วิจารณ์หนัง "พรจากฟ้า" หนังรักกลมกล่อม ครบรส มาตรฐาน GDH

วิจารณ์หนัง "พรจากฟ้า" หนังรักกลมกล่อม ครบรส มาตรฐาน GDH

วิจารณ์หนัง "พรจากฟ้า" หนังรักกลมกล่อม ครบรส มาตรฐาน GDH
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook


เป็นนิสัยของค่ายหนังค่ายนี้ก่อนเปลี่ยนชื่อก็ทำหนังปีละไม่กี่เรื่อง พอเปลี่ยนชื่อเป็น GDH แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว เป็นหนังเรื่องแรกที่อาจเรียกได้ว่าเจิมชื่อค่ายชื่อใหม่ สำหรับ “พรจากฟ้า” หนังไทยเรื่องที่สองจากค่ายที่ฮือฮาตั้งแต่แถลงข่าวให้รู้ว่าหนังไทยเรื่องนี้จะมีพระ-นางประกบคู่กันถึง 3 คู่ แถมแต่ละคู่บอกเลยว่าเป็นแม่เหล็กชั้นดีที่เชื่อว่าดูดคนดูได้อยู่หมัด


พรจากฟ้าปล่อยข่าวคร่าวๆ มาเพียงแค่เป็นหนังรัก 3 เรื่องที่มีความเชื่อมโยงกันและนำแสดงโดยนักแสดง 6 คนเต๋อ ฉันทวิชช์ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ หนูนา-หนึ่งธิดา มิว-นิษฐา วี-วิโอเลตและนาย-นภัทรพระเอกหน้าใหม่


พรจากฟ้าประกอบไปด้วยหนัง 3 เรื่อง เรื่องแรก “ยามเย็น” นำแสดงโดยนาย-นภัทร และวี-วิโอเลต หนังรักที่เกิดขึ้นภายในบรรยากาศงานเลี้ยงอำลา และมอบทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ ในเรื่องนาย นภัทรรับบทเป็นหนุ่มกรุ้มกริ่ม พยายามตื้อจีบวี-วิโอเลตเพราะทั้งสองได้มาใกล้ชิดกันภายใต้สถานการณ์บังคับ ในส่วนนี้รู้สึกชื่นชอบบทหนังที่ดูมีลูกล่อ ลูกชนระหว่างการประทะคารมของนักแสดงทั้งสอง สำหรับพระเอกมือใหม่อย่างนาย นภัทร นอกจากหล่อลากดินแล้วแม้การแสดงยังดูเขินๆ อยู่บ้าง แต่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์ ส่วนวีที่ผ่านมาเราเคยเห็นเธอในบทเจ๋ จากฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ เรื่องนั้นเธอดูเซอร์ ติสท์ แต่เรื่องนี้เธอดูหวานและเป็นผู้หญิงขึ้น แต่สิ่งที่ดีงามมากและทำให้หนังส่วนนี้กลมกล่อมที่สุดคือบทเพลง“ยามเย็น”


“Still on My Mind” หนังเรื่องที่สองนำแสดงโดยมิว-นิษฐา และซันนี่-สุวรรณเมธานนท์ ดูเหมือนบทฟาที่สาวมิวรับจะปูให้เธอได้เล่นบทดราม่าน้ำตาแตกอย่างที่เธอถนัด ส่วนหนุ่มฮาหน้านิ่งซันนี่มาในบทเอ-นักจูนเปียโนที่สนิทสนมกับครอบครัวนางเอกตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ เรื่องนี้ออกจะเน้นเล่าความสัมพันธ์ในลักษณะของครอบครัว ความรักของคุณพ่อ คุณแม่ฟาในเรื่องเสียมากกว่าเน้นมาที่ความรักแบบหนุ่ม-สาวของฟาและเอ อีกคนหนึ่งที่ขอชื่นชมในการแสดงคือคุณพ่อของฟาในเรื่องที่ต้องรับบทผู้ป่วยอัลไซเมอร์ จะบอกว่าแย่งซีนตัวเอกของเรื่องที่ยังคงทำได้ดีในบทแบบเดิมๆ ที่ตนเองถนัด ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีความน่าตื่นเต้นเกินมาตรฐานการแสดงของตัวเองเท่าไร


เรื่องสุดท้าย “พรปีใหม่” เล่าเรื่องหลงหรือเต๋อ ร็อคเกอร์หนุ่มที่ตัดสินใจลาออกจากวงดนตรีที่ตัวเองเล่นมาเป็น 10 ปี แต่ไม่ดังมาเป็นพนักงานวิเคราะห์การเงิน เมื่อหนูนาหรือคิมในเรื่องรู้ว่าหลงเป็นอดีตนักดนตรีจึงตั้งใจชวนหลงมาเป็นหัวหน้าวงดนตรีของออฟฟิศ แม้การเล่นดนตรีในช่วงแรกจะถูกขัดขวางโดยผู้บริหาร แต่เพราะทุกคนตั้งใจและรู้สึกมีความสุขในการเล่นดนตรี จึงพยายามหาเวลาหลังเลิกงานมาเล่น ซ้อมดนตรีกันลับๆ และเมื่อใกล้เทศกาลปีใหม่ ทุกคนในวงดนตรีจึงตั้งใจเล่นเพลง “พรปีใหม่” ไว้สำหรับเป็นของขวัญให้กับเพื่อนร่วมงานเพื่อให้ทุกคนมีความสุข ทั้งเต๋อและหนูนาเป็นนักแสดงที่เคมีเข้ากันดีอยู่แล้ว ถ้าจำได้กวนมึนโฮคือหนังเรื่องแรกที่ทั้งสองได้มีโอกาสร่วมงานกัน จนทำให้หนังประสบความสำเร็จทะลุ 100 ล้าน และนี่คือการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งหลังจากห่างหายกันไปนานถึง 6 ปี ในเรื่องการแสดงทั้งคู่จึงดูเข้ากันดีทั้งจังหวะและอารมณ์ เมื่อรวมเข้ากับการแสดงของนักแสดงประกอบที่นับแล้วเรื่องนี้น่าจะใช้นักแสดงประกอบเยอะสุดยิ่งทำให้หนังอร่อยมีรสชาติ


หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต ทำให้ความเคลื่อนไหวในแวดวงบันเทิงเงียบหายไป รวมถึงกระแสของภาพยนตร์เรื่องนี้ และเมื่อกลับมาโปรโมทอีกครั้ง “พรจากฟ้า” จึงคล้ายเป็นหนังรักเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จะด้วยช่วงเวลา การนำบทเพลงพระราชนิพนธ์มาใช้เป็นเส้นเรื่อง หรือเจตนาของผู้จัดทำก็ตาม


เมื่อชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบแล้วเชื่อว่าผู้ชมจะได้ความรู้สึกที่หลากหลายมาก แต่ล้วนแล้วเป็นความอิ่ม ปริ่มเปรมในใจ ทั้งความรัก ความหวัง ความเศร้า บางคนบอกว่าได้หัวเราะไปทั้งน้ำตาก็จากภาพยนตร์เรื่องนี้


ความน่าดู
4/5

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง "พรจากฟ้า" หนังรักกลมกล่อม ครบรส มาตรฐาน GDH

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook