และแล้วเส้นทางของรายการเรียลลิตี้ชื่อดังเพื่อเฟ้นหานางแบบอย่าง The Face Thailand 3 ได้เดินทางมาสู่บทสรุปหลังจากการเลื่อนออนแอร์ของรายการเกือบครึ่งปี อีกทั้ง ดราม่าในรายการมากมาย EP13 เหมือนเป็นวันสุดท้ายของการแข่งขัน และสงครามระหว่างเมนทอร์ที่เผ็ดร้อนอย่างยาวนานก็จะจบลงซักที

1.โชว์เปิดจากคนไม่ใกล้ไม่ไกล

หลังจากฮอลล์ใน GMM LIVE ดับลง อินโทรเพลงอย่าง I'm In Love With a Monster ก็ดังขึ้น พร้อมปรากฏร่างของเมนทอร์จากซีซั่นแรกอย่าง หญิง รฐา โพธิ์งาม และการเปิดตัวนายแบบรับเชิญในรายการอย่างหลุยส์ เมซ่า ที่หล่อออร่า มาเดินแบบในแคทวอล์คที่ยาวค่อนฮอลล์ ลักษณะของโชว์ในวันนี้ทำให้เราพอสัมผัสได้ถึงกลิ่นของงานแฟชั่นโชว์ระดับโลกอย่าง Victoria's Secret ที่ใช้นักร้องชื่อดังมาร่วมทำโชว์ร่วมกับการเดินแบบ

2.การขโมยซีนของมาญ่า

วิดีโอในช่วงการเปิดตัวของเมนทอร์ในซีซั่นที่ 3 ว่าด้วยการบลัฟกันระหว่างเมนทอร์ว่าลูกทีมของใครเจ๋ง เด่นกว่ากัน วิธีการตัดต่อวิดีโอขั้นเทพของรายการนี้ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า เทคนิคในการการตัดต่อนั้นสามารถสร้างเรื่องราวให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกแก่ผู้ชมได้ในระดับไหนตลอดทั้งซีซั่นที่ผ่านมา วิธีการตัดต่อสามารถทำให้ผู้ชมรัก สงสาร เกลียด หมั่นไส้ผู้เข้าแข่งขันคนไหนก็ได้ ถ้ารายการเลือกจะหยิบเอาภาพฟุตเทจในรายการมาเล่าในแบบที่ต้องการ ดังนั้นต้องยืมคำพูดพี่ช่ามาเตือนสติตลอดที่ดูรายการนี้ว่า “อย่าอินเกิน”
วิดีโอบลัฟกันระหว่างเมนเทอร์อาจจะจบลงด้วยการขึ้นโลโก้ของรายการ แต่รายการก็ยังหักมุมด้วยการปิดท้ายด้วยการตัดภาพของมาญ่า พร้อมกับประโยคที่ว่า “มาญ่า ไม่ยอม มาญ่าคือเดอะเฟสไทยแลนด์” มาเรียกเสียงฮาจากคนดูทั้งฮอลล์ เรียกได้ว่าเป็นการขโมยซีนครั้งสำคัญของรายการวันนี้เลยก็ว่าได้

3.ซีนของเมนทอร์ประจำซีซั่น

ช่วงสัมภาษณ์เมนทอร์ของรายการได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่า ยามที่เมนทอร์แต่ละครสัมภาษณ์สดๆนั้น ใครสามารถคุมสติและเรียบเรียงคำพูดได้ดีกว่ากัน เมนทอร์คริส น่าจะเป็นคนเดียวที่สามารถตอบคำถามของพิธีกรอย่าง โอปอล์ ปาณิสรา ด้วยความฉะฉาน ชัดเจน และยิงหมัดเด็ดในทุกประโยคที่เธอพูด ไม่ว่าจะเป็นการขอบคุณเมนทอร์มาช่าที่เลือกเกรซ ทำให้คริสที่มารับช่วงต่อมีไฟนอลวอล์คและมีศักยภาพที่จะชนะในวันนี้ ขณะที่เมนทอร์บี ดูพยายามเซอร์วิสแฟนๆรายการมากไปหน่อย (ไหนพี่บีบอกของจริงไม่ต้องพูดเยอะไง ซีซั่นนี้พี่บีพูดเยอะมากจริงๆ) ส่วนเมนทอร์ลูกเกด เปลี่ยนโหมดมาเป็น “คุณแม่” ทำซึ้งอยู่คนเดียว ด้วยการพูดถึงความรักที่เธอมีให้แก่ลูกทีมตลอดทั้ง 3 ซีซั่นที่ผ่านมา

4.แคมเปญสุดท้ายถ่ายหนังแค่สองเทค!

เป็นประจำในทุกๆซีซั่น สิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต้องเจอในแคมเปญสุดท้าย คือการถ่ายละครหรือภาพยนตร์ ซึ่งสิ่งที่เกรซ สกาย ฟ้าและเพลงขวัญต้องทำคือการเล่นซีนหนังแอ็คชั่นที่มีคิวบู้ พร้อมทั้งพูดบท และต้องใช้โทรศัพท์มือถืออย่างซัมซุงประกอบการแสดงด้วย ซึ่งจะว่าไปแล้วเคมเปญนี้ เรียกได้ว่ายากอย่างแท้จริง เพราะทั้งการจำบท แสดงฉากต่อสู้ ต้องทำทั้งหมดทั้งมวลให้เสร็จสิ้นภายในเวลาแค่ 5 นาที!!! ทั้งที่ความเป็นจริงนั้นการแสดงฉากเหล่านี้เพื่อจะให้ได้เทคที่ดีในการทำงานจริงๆในวงการบันเทิงนั้นใช้เวลาร่วมหลายชั่วโมง ดังนั้นสิ่งที่ปรากฏออกมาในรายการไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะหรือเป็นผู้แพ้ในแคมเปญนี้ ทุกคนพยายามที่จะทำมันให้ดีที่สุดอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ

5.ไฟนอลวอล์ค

ไม่รู้ว่าปีนี้การเดินไฟนอลวอล์คแคทวอล์คยาวเกินไปหรือเปล่า ทำให้ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนพยายามพรีเซนต์ตัวเองในรูปแบบที่ต่างกันและด้วยเวลาที่ยาวนานในการเดินความพยายามในการคิดท่าทางต่างจริงออกมาดูไม่ค่อยลื่นไหลนัก ไม่ว่าจะเป็นเพลงขวัญที่พยายามจะฟูลเทิร์นสองรอบแต่ตะกุกตะกัก สกายกับการสะบัดกระโปรงครั้งแล้วครั้งเล่า ฟ้ากับการโดนทำร้ายจากเมคอัพที่ทำให้เธอดูเหมือนสาวประเภทสองมากกว่าผู้หญิง ส่วนเกรซน่าจะเป็นคนเดียวที่เล่นกับองค์ประกอบทุกอย่างได้อย่างลื่นไหนที่สุด

6.การปรากฏตัวของเมนทอร์มาช่าและชัยชนะของเกรซ

ทุกองค์ประกอบในวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้เค้าลางของชัยชนะว่าเกรซจะเป็นเดอะเฟสคนที่ 3 ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น องค์ประกอบของชุดสีขาวที่ขับกับผิวสีของเธอ ท่าทางการเดินไฟนอลวอล์ค และการปรากฏตัวของเมนทอร์มาช่าในเพลง Music Lover ยิ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกได้อีกว่ามงน่าจะลงเกรซอย่างแน่นอน

ทันทีที่ติช่า ผู้ชนะจากซีซั่นที่แล้วประกาศชื่อว่า The Face คนที่ 3 ของไทยคือ "เกรซ ณัฐธยาน์ บุญชมไพศาล" ทำให้เธอกลายเป็นผู้เข้าแข่งขันคนแรกในรายการที่คว้าชัยชนะและมีเมนทอร์ถึงสองคนด้วยกัน เธอเป็นนางแบบสัญชาติไทยที่มีผิวสีเข้ม และแน่นอนว่าเธอจะได้ไปร่วมงานแฟชั่นวีคถึงนิวยอร์ก

การขับเคี่ยวกันอย่างยาวนานของซีซั่นที่ 3 ก็จบลง แต่ยังไม่ทันไรตอนต่อไปของ The Face ก็เริ่มต้นขึ้นในวันถัดมาทันที เมื่อ The Face Men เริ่มทำออดิชั่นค้นหานายแบบทันที ซึ่งกำหนดการออกอากาศคือเดือนกรกฏาคมที่จะถึงนี้ แล้วเราจะได้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับรายการที่มีเมนทอร์เป็นผู้ชายและผู้เข้าแข่งขันชาย วาทะในรายการจะเผ็ดร้อนแค่ไหน แล้วรายการจะแซ่บแค่ไหน กรกฎาคมนี้เราต้องมาติดตามกันต่อ

@PRETTYPLASALID

อัลบั้มภาพ มองหลายมุมกับ The Face Thailand 3 EP13 บทสรุปของซีซั่น ภาพที่ 5 / 8

มองหลายมุมกับ The Face Thailand 3 EP13 บทสรุปของซีซั่น

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

มอง 5 มุมกับ The Face Thailand 3 EP12 คุณค่าของความขยัน

ญาญ่า เยือน The Face Thailand 3 ลูกเกด บอกเลยแคมเปญนี้ตายแน่ๆ

มอง 5 มุมกับ The Face Thailand 3 EP11 ความเงียบงัน

มอง 5 มุมกับ The Face Thailand 3 EP10 : เป่า ยิ้ง ฉุบ