รีวิว STRONGER ล้มแล้ว “ลุก” ได้ด้วยตัวเอง

รีวิว STRONGER ล้มแล้ว “ลุก” ได้ด้วยตัวเอง

รีวิว STRONGER ล้มแล้ว “ลุก” ได้ด้วยตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

หนังอย่าง STRONGER คือหนังในกลุ่มอย่าหมดหวังในวันที่คุณไม่เหมือนเดิม เป็นหนังที่ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านเลยไปแค่ไหน เมื่อหยิบหนังในกลุ่มนี้มาดูก็จะสามารถเป็นกำลังใจที่ดีในการบอกให้ชีวิตของเราก้าวเดินต่อไป ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรเข้ามาในชีวิตก็ตาม เราก็จะฝ่าฟันและหาทางออกให้กับชีวิตได้นั่นเอง

 

ถึงแม้ว่าเค้าโครงเรื่องนั้นจะหยิบมาจากชีวิตจริงของเจฟฟ์ เบาว์แมน ชายหนุ่มผู้สูญเสียขาทั้งสองข้างไปในเหตุการณ์วางระเบิดวิ่งมาราธอนบอสตันในวันที่ 15 เมษายน 2013 จากชายหนุ่มที่เหมือนสูญเสียทุกอย่างไป เขากลายเป็นคนที่อเมริกาจับจ้อง และเมื่อถึงจุดหนึ่งเขากลายเป็นคนเสียศูนย์ไม่กล้าจะเริ่มต้นใหม่ จนท้ายที่สุดเขาสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้งและกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหมู่มากในสังคม

 

 

ในหนังเราจะได้เห็นตั้งแต่วินาทีที่เจฟฟ์ (รับบทโดยเจค จิลเลนฮาล) ยังสามารถเดินได้ด้วยขาทั้งสองข้าง จนกระทั่งเหตุการณ์ระเบิด การพักฟื้นตัว แต่นอกจากเรื่องราวของเจฟฟ์แล้ว เราจะได้เห็นชีวิต “คนรอบตัว” ของเจฟฟ์ที่มีอิทธิพลอย่างมากในการดำเนินชีวิตของเขาหนึ่งในนั้นคือ อีริน เฮอร์ลีย์ (ทาเทียน่า มาสลานี) แฟนสาวที่เป็นปัจจัยสำคัญที่เจฟฟ์ไปยืนคอยเธอที่เส้นชัยในวันแข่งขันบอสตันมาราธอน

ภายหลังจากเหตุการณ์ระเบิดอีริน คือคนที่อยู่เคียงข้างเจฟฟ์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาในการฟื้นฟู การเติมเต็มพลังใจ เธอคือคนข้างๆที่คอยซับพอร์ทเขาไม่ว่าในห้วงเวลาของความเจ็บปวดหรือความสุข เธอก็ไม่เดินจากไปไหนจนกระทั่งเหตุการณ์สำคัญในช่วงท้ายเรื่องของหนังที่อีรินตัดสินใจขั้นเด็ดขาดเพื่อทำให้เจฟฟ์ตระหนักถึงการมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยตัวเอง

 

 

อีกหนึ่งคนที่ส่งผลในการดำเนินชีวิตของเจฟฟ์เป็นอย่างมากก็คือแพตตี้ (มิแรนด้า ริชาร์ดสัน) ซึ่งในเวอร์ชั่นในหนังนั้นมีการแต่งเติมให้แตกต่างจากเรื่องจริงพอสมควร  เราจะเห็นได้ว่าแพตตี้เป็นแม่ประเภทที่ตามใจตัวเอง เธอกินเหล้าสูบบุหรี่ นอนหลังไม่สนใจอะไรแต่ลึกๆแล้วเธอเป็นแม่ที่ห่วงลูกและปกป้องเขาตลอดเวลา จนบางครั้งหลังจากเหตุการณ์ระเบิดผ่านพ้นไป เธอกลับสนใจแต่ความโด่งดังของลูกชายที่สาธารณชนพยายามเข้าหาเจฟฟ์ โดยที่หลงลืม “ความรู้สึก” ในตัวลูกชายว่า เขาอาจจะไม่ได้ต้องการชื่อเสียง เขาแค่อยากจะเป็นคนธรรมดาที่ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤติในชีวิตให้ได้ก็เท่านั้น

 

ตัวละครแพตตี้และอีรินจึงเหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดทั้งเรื่อง เราจะได้เห็นความรักของผู้หญิงสองคนในคนละมุมที่ส่งมาให้เจฟฟ์ แต่เมื่อหนังเดินทางมาถึงบทสรุป หนังได้ทำให้เราเห็นว่าไม่ว่ากำลังใจจากผู้คนจะส่งมามากมายแค่ไหน ถ้าหากเจ้าตัวไม่สามารถเข้มแข็งและยืนหยัดด้วยตัวเอง เขาก็จะไม่สามารถ “ลุก” ขึ้นมาใช้ชีวิตต่อไปได้อยู่ดี

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook