วิจารณ์หนัง CHAPPIE แกะดำของโลกอนาคต

วิจารณ์หนัง CHAPPIE แกะดำของโลกอนาคต

วิจารณ์หนัง CHAPPIE แกะดำของโลกอนาคต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

กระแสหนังของเจ้าแช็ปปี้หุ่นกระป๋องที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์แรกเริ่มก็คือการทำหน้าที่ “แทน” ตำรวจในการกวาดล้างเหล่าทรชนที่คิดจะละเมิดกฎหมายบ้านเมือง แต่เจ้าหุ่นกระป๋องตัวนี้เกิดถูกโจมตีและชำรุดจนเกินเยียวยา บริษัทเจ้าของหุ่นยนต์อย่าง “เทรต้าวาล” จึงสั่งเก็บเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้เอาไว้รอการทำลาย 

ในโลกอนาคตที่ประเทศสมมติ(ซึ่งฉากหลังจริงๆก็คือแอฟริกาใต้ เมืองหลวงอย่างโจฮันเนสเนสเบิร์ก อันเป็นเมืองหลวงของจังหวัดเกาทง อย่างไรก็ตามในประเทศทีมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง แต่เนื่องจากการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกัน เงินทุนส่วนใหญ่ยังอยู่แค่ในกลุ่มคนผิวขาว เป็นผลทำให้คนผิวดำส่วนใหญ่และผู้ที่มีรายได้น้อยมีคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ เกิดปัญหาสังคมมากมายที่ตามออกมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาชญากรรมต่างๆอาทิการค้ายาเสพย์ติด การทุจริตหรือแม้กระทั่งโรคระบาด 

เข้าใจว่าเป็นความตั้งใจของตัวผู้กำกับอย่างนีล บลอมแคมป์ ที่ต้องการจะสะท้อนคุณภาพชีวิตของผู้คนในบ้านเกิดเมืองนอนของประเทศตัวเองให้ออกมาสู่สายตาประชาคมโลก ดังนั้นเมื่อมองย้อนกลับไปในผลงานของเขาจะพบว่าหนังแจ้งเกิดของนีลอย่าง District 9 (2009) ก็บอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่กลายเป็นพลเมืองของรัฐแบบที่พวกเขาโดนกีดกันจากสังคม จนกระทั่งพระเอกของเรื่องกลายไปเป็นมนุษย์ต่างดาวซะเอง, Elysium โลกอนาคตที่บรรดาคนรวยก็ไปเสวยสุขอยู่บนสถานีอวกาศนอกโลก ปล่อยให้คนบนโลกที่เหลือบางส่วนอยู่ในสภาพอดอยากปากแห้ง และเรื่องล่าสุดอย่าง CHAPPIE ก็เล่าเรื่องราวของหุ่นยนต์ที่ดันเกิดมีความคิดความอ่านเป็นของตัวเองขึ้นมา 

จะเห็นได้ว่าหนังของนีลนั้นมักจะเลือกบอกเล่าเรื่องราวของ “คนนอก” นอกสายตาของการได้รับการเหลียวแลจากสังคม หรือพูดง่ายๆว่าเขามักจะเล่าเรื่องราวของตัวละครเอกที่ไม่ได้มีความเพียบพร้อม อย่างน้อยตัวละครพวกนี้มักจะเป็นพวกปากกัดตีนถีบ หรือไม่ก็เป็น “แกะดำ” ของสังคมเช่นเดียวกับแช็ปปี้ ที่กลายเป็นหุ่นยนต์ที่ต้องมาเติบโตและเรียนรู้ชีวิตจากบรรดามาเฟียสถุลที่ตอนแรกเขาคาดหวังว่าแช็ปปี้จะกลายเป็นเครื่องมือในการปล้นเงินจากคนอื่น

ระหว่างที่แช็ปปี้จับพลัดจับผลูต้องมาใช้ชีวิตแบบที่หุ่นยนต์(ที่มีความคิดความอ่านเหมือนเด็กแรกเกิด) ทำให้มันไม่สามารถจะแยกแยะผิดชอบชั่วดีอะไรได้มากเท่าไหร่ ดังนั้นสิ่งที่เราได้เห็นจากพฤติกรรมของแช็ปปี้คือการ “เล่นสนุก” ไปตามสิ่งที่นินจาหัวโจกมาเฟีย (นินจา) สั่งให้มันทำ แต่ภายใต้การสอดส่องสถานการณ์แล้วดูเหมือนว่าโยลันดี แฟนสาวของนินจาจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับสิ่งที่นินจาสั่งให้แช็ปปี้ทำ เพียงเพราะสัญชาติญาณของความเป็น “แม่” ในตัวละครนี้เลยมีความห่วงใย มีเอื้ออาธรณ์มากกว่า

น่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่จังหวะและวิธีการเล่าเรื่องของ Chappie ค่อนข้างเนือยและน่าเบื่อไปหน่อย ประกอบกับฉากแอ็คชั่นที่มีแค่ช่วงแรกและช่วงไคลแมกซ์เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นรายละเอียดในช่วงกลางเรื่องก็ค่อนข้างน่ารำคาญบรรดาตัวละครเสียมากกว่าจะชื่นชอบ (นักแสดงในเรื่องนี้ทุกคนเล่นใหญ่เหมือนเล่นละครเวทีกันเลยทีเดียว) 

แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายที่สุดก็คือการหยิบเรื่อง “จิต” ที่จะคงอยู่ตลอดไปไม่ว่าจะอยู่ “ร่าง” ไหนก็ตามที มาพูดตอนช่วงท้าย น่าเสียดายที่มันถูกนำเสนอแบบลวกๆไปหน่อยและไม่ทันให้คนได้ทันทำความเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งอย่างที่มันควรจะเป็น 

 

@พริตตี้ปลาสลิด

3.5 คะแนนจาก 5 คะแนน


อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง CHAPPIE แกะดำของโลกอนาคต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook