วิจารณ์หนัง When Marnie Was There

หลายต่อหลายคนอาจจะรู้สึก “ใจหาย” เมื่อทราบข่าวที่ว่า When Marnie Was There นั้นเป็นผลงานของ สตูดิโอจิบลิ เรื่องสุดท้าย ก่อนที่แผนกแอนิเมชั่นขนาดยาวจะปิดตัวลงเป็นการชั่วคราว เพื่อเอาเวลาต่อจากนี้ทบทวนการวางแผนการทำงานอย่างถี่ถ้วนและตั้งหลักใหม่

ผลงานแอนิเมชั่นขนาดยาวลำดับที่ 21 เรื่องนี้ยังเต็มไปด้วยลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ของสตูดิโอและยังมีดนตรีประกอบที่ไพเราะติดหูเช่นเคย ยิ่งไปกว่านั้น When Marnie Was There ยังเป็นผลงานหนังจิบลิเรื่องแรกที่ไม่มีชื่อเครดิตของ ฮายาโอะ มิยาซากิและอิซาโอะ ทาคาฮาตะ พ่วงมาด้วย เนื่องจากทั้งสองได้เกษียณตัวเองไปแล้ว

ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของอันนาเด็กสาววัย 12 ปี ที่กลายเป็นเด็กกำพร้า เธอได้รับการเลี้ยงดูโดยแม่บุญธรรม ด้วยโรคประจำตัวของเธออย่างอาการหอบหืดกำเริบหนักขึ้น ทำให้อันนาถูกส่งตัวไปอยู่กับป้าที่ชนบทนอกตัวเมือง และที่นั่นเองทำให้สาวน้อยได้พบกับมาร์นี่ หญิงสาวผมทองหน้าตาสะสวยผู้ทำตัวลึกลับและอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ริมน้ำซึ่งดูราวกับไร้ผู้คนมาเป็นเวลานาน แต่แล้วระหว่างเด็กหญิงสองคนที่ดูภายนอกไม่มีอะไรเหมือนกันเลยทั้งหน้าตา นิสัยและความเป็นอยู่ ทว่าทั้งสองกลับเชื่อมโยงร้อยรัดกันด้วยอะไรบางอย่าง และที่สำคัญคือทั้งคู่ต่างมีกันและกันเหมือนกับเป็นเพื่อนเพียงคนเดียว จนกระทั่งความจริงใกล้จะปรากฏถึงเรื่องราวตัวตนของมาร์นี่ ที่อาจจะทำให้อันนาเปลี่ยนความรู้สึกในจิตใจของตัวเองไปตลอดกาล 

ผลงานการกำกับของ ฮิโรมาซะ โยเนบายาชิ เรื่องนี้ ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ค่อยน่าประทับใจนักเมื่อเทียบกับผลงานเรื่องก่อนหน้านี้อย่าง The Secret World of Arrietty เนื่องจากคาแรกเตอร์ของตัวละครใน When Marnie Was There นั้นทั้งอันนาและมาร์นีนั้นดูเป็นตัวละครที่อมทุกข์ตรม จนเราดูแล้วค่อนข้างอึดอัดไปกับชะตากรรมของพวกนางมากกว่าจะหลงรัก แต่อย่างไรก็ตามถ้ามองในแง่จุดเด่นของเรื่องที่ว่าถ้าหากหนังต้องการจะชูประเด็นเรื่องความล่มสลายของครอบครัว หนังก็ทำออกมาได้ชัดเจนพอสมควร เมื่อทั้งอันนาและมาร์นี่นั้นต่างก็กลายเป็น “เด็กมีปัญหา” เนื่องจากแต่ละคนไม่สามารถ “รับสภาพ” ครอบครัวของตนเองได้

อันที่จริง When Marnie Was There ถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมอังกฤษในชื่อเดียวกันของ โจน จี โรบินสัน โดยโครงเรื่องนั้นมีความซับซ้อนอยู่ในตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นตัวละครแต่ละตัวก็มีแรงขับเคลื่อนภายในอยู่ไม่น้อย ตัวละครในเรื่องนั้นน่าสนใจในแง่ของกลิ่นอายความเป็น “หญิงรักหญิง” อยู่ในเรื่องเนื่องจากตัวเอกของเรื่องนั้นเป็น “หญิง” ด้วยกันทั้งคู่ ประกอบกับความโหยหาเพื่อนพึ่งพิงทางใจของ “อันนา” แล้วยิ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกไปในทิศทางนั้นอย่างไม่ปฎิเสธด้วย

ส่วนตัวแม้จะไม่ได้ประทับใจกับ When Marnie Was There เท่าไหร่นัก แต่นี่ก็เป็นแอนิเมชั่นจิบลิที่บรรดาคอหนังค่ายนี้ไม่ควรพลาดครับ 

 

@พริตตี้ปลาสลิด

ให้ 3.5 คะแนนจาก 5 คะแนน