9 เหตุผลที่คุณต้องไม่พลาด LA LA LAND

9 เหตุผลที่คุณต้องไม่พลาด LA LA LAND

9 เหตุผลที่คุณต้องไม่พลาด LA LA LAND
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นี่คือหนัง “กระแสแรง” ที่สุดในเวลานี้ หลังจากกวาดรางวัลมาอย่างไม่หยุดหย่อน และพล็อตหนังโรแมนติกที่น่าจะเข้าถึง “คนดูหนัง” ชาวไทยในเวลานี้ เรามาดู 9 เหตุผลกันดีกว่าว่า ทำไมคุณถึงไม่ควรพลาดหนังอย่าง LA LA LAND ว่าที่หนังที่ “อาจจะ” คว้ารางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ “ยอดเยี่ยม” ในปี 2017 มาครอบครอง 

1.นี่คือหนังเพลงที่ดีที่สุดในรอบ 15 ปี

เป็นเวลาเกือบ 15 ปีหลังจากที่หนังเพลงอย่าง Chicago คว้ารางวัล Best Picture หรือภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์มาครอบครอง แต่หลังจากการมาถึงของ LA LA LAND ในปีนี้ เราค่อนข้างมั่นใจว่านี่จะเป็นหนังเพลงอีกเรื่องในรอบทศวรรษที่จะทะยานขึ้นไปคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ปี 2017 (แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลก็ตาม) เมื่อพิจารณาจากกระแสของผู้ชมและนักวิจารณ์แล้ว LA LA LAND คือหนังประเภทที่ผู้ชมถึงไม่ชอบก็จะไม่มีทางเกลียดอย่างแน่นอน

 

2.มีฉากหลังสุดเก๋อย่างเมือง L.A. ดูแล้วอยากบินไปเที่ยว

หนังไปถ่ายทำในโลเคชั่นอย่างโรงหนังริอัลโต้ โรงหนังเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์วัฒนธรรมป๊อป, ไลท์เฮาส์ คาเฟ่ คลับแจ๊สขนานแท้อายุกว่า 6 ทศวรรษ ริมชายหาดเรคอนโด, หอดูดาวกริฟฟิธ พาร์ค หอดูดาวที่เป็นตำนานของแอล.เอ. มีโดมใหญ่ที่ภายในจำลองภาพดวงดาวเต็มท้องฟ้า


3.พล็อตหนังสำหรับคนมีฝัน

เรื่องราวของ LA LA LAND โฟกัสไปที่หนุ่มสาวสองคู่รัก เซบาสเตียน หนุ่มนักเปียโนแจ๊ส และมีอา นักแสดงสาวอนาคตไกล ทั้งคู่พบกันครั้งกลางถนนที่มีการจราจรสุดติดขัดเป็นภาพสะท้อนความยากลำบากที่ทั้งสองต้องเผชิญในเมืองนี้ ทั้งคู่มีความหวังลมๆ แล้งๆ กันคนละด้าน เซบาสเตียน พยายามให้คนยุคนี้หันมาสนใจดนตรีแจ๊ส ส่วน มีอา หวังให้การออดิชั่นของเธอออกมาราบรื่นซักครั้ง แต่ทั้งสองไม่รู้เลยว่าการพบกันครั้งนี้นำพวกเขาสู่การเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ ที่ไม่อาจทำได้ตามลำพัง การเดิมพันที่ทั้งสองเลือก ขัดแย้งกับความฝันที่จะเป็นศิลปินมีชื่อเสียงของพวกเขา ก่อให้เกิดโลกในภาพยนตร์อันเป็นเอกลัษณ์ ประกอบไปด้วย แสง สี เสียง ดนตรี และ ถ้อยคำ



4.นี่เป็นหนังรักโรแมนติก ที่ครบทุกรสชาติ

ถึงนี่จะเป็นหนังเพลง แต่มันคือหนังโรแมนติกที่โฟกัสไปที่เรื่องความรักของหนุ่มสาว ทำให้เห็นว่าความรักกับเส้นทางชีวิตนั้นบางครั้งมันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ อุปสรรคที่ตัวละครได้พบเจอ มันเป็นดั่งกระจกสะท้อนภาพชีวิตและมันยังทำให้ผู้ชมสามารถสัมผัสได้ถึงความยากลำบาก และกว่าคนสองคนจะ “รัก” กันได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย


5.นี่คือจดหมายรักของผู้กำกับกับวงการหนังเพลง

เดเมียน ชาเซลล์ (ผู้กำกับ, นักเขียนบท) เป็นที่รู้จักจากการเขียนและกำกับภาพยนตร์ระดับออสการ์ Whiplash ที่ออกฉายเมื่อปี 2014 โดย โซนี่ พิคเจอร์ส Whiplash ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 5 สาขา ร่วมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม คว้ามาถึง 3 รางวัล หนึ่งในนั้นคือ เจ.เค. ซิมมอนส์คว้างรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม

LA LA LAND เดเมี่ยนอยากเล่าเรื่องความรัก และอยากทำให้มันเป็นหนังเพลง แบบที่เขาชอบดูเมื่อครั้งยังเด็ก แต่อัพเดทมันให้ทันสมัย มีการลองใช้ สี ฉาก เสื้อผ้า และองค์ประกอบอื่นๆที่เป็นการถ่ายทอดอารมณ์ของหนังยุคเก่า มาใช้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน


ชาเซลล์ ง่วนอยู่กับไอเดียที่ต้องการผสมส่วนที่เขาชอบจากหนังมิวสิคัลจากยุค 40s 50s 60s เพลงประกอบสุดไพเราะ สีสันสดใสจับตา ความสนุกขับเคลื่อนอารมณ์ เข้ากับเมืองที่เขารักที่สุด ลอสแองเจลิส ที่กลายมาเป็นตัวละครสุดโรแมนติดไม่ต่างกับสองคู่พระนาง ลอสแองเจลิส เป็นหลายอย่างในเรื่องนี้ ทั้งฉากหลังอันงดงาม แดนสวรรค์อันสดใส แต่ก็เป็นเมืองที่จะทำให้คุณฝันสลายเช่นเดียวกัน มันคือเมืองแห่งความทะเยอทะยาน แต่ชาเซลล์ให้เกียรติเมืองนี้ราวกับเทพธิดา สมชื่อเมืองแห่งนางฟ้า เขาเปรียบมันเหมือนผ้าใบขาว พร้อมให้ละเลงภาพเคลื่อนไหวลงไป

การทำหนังมิวสิคัลนั่นไม่ใช่เรื่องงายเลยในปัจจุบัน แพล็ตต์ ระบายความในใจ “มันมีส่วนประกอบมากกว่าหนังดราม่าปกติเยอะ” เดเมี่ยนอธิบาย “อย่างแรกคุณต้องมีดนตรี ทำนอง เนื้อเพลง การบรรเลง การเรียบเรียง จากนั้นคุณต้องมีนักแสดงที่ต้องหัดร้อง หัดเต้น และงานด้านภาพ ของประกอบฉาก การออกแบบฉาก เสื้อผ้า กล้อง จัดแสง ส่วนประกอบทั้งหมดนั้นสร้างโลก ที่แม้อาจจะไม่ใช่โลกจริง แต่ก็เป็นโลกที่ทุกคนสัมผัสได้ คำถามก็คือ เราจะทำให้ส่วนประกอบเหล่านี้มีเอกภาพ ให้ไปในทางเดียวกันขณะที่ให้ความรู้สึกทันสมัยไปด้วยได้ไหม?”


6.ไรอัน กอสลิ่งกับการแสดงในทุกมุม

ไรอัน กอสลิ่งรับบทนักเปียโนแจ๊ส เซบาสเตียน เกือบจะพลาดรักแท้ของเขาไปแล้ว นักดนตรีแจ๊สตัวจริงที่ไม่ยอมแลกความฝันเขากับใครหรือสิ่งใด เมื่อพบกับมีอาครั้งแรก เขาทำกับเธอเหมือนทุกคนที่จะไม่มีวันเข้าใจ ความสำคัญของฝันเขา แต่มันกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด

ไรอันจัดเป็นนักแสดงมากความสามารถ เขาเล่นบทอะไรก็ได้ ดราม่า คอมมีดี้ บทโหด บทหวาน เจ้าเสน่ห์ ร้องเพลง เล่นเปียโน เต้น ตัวละครนี้ไม่ได้หัวดื้อเพราะว่าเป็นคนอีโก้สูงหรืออะไรแบบนั้น แต่เป็นการสื่อสัตย์ต่อความฝันของตัวเอง ซึ่งนั่นขับเคลื่อนให้ตัวละครสวยงาม เพื่อให้เข้าถึงตัวละครที่เป็นนักเปียโนแจ๊สทั้งร่างกายและจิตใจ มีการวางการซ้อมเพื่อ กอสลิ่ง โดยเฉพาะ เขาใช้เวลาเป็นเดือนๆ เรียนเปียโนแจ๊ส ยังไม่นับเรียนเต้นอีก



7.เอ็มม่า สโตนกับบทที่เฉิดฉายที่สุดในชีวิต

เอ็มม่า สโตน รับบทมีอา นักแสดงสาวไฟแรงดูเหมือนจะติดอยู่ในวังวนของงานบาริสต้าไปสู่การออดิชั่นที่ไร้หนทาง จนในที่สุดเธอบังเอิญเจอนักเปียโนหนุ่มสันดานเสียในรถเปิดประทุน ที่จะเปลี่ยนโลกของเธอไปตลอดกาล

เอ็มม่า สโตน ทำให้ตัวละครนี้ดูเป็นหญิงสาวทั่วไปที่ทุกคนเข้าถึงได้ อาศัยอยู่ในโลกปัจจุบัน ดูติดดิน แต่การแสดงของเธอในเรื่องนี้ทำให้คำนั้นมีความหมาย เธอมอบคุณภาพอย่างดาราแถวหน้าแต่ยังคงให้ความรู้สึกจริงแบบคนธรรมดาสามัญ มันง่ายมากที่คุณจะตกหลุมรักเธอ เพราะได้เห็นอารมณ์ที่อยู่ข้างในเธอ และได้ติดตามสิ่งที่ มีอา ต้องฟันฝ่า นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด



8.เมื่อบทเพลงคืออีกหัวใจหลักของ LA LA LAND

หัวใจของ LA LA LAND คือเพลงที่แต่งมาสำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะ ที่ใช้เล่าตลอดเรื่องไม่ต่างกับบทบรรยายหรือบทสนทนา เพื่อที่จะหาเนื้อเพลงมาใส่ให้สอดคล้องกับดนตรีของ เฮอร์วิทซ์ ชาเซลล์ และ เฮอร์วิทซ์ ร่วมงานกับนักแต่งเพลงให้ละครเวทีอย่าง เบนจิ พาเซ็ค และ จัสติน พอล ที่เคยฝากผลงานไว้ในเรื่อง Dear Evan Hansen, A Christmas Story, Dogfight, James and the Giant Peach และ Edge นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของทั้งสอง

เพลงที่ทั้งสองแต่งต้องออกมาสอดรับกับเขตแดนที่กั้นระหว่างความเป็นจริงและโรแมนติคแฟนตาซี ตัวบทเพลงนั้นต้องบอกเล่าความปากกัดตีนถีบในแอลเอ แต่ก็ต้องแสดงความสุขของคนสองคนที่ในที่สุดก็มีโอกาสใช้ชีวิตดั่งใจฝัน อีกทั้งต้องเล่าคาแรกเตอร์ของตัวละคร และเพลงเด่นของหนังเรื่องนี้อย่าง“Audition” และ “City of Stars” นักแสดงต้องร้องสดในฉาก เพื่อที่สื่ออารมณ์ให้สมจริงออกมาด้วย



9.หนังเดินหน้ากวาดรางวัลมาอย่างท้วมท้น

นอกจากจะคว้ารางวัลทั้ง 7 สาขาที่เข้าชิงบนเวทีลูกโลกทองคำซึ่งเป็นการสร้างสถิติใหม่ของประวัติศาสตร์การแจกรางวัลบนเวทีดังกล่าว อันประกอบไปด้วยสาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทตลก / เพลง, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภทตลก / เพลง (เอมม่า สโตน), นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประเภทตลก / เพลง (ไรอัน กอสลิ่ง), ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (เดเมี่ยน ชาเซลล์), บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (เดเมี่ยน ชาเซลล์), ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (จัสติน เฮอร์วิตซ์) และ เพลงประกอบยอดเยี่ยม (“City of Stars”)

หนังยังเข้าชิงรางวัลรางวัลบาฟต้า (BAFTA Awards) ประจำปี 2017 อันเรียกได้ว่าเป็นเป็นรางวัลภาพยนตร์ใหญ่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์บนเกาะอังกฤษ 11 รางวัล อันนับได้ว่าเป็นจำนวนการเข้าชิงรางวัลสูงสุดนำหน้าภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ได้แก่ สาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (เอมม่า สโตน), นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (ไรอัน กอสลิ่ง), ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (เดเมี่ยน ชาเซลล์), กำกับภาพยอดเยี่ยม (ไลนัส แซนด์เกรน), บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (เดเมี่ยน ชาเซลล์), ลำดับภาพยอดเยี่ยม (ทอม ครอส), ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม (เดวิด วาสโก้ และ แซนดี้ เรย์โนลด์ วาสโก้), ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (จัสติน เฮอร์วิทซ์), ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (แมรี่ ซอเฟรส), และ บันทึกเสียงยอดเยี่ยม


อ่านรีวิว LA LA LAND ได้ที่นี่ : http://movie.sanook.com/64989/


@พริตตี้ปลาสลิด

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ 9 เหตุผลที่คุณต้องไม่พลาด LA LA LAND

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook