จุดจบ "อีซ่อนกลิ่น" โหดสุดในชีวิต "จั๊กจั่น" ถึงขั้นน็อคส่งโรงพยาบาล

เพราะความแซ่บความร้ายกาจและแสนเลวโดนใจของผู้ชมและแม่ค้าแผงทุเรียนทุกตลาดทั่วไทยของ อีซ่อนกลิ่น ในละคร “ลิขิตริษยา” ซึ่งรับบทโดย “จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ทำให้ผู้จัดฯ “เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร” ที่อินกับความร้ายของซ่อนกลิ่นหนักยิ่งกว่าผู้ชม ยอมควักเงินหลายแสนสั่งเปิดกองถ่ายให้คนเขียนบทปรับขยี้ฉากจบของซ่อนกลิ่นให้หนักกว่าเก่าเพื่อความสาสมกับกรรมที่ทำไว้ และเพื่อความสนุกและเข้มข้นของละครยิ่งขึ้น เป็นการคืนกำไรให้ผู้ชม 

ผู้กำกับ “ผิน เกรียงไกรสกุล” จัดให้ รวบรวมเหยื่อที่ถูก ซ่อนกลิ่น ฆ่าทั้งหมด ทั้ง ฝ้าย ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว รับบท กรองแก้ว, เจี๊ยบ ชมพูนุช ปิยธรรมชัย รับบท ธูป, ยุ้ย ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี รับบท เจิม, หรัณย์ กิ่งโพธิ์ตัน รับบท ก้าน, กณิน ปัทมนันถ์ รับบท ทอง มาร่วมเข้าฉากเป็นผีมาจัดการซ่อนกลิ่น ในฉากจบนี้ด้วยโดยพร้อมเพรียงกัน

เบื้องฉากอวสานละคร ลิขิตริษยา วันนี้เป็นฉากที่ความจริงทุกอย่างปรากฏว่า ซ่อนกลิ่น(จักจั่น) เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่ามากมายหลายศพ ซ่อนกลิ่นถูกตำรวจจับเครียดและกลัวความผิดจนเกิดภาพหลอนเห็นผีมาบีบคอ ซ่อนกลิ่นคว้ามีดมาแทงผี  แต่ในความเป็นจริงคือแทงท้องตัวเอง ซ่อนกลิ่นวิ่งหนีผีเตลิดมาอยู่บนต้นไม้ก็เจอผีธูป(เจี๊ยบ)บีบคอดิ้นหนีจนตกต้นไม้  ซ่อนกลิ่นกุมแผลที่ท้องกระเสือกกระสนคลานหนีผีจนลงไปนอนอยู่ในบ่อโคลน

ครานี้หนักยิ่งกว่าเจอผีทุกตนที่ตัวเองฆ่า ทั้ง ก้าน (หรัณย์), กรองแก้ว (ฝ้าย), เจิม (ยุ้ย), ธูป (เจี๊ยบ), ทอง (กณิน) จนมายืนรวมตัวริมบ่อโคลนค่อยๆเดินมาบีบคอท่ามกลางสายฝน ซ่อนกลิ่นโดนบีบคอหวาดกลัวจนช๊อคตายตาเบิกโพลง ซึ่งในความเป็นจริงคือเพราะบาปกรรมที่ทำไว้ทำให้ซ่อนกลิ่นเห็นภาพหลอนและบีบคอตัวเองตาย 

กองถ่ายเปิดกองถ่ายทำละครลิขิตริษยากันที่ วัดท้ายเกาะใหญ่ จังหวัดปทุมธานี เพื่อความสมบูรณ์และได้อรรถรสอย่างเต็มที่ของละคร  ด้วยการปรับขยี้จุดจบให้สาสมใจกับความเลวของซ่อนกลิ่น โดยนักแสดงทุกคนก็ยินดีและเต็มใจมากองถ่ายกันอย่างพร้อมเพรียง หลังจากปิดกล้องกันไปสักพักแล้ว

 โดยเฉพาะจั๊กจั่นที่ป่วยคออักเสบมาก่อนหน้านี้และพักจนหายดีเกือบ 100% แล้ว มาถึงกองพร้อมสวมวิญญาณอีซ่อนกลิ่นลุยถ่ายทันที ขณะที่ทีมนักแสดงที่เป็นเหยื่อถูกจับแปลงโฉมแต่งหน้าเอฟแฟ็กท์ผี จั๊กจั่นถูกจับแปลงโฉมเป็นซ่อนกลิ่นใส่ชุดชุ่มเลือดลุยถ่ายทำซีนที่ต้องเจอภาพหลอนผีหลอกจนใช้มีดแทงท้องตัวเองและวิ่งหนีด้วยความหวาดผวาร้องไห้กลัวตัวสั่นเทา และเมื่อเจี๊ยบแต่งเป็นผีธูปเสร็จก็มาเข้าร่วมฉากเป็นผีจะบีบคอซ่อนกลิ่นอยู่บนต้นไม้ จนซ่อนกลิ่นตกจากต้นไม้

เป็นซีนที่เริ่มถ่ายขณะฟ้าครึ้มฝนทุกคนเร่งถ่ายทำกันเต็มที่ทั้งจั๊กจั่นและเจี๊ยบถูกส่งไปอยู่บนต้นไม้ จักจั่นที่เพิ่งฟื้นไข้และยังเหนื่อยกับฉากที่เพิ่งถ่ายทำมานั่งหมดแรงบนต้นไม้แล้วบอกกับเจี๊ยบว่า เพื่อนอยากทำไรอีซ่อนกลิ่นก็ทำมาวันนี้เป็นวันโดนยำของซ่อนกลิ่น เจี๊ยบเลยแซวกลับว่าหน้าเหนื่อยป่วยขนาดนี้เพื่อนยังมีอารมณ์ตลกนะ หลังถ่ายซีนนี้เสร็จ จักจั่นต้องลงไปลุยคลานกับพื้นหนีไปจมบ่อโคลนต่อ  

ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของฉากที่ค่อนข้างโหดเพราะซ่อนกลิ่นต้องโดนผีทั้งห้าตนเดินไล่ตามบีบคอจมโคลนตาย ฝนจริงก็ตกและยังมีฝนเทียมเพิ่มหนักเข้ามาอีก ต้องถ่ายทำกันหลายเทคเพราะเปลี่ยนขนาดภาพ และมุมกล้อง และถ่ายเจาะ พอมีช่วงพักทีมงานจะวิ่งเอาร่มเอาผ้าขนหนูพร้อมขวดน้ำอุ่นไว้กอดเพิ่มความอุ่นไปให้จั๊กจั่นและนักแสดงทุกคนระหว่างรอ  

ถ่ายทำกันไปจนเกือบซีนสุดท้าย จั๊กจั่นเริ่มหนาวสั่นไข้ขึ้นบวกกับต้องนอนแช่น้ำนานเกือบสามชั่วโมงร่างกายมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ จนร่างกายเกิดภาวไฮโปเธอเมียร์ (hypothermia) หนาวสั่น หายใจเร็ว กล้ามเนื้อเกร็ง จนเกิดเลยเกิดภาวะช๊อควูบหมดสติไปในบ่อโคลนต่อหน้าเพื่อนๆนักแสดงและทีมงาน “หรัณย์” ที่รับบท ก้าน รีบคว้าตัวจั๊กจั่นอุ้มขึ้นจากน้ำพามาปฐมพยาบาลเบื้องต้นกันที่ใต้ศาลาที่กองถ่ายปักหลักกันอยู่

ระหว่างปฐมพยาบาลจักจั่นเกิดอาการช๊อคเกร็งกัดปากจนผู้จัดการส่วนตัวรีบเอามือยัดใส่ปากกันกัดลิ้นและทีมงานเรีบเอาผ้าขนหนูมาเปลี่ยนให้กัดแทน และรีบนำส่งโรงพยาบาลเซ็นคาลอสอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้กองถ่ายที่สุดตอนนั้น กองถ่ายเลิกกองโดยปริยาย จั๊กจั่นอาการดีขึ้นในวันถัดมาและคุณหมอก็อนุญาตให้กลับมาพักที่บ้านได้ 

ส่วนฉากจบจะออกมาเป็นอย่างไรติดตามกันได้ในตอนอวสานละคร ลิขิตริษยา ในคืนวันพุธที่ 27 กรกฎาคม 59 เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี