Avatar ภาคใหม่อาจจะเป็นหนังสามมิติแบบไม่ต้องใส่แว่น!!

Avatar ภาคใหม่อาจจะเป็นหนังสามมิติแบบไม่ต้องใส่แว่น!!

Avatar ภาคใหม่อาจจะเป็นหนังสามมิติแบบไม่ต้องใส่แว่น!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าสตีเว่น สปีลเบิร์กจะได้รับฉายาพ่อมดแห่งฮอลลีวูด ทางผู้กำกับอย่างเจมส์ คาเมรอน ก็ควรจะได้รับตำแหน่งผู้กำกับแห่งนวัตกรรมใหม่ เพราะทุกครั้งที่เขากลับมาพร้อมภาพยนตร์เรื่องใหม่ๆ เขาก็จะใช้เทคโนโลยีใหม่ในหนังเรื่องนั้นจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าจดจำมากกว่าตัวหนังเองด้วยซ้ำไป 

อย่างที่เราทราบกันดีว่า Avatar เป็นภาพยนตร์ที่สามารถทำรายได้สูงสุดตลอดกาล เพราะนอกจากตัวหนังจะสนุกแล้ว มันยังใช้เทคโนโลยีใหม่ (ในช่วงเวลานั้น) คือการฉายแบบดิจิตอล 3D และแน่นอนว่าการกลับมาของ  Avatar 2 ผู้กำกับอย่างเจมส์ คาเมรอนก็จะไม่หยุดการทำอะไรซ้ำๆ เขาอยากจะพัฒนารูปแบบในการนำเสนอให้มีความน่าสนใจกว่าเดิม ด้วยการทำภาพให้กลายเป็นสามมิติโดยที่ผู้ชมไม่ต้องใส่แว่นสามมิติอีกต่อไป

การพัฒนาเทคโนโลยีเรื่องภาพหลังจาก Avatar ถ้าใครพอจะจดจำกันได้ก็คือตอนหนังเรื่อง The Hobbit เข้าฉาย ปีเตอร์ แจ็คสันเรื่องจะถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยรูปแบบ 3D HFR โดย HFR ย่อมาจาก High Frame Rate ซึ่ง Frame Rate เป็น 2 เท่า คือเป็น 48 เฟรมต่อวินาที เป็นผลทำให้ภาพที่คนดูเห็นจะคมชัดมากยิ่งขึ้น (แต่บางคนก็บอกว่าปวดตาเพราะตาของคนดูจะทำงานหนักขึ้นตามไปด้วย) ส่วนเทคโนโลยี HDR (High Dynamic Range) เทคนิคการสร้างภาพเพื่อให้ภาพมีรายละเอียดครบทุกส่วน ทั้งในส่วนมืดและส่วนสว่าง เพราะว่ากล้องไม่สามารถเก็บรายละเอียดทั้งส่วนมือและส่วนสว่างได้ครบเหมือนที่ตาของคนเรามองเห็นถูกนำมาใช้ในการแสดงภาพของจอโทรทัศน์ปัจจุบันนี้ ก็เป็นแนวคิดที่น่าในที่เจมส์ คาเมรอนมองว่าถ้ามันสามารถนำมาพัฒนาให้ฉายในโรงภาพยนตร์ได้ อาจจะทำให้ภาพมีมิติขึ้นนั่นเอง 

ไม่ว่า Avatar 2 ที่วางกำหนดฉายเอาไว้ที่ปี 2018 นั้นจะสามารถใช้นวัตกรรมดังกล่างทันหรือไม่ แต่อย่างน้อยเราจะมีภาคต่อของ Avatar ให้ดูยาวกันไปยันแต่งงาน มีลูกกันเลยทีเดียวเพราะหนังวางโปรแกรมฉายเอาไว้ถึงภาคที่ 5 ที่มีกำหนดฉายปี 2023 เลยทีเดียว 

@พริตตี้ปลาสลิด

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ Avatar ภาคใหม่อาจจะเป็นหนังสามมิติแบบไม่ต้องใส่แว่น!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook