เมื่อเด็กๆ เรียกร้องอยากฉลองคริสต์มาสครั้งเดียวแบบบ้านอื่นทำให้ แบรด (วิล เฟอเรล) กับ ดัสตี้ (มาร์ค วาห์ลเบิร์ก) ทีมป๊ะป๋าและ ซาร่า (ลินดา คาร์เดลลินี) ได้เวลาเผชิญหน้ากับปู่ 2 บ้านที่ต่างกันสุดขั้วทั้ง เคิร์ต (เมล กิ๊บสัน) พ่อสุดแสบของดัสตี้ และ ดอน (จอห์น ลิธกาว) คุณพ่อสุดมุ้งมิ้งของ แบรด และถ้ายังป่วนไม่พองานนี้ยังมี โรเจอร์ (จอห์น ซีนา) สามีเก่าของ คาเรน (อเลซานดรา เอมโบรซิโอ) แฟนใหม่สุดเปรี้ยวของดัสตี้งานนี้คริสต์มาสเลยกลายเป็นกลายเป็นงานป่วนฮา

การกลับมาของหนังคริสต์มาสห่ามๆ

ความโดดเด่นของ Daddy’s Home ตั้งแต่ภาคแรกคือการวางตัวเป็นหนังตลก(เกือบ)ห่าม ที่เอาพ่อเลี้ยงกับพ่อตัวจริงมาทำสงครามพิสูจน์ตัวเองต่อลูกๆ สุดแสบ ที่แม้จะขัดแย้งกันทุกด้านแต่แฝงความอบอุ่นและนิยามความหมายของครอบครัวในมุมมองแปลกใหม่ เลยทำให้หนังประสบความสำเร็จด้านรายได้จนมีภาคต่อภาค และจะมีอะไรที่เพิ่มความบันเทิงได้ดีไปกว่าการนำพ่อของทั้งคู่มาป่วนเทศกาลคริสต์มาสของเหล่าทีมพ่อล่ะ

หนังเลยย้อนรอยความสำเร็จของภาคแรกด้วยการเปิดเรื่องที่คุ้นเคยทั้งการรับพ่อที่สนามบิน เพื่อปูคาแรคเตอร์ตัวละครที่ต่างกันสุดขั้ว ไปจนถึงมุกตลกเจ็บตัวต่างๆ ที่อ้างอิงจากหนังภาคก่อน แต่เพิ่มความวายป่วงเข้าไปแบบคูณสอง แต่ใช่ว่าหนังจะเน้นตลกสุดขั้วแบบภาคแรกอย่างเดียว สิ่งที่ทำให้การเล่าเรื่องของหนังแข็งแรงจริงๆ คือการเพิ่มปมปัญหาระหว่างพ่อสองรุ่นที่ส่งผลให้ ดัสตี้ และ แบรด กลายเป็นพ่อที่มีนิสัยใจคอต่างกันสุดขั้ว ทั้งดัสตี้ที่เป็นผลผลิตของ เคิร์ต พ่อที่เป็นแบดบอยแบบลืมวัย ส่วน แบรด ที่ถูก ดอน เลี้ยงดูแบบไข่ในหินจนกลายเป็นคนอ่อนไหวง่าย ทำให้ดอนเองก็ไม่กล้าบอกความลับอันแสนสะเทือนใจกับดัสตี้

จนถึงฉากแสดงตลกบนเวทีที่ความจริงอันแสนเจ็บปวดของตัวละครถูกเปิดเผยพร้อมเสียงหัวเราะของผู้ชมที่ดูขัดแย้งและเย้ยหยันไปในตัวได้อย่างชาญฉลาด นั่นทำให้การสร้างคาแรคเตอร์ของหนังทั้งตัวละครเก่าและตัวละครใหม่ชวนให้คนดูติดตามเรื่องราววายป่วงของพวกเขาได้อย่างน่าประทับใจ และสามารถสานต่อไปสู่ประเด็นความต่างในการเลี้ยงลูกที่ภาคนี้หนุ่มน้อยอย่าง ดีแลน (โอเวน แวคคาโร) เกิดมีความรักจนสองพ่อต้องรวมหัวกันช่วยให้เจ้าตัวรวบรวมความกล้าบอกความรู้สึกตนเองกับสาวที่ตนแอบหลงรัก ที่ก็สร้างความฮาวายป่วงแต่แอบน่ารักจนคนดูได้ยิ้มแก้มแตกเลยทีเดียว

สร้างสรรค์ลีลาใหม่เล่นกับวัฒนธรรมคริสต์มาส

สิ่งที่หนังอิงเทศกาลคริสต์มาสนำเสนอคงหนีไม่พ้นความซ้ำซากอย่างต้นคริสต์มาส การแสดงฉากประสูติกาลของพระเยซู หรือแม้แต่เด็กๆ กับซานตาคลอส แล้วถามว่า Daddy’s Home 2 มีไหม? คำตอบคือมีครับแต่หนังนำเสนอออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ตั้งแต่ฉากจำลองการประสูติกาลของพระเยซูที่จบด้วยสงครามปาหิมะ ก็สอดคล้องกับเรื่องราวของพ่อเลี้ยงทั้งสองครอบครัวได้อย่างลึกซึ้ง หรือแม้แต่ต้นคริสต์มาสในหนังก็มาจากเสาสัญญาณ 4G ที่แบรดไปตัดมาเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นต้นสน หรือการขอของขวัญจากซานต้าคลอสที่เมแกน (สการ์เลต เอสเตเวซ) ลูกสาวสุดแสบของทั้งคู่ได้บอกความปรารถนาว่าอยากได้ปืนออกล่าไก่ง่วงเพื่อนำไปสู่ฉากวายป่วงอีกฉาก และไม่เพียงการนำสิ่งที่คนดูคุ้นเคยจนรู้สึกซ้ำซากมานำเสนอได้อย่างสร้างสรรค์เท่านั้น หนังยังเล่นกับความเชื่อแสนโรแมนติกเรื่องกาฝาก มิสเซิลโทว (mistletoe) ด้วยการสร้างฉากจุมพิตแรกของ ดีแลน (โอเวน แวคคาโร) หน้าสแตนดี้หนังแอ็คชั่นเรื่อง Mistletoe ที่เลียม นีสันนำแสดง ซึ่งโดยนัยแล้วมันไม่ได้เป็นเพียงการนำคำว่ามิสเซิลโทวมาดัดแปลงแบบผิวเผินเพียงแค่นำคำว่ามิสไซล์ที่พ้องเสียงกับมิสเซิลมาเป็นพลอตว่าด้วยคุณพ่อสุดแกร่งที่ต้องหยุดผู้ก่อการร้ายที่หมายทำลายโลกด้วยมิสไซล์ที่ขโมยมาเท่านั้น แต่ยังสามารถตอบโจทย์ที่หนังนำดาราขาบู๊ถึงสามคนคือ มาร์ค วาห์ลเบิร์ก, เมล กิ๊บสัน และ จอห์น ซีน่า ที่เคยผ่านหนังแอ็คชั่นพล็อตแบบเดียวกันมานำแสดงหนังครอบครัวที่ทั้งฮาและอบอุ่นเรื่องนี้ได้อย่างลงตัวนับว่า Daddy’s Home 2 นำเสนอเทศกาลคริสต์มาสในหนังได้สร้างสรรค์ไม่น้อยเลยทีเดียว

ทีมนักแสดงสุดป่วน

ในหนังภาคนี้จุดขายหลักคงหนีไม่พ้นการนำดาราขาบู๊มาลงจอทั้งหน้าเดิมอย่างมาร์ค วาห์ลเบิร์กที่ภาคนี้ได้มีโอกาสแสดงบทดราม่าพ่อลูกกับเมล กิ๊บสันที่มารับบทคุณปู่แบดบอยประหนึ่ง ริค คนมหากาฬมาเที่ยวคริสต์มาส พร้อมเซอร์ไพร์สจากจอห์น ซีน่า (นักมวยปล้ำคนดังที่กำลังจะมีหนังภาคแยกจาก Transformers อย่าง Bumblebee ) ที่ตอนท้ายได้แสดงความมุ้งมิ้งด้วยการร้องเพลงคริสต์มาส พ่วงด้วย จอห์น ลิธกาว จากซีรีส์ The Crown (2016) ที่มาแสดงเป็นคุณปู่ที่เล่นกับ วิล เฟอเรล ได้มุ้งมิ้งน่ารักน่าชัง

นอกจากนี้หนังยังเพิ่มประเด็นของมนุษย์แม่ที่ควรเป็นต้นแบบให้กับลูกมาเสริมรับมุกตลกในหนังได้อย่างลงตัวทั้ง ลินดา คาร์เดลลินี ในบทซาร่าแม่ที่เริ่มกังวลเมื่อ เมแกน ลูกสาวตัวเองเริ่มมอง เอเดรียน่า (ดีดี้ คอสติน) ลูกสาวสุดเปรี้ยวของคาเรน ที่รับบทโดย อเลซานดรา เอมโบรซิโอ นางแบบวิคตอเรีย ซีเคร็ทสุดฮอตเป็นต้นแบบจนนำมาซึ่งฉากฮาๆ อย่าง เมแกน ผูกเสื้อโชว์สะดือในงานแสดงที่โรงเรียนก็ทำให้หนังภาคนี้ตัวละครซาร่าของเธอมีบทบาทกับเรื่องราวมากขึ้น ด้านนักแสดงเด็กแม้ซับพล็อตจะว่าด้วยเรื่องของดีแลนที่รับบทโดย โอเวน แวคคาโร จะเป็นปมหลักที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิดการเลี้ยงลูกของทั้งดัสตี้และแบรด แต่เวลาในหนังของ แวคคาโร ยังถือว่าน้อยเกินไปที่จะสร้างความโดดเด่นให้ตัวละครของเขาผิดกับหนูน้อย สการ์เลต เอสเตเวซ ในบทเมแกนที่ภาคนี้ยิ่งทวีความแสบสุดน่ารักจนขโมยซีนนักแสดงรุ่นพ่อแม่ได้หลายฉากเลยทีเดียว

สรุปแล้วแม้วันนี้จะยังไม่ถึงเทศกาลคริสต์มาสแต่ด้วยทีมนักแสดงและมุกตลกที่ลงตัวใน Daddy’s Home 2 จะทำให้ผู้ชมได้หัวเราะและอบอุ่นจนเหมือนเทศกาลคริสต์มาสมาเร็วกว่าทุกปีเลยทีเดียวหนังเข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

อัลบั้มภาพ รีวิว Daddys Home 2 สงครามป่วนตัวพ่อสุดแสบคูณ 2 ภาพที่ 7 / 7

รีวิว Daddys Home 2 สงครามป่วนตัวพ่อสุดแสบคูณ 2