดเริ่มต้นของชาร์ลและแม็กนีโต้ใน X: First Class ก่อนที่ X-Men: Days of Future Past เราจะได้เห็นตัวละครจากอดีตและอนาคตได้มาพบกัน ท่าทีของหนังสองภาคแรกนั้นมีความตึงเครียดทางการเมืองเป็นฉากหลัง แต่สำหรับภาคล่าสุดตัวหนังกลับเลือกจะนำเสนอฉากหลังในแบบเรียบง่าย นั่นคือการมี “วายร้ายที่คืนชีพขึ้นมาเพื่อครองโลก” 

แนวคิดวายร้ายอยากครองโลก(อะโพคาลิปส์)และมีลูกสมุนผู้จงรักภัคดี(จตุอาชา) เป็นพล็อตหนังแนววายร้ายต้องปะทะกับบรรดาตัวละครที่ต้องการพิทักษ์โลก (เหล่าเอ็กซ์เมนและมิตรสหายของชาร์ล) จึงต้องปะทะกันเพื่อหยุดยั้งอะพอคาลิปส์ พล็อตเรื่องไม่ได้มีอะไรล้ำลึกไปมากกว่านี้ ไม่มีความตึงเครียดในแง่ของสังคม วัฒนธรรม หรือการเหยียดความแตกต่างของมนุษย์กลายพันธุ์เลย หนังภาคนี้จึงเป็นภาคที่ตั้งใจนำเสนอ “เรื่องราวอันเป็นเนื้อแท้” ของเหล่าตัวละคร(คาแรกเตอร์) ของมนุษย์กลายพันธุ์แต่ละตัว ซึ่งได้มีโอกาสเปิดตัวว่าพวกเขาเป็นใคร มาจากไหน ผ่านอะไรมาก่อน (ซึ่งหลายคนก็มองว่าตรงนี้คือจุดด้อยของหนังและทำให้มันยือเยื้อจนทำให้หนังภาคนี้ยาว 2 ชั่วโมง 24 นาที ทั้งที่ความเป็นจริงมันยาวกว่าภาค X-Men: Days of Future Past แค่ 12 นาทีเท่านั้นเอง) 

ในภาพรวม X-Men: Apocalypse ยังเป็นหนังที่มอบความบันเทิงให้กับผู้ชมในระดับที่น่าพอใจ ฉากต่อสู้ท้ายเรื่องที่ยาวเหยียด สเปเชียลเอฟเฟ็คอลังการ การแบ่งสรรปันส่วนเวลาบนจอให้ตัวละครได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ สรุปแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายหรือย่ำแย่เลย (อย่าไปเชื่อตัวเลขจากเว็บวิจารณ์ต่างประเทศมาก ไม่งั้นหนังอย่าง Gods of Egypt จะทำเงินถล่มทลายในบ้านเราเหรอ?????) แต่มันมีสไตล์ของความเป็นคอมมิกส์แบบหนังสือการ์ตูนมากกว่าเป็นหนังสะท้อนสังคมก็เท่านั้นเอง 

4 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด


อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง X-MEN: APOCALYPSE มนุษย์กลายพันธุ์กับความเป็นคอมมิกส์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook