10 เรื่องน่ารู้ก่อนดูหนังโลกแตก ใน Geostorm

10 เรื่องน่ารู้ก่อนดูหนังโลกแตก ใน Geostorm

10 เรื่องน่ารู้ก่อนดูหนังโลกแตก ใน Geostorm
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ในแต่ละปีฮอลลีวูดมักจะผลิตหนังแนว “โลกาวินาศ” ขึ้นบนจอหนังอยู่เป็นเนืองนิตย์ เพราะหนังในกลุ่มนี้มักจะประสบความสำเร็จบนตารางบ๊อกซ์ออฟฟิศอยู่เสมอๆ ทั้งที่พล็อตเรื่องก็จัดได้ว่าซ้ำซากและไม่ได้มีอะไรใหม่ แต่ด้วยเทคนิคพิเศษในงานสร้างมักจะสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจโดยเฉพาะบรรดาฉากภัยพิบัติที่มักทำให้คนดูอ้าปากค้างอยู่เสมอ และในปีนี้เราจะได้พบกับ Geostorm หนังโลกแตกเรื่องล่าสุด

 

1.เมื่อมนุษย์เปลี่ยนแปลงธรรมชาติ

เป็นอีกครั้งที่มนุษย์พยายามเปลี่ยนแปลงธรรมชาติและทำตัวเป็นพระเจ้า ในการควบคุมเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บรรดาผู้นำโลกจึงรวมตัวกันสร้างเครือข่ายดาวเทียมอันซับซ้อนเพื่อควบคุมสภาพอากาศโลกและช่วยให้ทุกคนปลอดภัย แต่แล้ววันหนึ่งระบบควบคุมสภาพอากาศเกิดความผิดปกติขึ้นและโจมตีโลกมนุษย์ บรรดาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดภัยพิบัตินี้ก่อนมนุษย์จะตายกันหมดโลก

 

 

2.บางสิ่งบางอย่างไม่ควรถูกมนุษย์ควบคุม

ในหนังเรื่องนี้ ผู้เขียนบท/ผู้อำนวยการสร้าง/ผู้กำกับ ดีน เดฟลิน ได้จินตนาการถึงโลกที่ความร่วมมือทางการเมืองระดับโลกและเครือข่ายดาวเทียมขนาดใหญ่ที่ช่วยควบคุมสภาพอากาศและถูกติดตั้งไว้ในอวกาศนั้นได้ทำให้ภัยพิบัติทางธรรมชาติกลายเป็นเพียงอดีต จนกระทั่งบางสิ่ง หรือบางคน สร้างความผิดพลาดขึ้น ซึ่งช่วยยืนยันว่าบางสิ่งก็ไม่ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์

 

 

3.ดาวเทียมเจ้าปัญหา

จุดเริ่มต้นและตัวปัญหาของหนังเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นจากดาวเทียมดัตช์บอย ซึ่งมันเป็นดาวเทียมที่มีความซับซ้อนและทำงานเชื่อมโยงกับดาวเทียมดวงอื่นๆในการควบคุมสภาพอากาศโลก ความผิดพลาดของระบบก่อให้เกิดสภาพอากาศที่อันตรายอย่างที่มนุษยชาติไม่เคยพบเห็นมาก่อน แทนที่จะช่วยป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งและหิมะในทะเลทรายของอัฟกานิสถาน ควันไฟคุกรุ่นใต้ถนนหนทางในฮ่องกง หรือพายุไซโคลนในอินเดีย เป็นตัน

 

 

4.เจอราร์ด บัตเลอร์กับบทวิศวกรแหกคอก

เป็นอีกครั้งที่เจอราร์ด บัตเลอร์จะต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ระดับชาติ (หลังจากก่อนหน้านี้เขาต้องคอยช่วยเหลือประธานาธิบดีอเมริกาใน Olympus Has Fallen มาแล้ว) ในครั้งนี้เขารับบทเป็นเจค ลอว์สัน วิศวกรผู้ถูกปลดและผู้สร้างดัตช์บอยที่ไม่อยากเล่นเกมการเมืองเพื่ออยู่ต่อไปเมื่อระบบทำงานเรียบร้อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างตัวละครเจคกับน้องชาย

 

 

5.จิม สเตอร์เจสกับบทบาทเจ้านายพี่ชายตัวเอง

จิม สเตอร์เจส รับบทเป็น แม็กซ์ ลอว์สัน น้องชายของเจค และเรื่องราวก็กลับตาลปัตรตรงที่เขากลายเป็นเจ้านายของเจคด้วย แม็กซ์เป็นทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวซึ่งต้องมาคอยคุมพี่ชายหัวรั้น โดยทั้งสองพี่น้องที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วต้องมาร่วมมือกันแก้ปัญหาไม่เช่นนั้นโลกอาจจะเดินทางสู่จุดจบ

 

 

6.ความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดของสองพี่น้อง

ความไม่ลงรอยกันระหว่างสองพี่น้องอย่างแม็กซ์และเจคนั้น เมื่อการทำงานทำให้ทั้งสองกลับมาพบกับสมาชิกในครอบครัวซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้อยากจะเจอหน้ากันสักเท่าไหร่ ความขัดแย้งระหว่างพี่น้องนั้นมีที่มาจากเรื่องเก่าเก็บ การแข่งขันกัน ความอิจฉา ความเกลียดชังกัน ซึ่งล้วนแต่ทำให้การทำงานร่วมกันกลายเป็นปัญหาสำหรับแม็กซ์ซึ่งกำลังพิสูจน์ตนเองในเรื่องหน้าที่การงาน เขาต้องการได้รับความร่วมมือจากเจคเพื่อจะได้ดูดีในสายตาของผู้บังคับบัญชา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือประธานาธิบดีสหรัฐ โดยพี่น้องคู่นี้มีคุณสมบัติคล้ายกันหลายอย่างแต่ต่างคนต่างไม่รู้ แม็กซ์มองว่าตัวเองเป็นคนใช้สมองขณะที่เจคออกจะเป็นคนใช้แรงงาน แต่ทั้งคู่ต่างก็มีคุณสมบัติของอีกฝ่ายอยู่ในตัวเองซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดเมื่อเราเห็นคุณสมบัติที่เราไม่ชอบในตัวเองไปปรากฏในตัวอีกฝ่ายหนึ่ง

 

 

7.นักแสดงหลากหลายสัญชาติ

เนื่องจากหนังเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่อง สภาวะโลกร้อน ผู้กำกับจึงต้องการบรรดานักแสดงจากหลายประเทศทั่วโลกเข้าร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็น เจอราร์ด บัตเลอร์ซึ่งเป็นชาวสก็อตแลนด์, จิม สเตอร์เจสจากอังกฤษ, แอบบี คอร์นิชจากออสเตรเลีย, ยูจีนิโอ เดร์เบซ จากเม็กซิโก, อเล็กซานดรา มาเรีย ลาราจากโรมาเนีย, ซาซี บีตซ์จากเยอรมนี, แอดเดอเพโร โอดูเยจากไนจีเรีย, แอมเมอร์ เวคท์จากอียิปต์, โรเบิร์ต ชีแฮนจากไอร์แลนด์, แอนดี การ์เซียจากคิวบา และเอ็ด แฮร์ริส, ทาลิธา เบตแมน และแดเนียล วูจากสหรัฐ โดยคนท้ายสุดนี้เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีนเซี่ยงไฮ้รุ่นแรก

 

 

8.หนังฝรั่งที่ต้องมีนักแสดงจากฝั่งเอเชีย

เหมือนจะกลายเป็นสูตรบังคับไปแล้วว่าปัจจุบันหนังฟอร์มยักษ์จะต้องใส่นักแสดงเอเชียเข้าไปในหนัง (ส่วนมากจะต้องเป็นเชื้อสายจีน) เพื่อดึงดูดผู้ชมจากฝั่งเอเชีย โดยในหนังเรื่องนี้แดเนียล วูจะรับบทเป็น เชง ลอง ผู้ช่วยเดคคอมและแม็กซ์จัดการสิ่งต่างๆ บนพื้นโลก เป็นผู้เชี่ยวชาญระบบดัตช์บอยในฮ่องกง คนแรกที่ค้นพบว่าความล้มเหลวของเครือข่ายอาจไม่ได้เกิดจากความผิดพลาด เขาจึงพยายามนำข้อมูลที่เขาพบมาเตือนแม็กซ์ 

 

 

9.จากสตูดิโอสู่แบบจำลองพื้นโลก

Geostrom ถ่ายทำในรัฐนิวออร์ลีนและบรรดาฉากฉากสถานีอวกาศทั้งหมดในหนัง ตั้งอยู่ในโรงถ่ายห้าโรงต่อกันที่สตูดิโอบิ๊กอีซีในนิวออร์ลีนส์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของโรงงานผลิตของ NASA ทางฝั่งตะวันออกของเมือง โดยมีชื่อว่าโรงงานประกอบชิ้นส่วนมิชูด์ ซึ่งถูกใช้เป็นฉากแทนวอชิงตันดีซี โตเกียว มอสโคว์ ดูไบ ออร์แลนโด ฟลอริดา ริโอเดอจาเนโร และมุมไบ

 

 

10.หนังโลกแตกในแบบที่คนดูไม่เคยเห็น

สำหรับฉากโลกแตกใน Geostrom แนวคิดคือการสร้างเหตุการณ์ประเภทที่แฟนหนังภัยพิบัติคาดว่าจะได้เห็น แต่อยู่ในสเกลที่ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีใครเห็นบนจอหนังมาก่อน ผู้ชมน่าจะเคยเห็นหนังที่มีฟ้าแลบแปลบปลาบหรืออะไรพวกนั้นมาแล้ว แต่ผู้กำกับหวังว่าจะไม่มีใครเคยเห็นฉากไล่ล่าอย่างในหนังเรื่องนี้ เวลาที่ฟ้าผ่าลงมามากพอๆ กับสายฝน หรือดาวเทียมที่ทำงานผิดปกติสร้างทอร์นาโดขึ้นมากว่า 50 ลูกในที่แห่งเดียว เราหันไปหาความไม่เป็นธรรมชาติในภัยพิบัติทางธรรมชาติเหล่านี้ ด้วยความรุนแรงอย่างที่ผู้ชมไม่เคยเห็นมาก่อน

 

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ 10 เรื่องน่ารู้ก่อนดูหนังโลกแตก ใน Geostorm

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook