วิจารณ์หนัง POWER RENGERS เป็นวัยรุ่นมันยาก

 

เช่นเดียวกันกับที่ POWER RENGERS ในเวอร์ชั่นปี 2017 เลือกจะนำเสนอความวุ่นวายของช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ต้องรับกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งจะเรื่องภายในโรงเรียน เรื่องภายในครอบครัว สภาพจิตใจ และคงยิ่งยากเย็นยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาต้องรับมือกับพลังพิเศษและภัยคุกคามจากนอกโลก 

ขบวนการห้าสี ในเวอร์ชั่นปัดฝุ่นใหม่ครั้งนี้จึงเป็นมากกว่าการที่เด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ได้รับพลังพิเศษให้ไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดด้วยการแปลงร่าง แต่หนังยังถ่ายทอดแนวคิดของเด็กยุคปัจจุบันที่อารมณ์ร้อน วู่วาม และเป็นตัวของตัวเองโดยไม่สนใจใครอีกด้วย

เจสัน (เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี่) เป็นคนมุทะลุ ทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง จนทำให้ผลการกระทำของเขากระทบกับอนาคตที่กำลังจะไปได้สวยต้องยุติลงกลางคัน การที่เขาต้องเข้าไปในโรงเรียนดัดสันดานทุกวัน ทำให้เขาได้เจอกับเพื่อนอย่างคิมเบอร์ลี (นาโอมิ สก็อตต์) และ บิลลี่ (อาร์เจ ไคเลอร์) โชคชะตาทำให้พวกเขาได้พบกับทรินี่ (เบคกี้ จี) และแซค (ลูดี้ หลิน) ก่อนที่ทั้งห้าจะได้พบกับเหรียญพลังประหลาดที่แยกออกเป็น 5 สีและส่งผลให้พวกเขามีพละกำลังที่มากกว่ามนุษย์ปกติ

หลังจากที่ทั้งห้าได้พบกับยานอวกาศที่ซุกซ่อนอยู่ในหุบเขาและซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ การสำรวจในครั้งนี้ทำให้ทั้ง 5 ได้พบกับซอร์ดอน เอเลี่ยนที่สูญเสียร่างกายเหลือแต่จิตใจและสติปัญญาที่ถูกผนึกไว้ในกำแพงของยาน และหุ่นยนตร์อัลฟ่า 5 ผู้โดดเดี่ยว ทั้งสองได้มอบหมายภารกิจในการปกป้องโลกจากริต้า รีพัลซ่า (อลิซาเบธ แบงส์) ผู้ชั่วร้าย

POWER RENGERS ในเวอร์ชั่นล่าสุด ดำเนินเรื่องตามพล็อตดั้งเดิมของขบวนการ 5 สี เพียงแต่หนังเลือกจะให้เวลาผู้ชมทำความรู้จักกับเรนเจอร์ทั้ง 5 กินเวลานานพอสมควร ดังนั้นกว่าที่เราจะได้เห็นพวกเขาแปลงร่าง ออกไปต่อสู้ฟาดฟันกับเหล่าร้าย รวมถึงนำหุ่นรบประจัญบานออกมาเผยโฉม ก็ปาเข้าไปเกือบจะ 20 นาทีสุดท้ายขอเรื่องแล้ว แถมฉากการต่อสู้ฟาดฟันระหว่างเรนเจอร์กับริต้านั้นก็ดูไม่ดุเดือด สักเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายคนดูก็คงจะพอคาดเดาได้ว่าฝ่ายที่กุมชัยชนะนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรนเจอร์ทั้ง 5 อยู่ดี

ยังดีที่ตัวหนัง POWER RENGERS เวอร์ชั่นนี้สามารถดำเนินเรื่องราวได้แบบดูเพลินๆ สเปเชีบลเอฟเฟคตื่นตาตื่นใจ เป็นหนังที่เหมาะสำหรับเด็กที่ติดตามขบวนการ 5 สี หรือผู้ใหญ่ที่เติบโตมาพร้อมๆกับเรื่องราวแบบนี้ให้เรามีโอกาสได้ไปรำลึกความหลังในวัยเด็ก และถ้าเป็นไปได้ เราก็คาดหวังที่อยากจะดูภาคต่อของหนังเรื่องนี้เช่นกัน

3 คะแนนจาก 5 คะแนน

@PRETTYPLASALID