Bumblebee ทรานส์ฟอร์เมอร์ในมุมใหม่ที่คุณไม่เคยสัมผัส

Bumblebee ทรานส์ฟอร์เมอร์ในมุมใหม่ที่คุณไม่เคยสัมผัส

Bumblebee ทรานส์ฟอร์เมอร์ในมุมใหม่ที่คุณไม่เคยสัมผัส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากแฟรนชายส์หนังแอ็คชั่นหุ่นยนต์แปลงร่างเรื่องดัง สู่หนังครอบครัว บัดนี้ Transformers ได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงรูปแบบ เพื่อขยายฐานผู้ชมและนำพาหนังชุดนี้ไปสู่ทิศทางใหม่ๆที่น่าจับตามอง โดยโฟกัสไปที่ตัวละครบัมเบิ้ลบี กับหนังภาคใหม่ในชื่อว่า Bumblebee

ทำความรู้จักกับเจ้าหุ่นสีเหลืองบัมเบิ้ลบี

ในหนัง Bumblebee ภาคนี้ ผู้ชมจะได้ทำความรู้จักกับหุ่นยนต์บัมเบิ้ลบีแบบเจาะลึกเป็นครั้งแรก จากตำนานไซเบอร์ทรอน หุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์สีเหลืองสดใสที่รู้จักกันในชื่อ บี-127 เขาเป็นนักรบที่มีความดุดันในตัวเอง ระหว่างศึกการต่อสู้ระหว่างออโต้บอท และดีเซ็ปติคอนที่กินเวลายาวนานหลายร้อยปี เมื่อฝ่ายออโต้บอทเหมือนพ่ายแพ้ บี-127 ถูกส่งมายังโลกพร้อมภารกิจสำคัญ นั่นก็คือการปกป้องโลกและมนุษย์ ด้วยความหวังว่าจะใช้โลกเป็นที่ลี้ภัยสำหรับเพื่อนๆ ออโต้บอท

ภารกิจของบัมเบิ้ลบีไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อหุ่นดีเซ็ปติคอนสองตัวอย่างแช็ตเตอร์กับดร็อปคิก ติดตามแกะรอยสัญญาณของเขามายังโลกมนุษย์ ในระหว่างเดียวกันกองทัพทหารของอเมริกาก็เริ่มตั้งข้อสงสัยว่าเผ่าพันธุ์ต่างดาวกลุ่มนี้น่าจะเป็นภัยคุกคามแก่มวลมนุษยชาติ บัมเบิ้ลบีจึงพยายามหาทางหลบซ่อนตัวจากผู้ล่าโดยการปลอมตัวเป็นรถโฟล์คสวาเกน สีเหลืองในสภาพโทรมๆ จนกระทั่งเด็กสาววัยรุ่นอย่างชาร์ลี ได้มาพบกับรถคันนี้และตัดสินใจที่จะซ่อมรถให้สามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ทำให้เธอค้นพบว่าจริงๆแล้วรถคันนี้คือหุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์เมอร์!

นี่คือ Transformers ที่มีสเกลของหนังที่เล็กลง

สำหรับ Bumblebee โทนหนังของเรื่องจะเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวมากขึ้น โดยเน้นไปที่อารมณ์ร่วมของผู้ชมเป็นหลัก ซึ่งวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้ผู้ชมจะได้ทำความรู้จักกับหุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์ตัวหนึ่งในแบบที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

โครงสร้างของบทภาพยนตร์ Bumblebee เสร็จตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งโฟกัสไปที่เหตุการณ์รอบๆตัวของชาร์ลี ซึ่งรับบทโดยเฮลีย์ สไตน์เฟลด์และบัมเบิ้ลบี โดยตัวละครนี้ เป็นตัวละครหญิงที่ไม่สามารถเข้ากับใครได้เลย ทำให้เธอเป็นเหมือน “คนนอก” กล่าวคือ เธอไม่ได้เป็นแค่แบบใดแบบหนึ่ง เธอเป็นทั้งเด็กเนิร์ด เป็นทอมบอย และมีความเป็นนักกีฬาในตัวเอง

การที่เลือกหุ่นบัมเบิ้ลบีมาเป็นตัวละครเอกในหนังภาคแยก เพราะเขาเป็นหุ่นตัวโปรดของแฟนๆ และอาจเป็นออโต้บอทที่เหมือนมนุษย์มากที่สุด บัมเบิลบีมีหัวจิตหัวใจ มีความร่าเริงแบบวัยรุ่น และเป็นตัวละครที่มีหลากหลายระดับในตัว ดังนั้นเจ้าหุ่นตัวเหลืองจึงเหมาะที่สุดที่จะนำพาแฟรนชายส์นี้ไปสู่ทิศทางใหม่ๆ

จากแรงบันดาลใจในวัยเด็กสู่การก้าวเข้ามากำกับ

Bumblebee ได้ตัวผู้กำกับอย่างทราวิส ไนท์ ประธานและซีอีโอของไลก้า บริษัทแอนิเมชั่นที่ตั้งอยู่ที่พอร์ตแลนด์ โดยผลงานแอนิเมชั่นเรื่อง Kubo and the Two Strings ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้ามารับงานกำกับเรื่องนี้ คือการรำลึกความหลังในวัยเด็กที่เขา เคยเล่นหุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์สมัยที่ยังเป็นเด็กในยุค 1980s นอกจากจะเป็นแฟนตัวยงของซีรีส์ทางทีวีเรื่องนี้แล้ว เขายังคลั่งไคล้บรรดาภาพยนตร์คลาสสิกของยุคนั้น ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ของสตีเว่น สปีลเบิร์ก เรื่อง E.T. the Extra-Terrestrial และภาพยนตร์อีกหลายเรื่องของ จอห์น ฮิวจ์ส  โดยมุมมองที่ไนท์มีต่อตัวละครมนุษย์อย่างชาร์ลีในเรื่อง คือการมองว่าความพยายามในการปรับตัวของเธอ คือการดิ้นรนอันเป็นสากลที่พวกเราทุกคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความพยายามทำตัวให้เข้ากับสังคมให้ได้ การเป็นที่ยอมรับ ทำตัวโดดเด่นและสร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมา สิ่งเหล่านี้อาจจะขัดแย้งกัน แต่นั่นคือช่วงเวลาที่ “วัยรุ่น” จะต้องเผชิญกับมัน

ทำไมต้องเฮลีย์ สไตน์เฟลด์

ผู้ชมหนุ่มๆสายหนังแอ็คชั่นอาจจะไม่คุ้นหน้าและคุ้นชื่อสาวเฮลีย์ สไตน์เฟลด์สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นสายหนังรางวัลหนังคุณภาพแล้ว น่าจะรู้จักเธอตั้งแต่ที่แจ้งเกิดอย่างงดงามในหนังของสองพี่น้องผู้กำกับโคเอนส์เรื่อง True Grit ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุแค่เพียง 14 ปีและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรก!

หลังจากที่เธอได้รับการยืนยันว่าจะได้รับบทเป็นตัวละครชาร์ลี สิ่งแรกที่เธอทำคือการเตรียมตัวและทำการบ้าน ด้วยการกลับไปดูภาพยนตร์ภาคแรก ซึ่งเธอให้ความสำคัญมากระหว่างบทสนทนาระหว่างหุ่นยนต์กับมนุษย์ และเธอค้นพบว่า ตอนแสดงจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย เพราะเธอต้อง “เล่นกับความว่างเปล่า” เนื่องจากบัมเบิ้ลบีที่ผู้ชมจะได้เห็นบนจอนั้น เป็นเทคนิคพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมาในภายหลัง

ในมุมลึกๆของชาร์ลีนั้นเธอยังจมอยู่กับความทรมาน เจ็บปวดและโกรธที่ต้องสูญเสียพ่อไปอย่างไม่ทันตั้งตัว แม้ว่าคนอื่นๆในบ้านจะเริ่มต้นใช้ชีวิตต่อไป สิ่งที่พอปลอบประโลมชาร์ลีคือรถคอร์เว็ตต์ ปี 1959 ของพ่อ เพราะเธอและพ่อ สนิทสนมกันมากจากการได้ใช้เวลาซ่อมรถเก่าๆ ด้วยกัน พร้อมกับการฟังเพลงโปรดของพ่อ แต่ตอนนี้ การมีรถโฟล์คเป็นของตัวเองดูจะกลายเป็นตั๋วนำไปสู่อิสรภาพให้กับเธอ เพราะจริงๆชาร์ลีรู้สึกว่า ตอนที่เธอเสียพ่อไป เธอเหมือนเสียบางส่วนของตัวเองไปด้วย เมื่อเธอพบชิ้นส่วนที่ขาดหายไปนี้ มันบังเอิญกลายเป็นหุ่นยนต์ที่เธอตั้งชื่อให้ว่าบัมเบิ้ลบีนั่นเอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook